'บิ๊กเชฐ' ชู 3 นโยบายลงชิงเก้าอี้นายกบอล

'บิ๊กเชฐ' ชู 3 นโยบายลงชิงเก้าอี้นายกบอล

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
"บิ๊กเชฐ" นายพิเชฐ มั่นคง อดีตประธานสโมสรการท่าเรือไทย เอฟซี เป็นประธานแถลงข่าวเปิดตัวลงสมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อวันที่ 26 เม.ย. ที่ผ่านมา ที่ห้องแถลงข่าวสนามแพทสเตเดี้ยม

"บิ๊กเชฐ" เปิดเผยว่า ผมพร้อมที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในวันที่ 6 พ.ค. 2554 โดยการลงสมัครชิงตำแหน่งในครั้งนี้ ผมขอยืนยันว่า ไม่มีผู้ใดอยู่เบื้องหลังตามที่เป็นข่าว และไม่มีเงินซื้อเสียงละ 30,000 บาท ตามที่มีคนกล่าวหา ที่ตัดสินใจลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมฯ ครั้งนี้

เนื่องจาก ผมเคยทำงานให้กับสมาคมฟุตบอลฯ มาก่อน ตั้งแต่ปี 2518 เป็นเวลา 36 ปี มาแล้ว ทำงานปีเศษ ในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการฯทุกวันนี้ สมาคมฯ ก็ยังทำงานกันแบบเช้าชามเย็นชาม 30 กว่าปีการบริหารงานก็ยังเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง แม้จะมีพี่ๆ น้องๆ ในวงการเตือนผมว่า อย่าลงสมัครเลย เพราะยังไงก็แพ้ แต่ผมคิดว่าไม่แพ้ และมีความมั่นใจว่า มีความสามารถและประสบการณ์ ที่จะช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลไทยให้ก้าวไปสู่จุดที่แฟนบอลต้องการ หลายคนบอกว่าผมมาเป็นสีสันแต่ผมมาเพื่อสร้างสรรค์

"ซึ่งหากผมไม่ได้รับการเลือกตั้งอย่างแรกเลย ทีมฟุตบอลต้องได้แชมป์ซีเกมส์ หากไม่ได้ผมพร้อมจะลาออกทันที สำหรับ 3 นโยบายหลัก คือ ข้อ 1 ทำแผนยุทธศาสตาร์การกีฬาแห่งชาติใหม่ ให้สามารถจับต้องได้ มีแผนกลยุทธ์ระยะสั้น ระยะยาว 1 ปี 3 ปี 5 ปี อาทิเช่น เป้าหมายของทีมชาติ จะต้องชัดเจน ข้อ 2 ปรับโครงสร้างสภากรรมการฟุตบอล เสียใหม่ โดยเปิดให้ทุกคน ทุกองค์กร เข้ามามีส่วนร่วม อาทิ อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย ตัวแทนสื่อมวลชน ตัวแทนสมาชิกสโมสร

ข้อ 3 โค้ชทีมชาติไทย จะต้องใช้โค้ชทีมชาติไทย ผมเชื่อว่าคนไทยมีความสามารถเยอะ โดยมีทีมงานที่จะมาช่วยทำงาน ได้แก่ ดร.ศักดิ์ชาย พิทักษ์วงศ์ คณะบดีคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยบูรพาอดีตเลขาธิการสมาคมว่ายน้ำฯ มานั่งเป็น เลขาธิการสมาคมฟุตบอลฯ โดยจะเป็นผู้ดูแลแผนยุทธศาสตร์

"ผมคิดว่า ผมเหนือกว่านายกสมาคมฯ คนก่อน เพราะประสบการณ์มากกว่าเนื่องจากเคยทำงานในสมาคมฯ ตั้งแต่สมัย พันเอกอนุ รมยานนท์ เป็นนายกสมาคมฯ ผมเป็นคนพูดจริงทำจริง พูดยังไง ทำอย่างนั้นผมทำตามหลักวิชาการ และไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ผมจึงมั่นใจว่า จะสามารถทำงานเพื่อผลประโยชน์ของวงการฟุตบอลเมืองไทยได้อย่างเต็มที่"

"ขณะนี้ ที่แน่ๆ ผมมี 30 เสียง ในมือ ถึงจะไม่มาก แต่เชื่อว่าในวันเลือกตั้ง ต้องมีเซอร์ไพรส์แน่นอน ผมอยากจะฝากไปถึง วรวีร์ มะกูดี สบายใจ โปรดอย่ามองผมเป็นคู่แข่งอาจจะมีคนอื่นที่จะเข้ามาลงสมัครเป็นคู่ชิงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลฯ"

"ในส่วนของฟุตบอลสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ ลีก ผมจะเปลี่ยนระบบนักเตะต่างชาติในแต่ละทีม ลดจำนวนลง จาก 7 คน เตะได้ 5 คน เหลือ 5 คน ลงสนามได้ 3 คน ถือเป็นนโยบายเร่งด่วน เนื่องจากฟุตบอลไทยพรีเมียร์ ลีก เป็นลีกอาชีพของคนไทย ควรให้โอกาสนักเตะไทยได้ลงสนามแข่งขัน"

"ผมลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่ได้มาจากความเจ็บปวด แต่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลง และมั่นใจว่าผมมีประสบการณ์ความรู้ทำบอลไทยให้ก้าวไกลสู่อนาคตได้อย่างแน่นอน"

"ส่วนเรื่องกรณีของซูเปอร์ริท ไม่ได้ร้ายแรงขนาดที่เป็นข่าวทีมฟุตบอลการท่าเรือไทย เอฟซี ไม่ได้แพแตก จริงๆ น่าจะคุยกันได้ถ้าเกิดแพแตกจริงๆ จะไม่ให้เด็กๆ ตกงาน แต่ทาง "โค้ชเตี้ย" สะสม พบประเสริฐ ได้รับการทาบทามจากทางบุรีรัมย์ เอฟซี ถ้าได้ขึ้นมาไทยพรีเมียร์ ลีก ปีหน้า ส่วนกรณีการตกลงทำเอ็มโอยูของซูเปอร์ริท กับทางการท่าเรือฯ ข้อตกลงมันยิบย่อย ไม่ใช่การทำงานของ
มืออาชีพ มีข้อห้ามเยอะมาก จริงๆ จะมาหารือตกลงกันตั้งแต่ เมื่อวันที่ 25 เม.ย. แต่ทางการท่าเรือ ไม่ว่าง โดยไม่ได้มีการพูดคุยกันอีกเลย เรื่องนี้คงต้องรอ เพราะยังไม่มีบทสรุป"
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook