"โค้ช เตี้ย" ประเดิมหรู บุรีรัมย์เอฟซี ฉลุย เอฟเอคัพ

"ลาวาเพลิง"ประเดิมบอลเอฟเอคัพ อย่างสวยงาม  หลังบุกไปทุบ "อินเทรีทัพฟ้า" 2-0 ศุภกิจ-รัตนะ ซัดคนละตุง  ผ่านเข้ารอบ 32 ทีมได้สำเร็จ

ศึกฟุตบอลถ้วย มูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ นัดกลางสัปดาห์ เมื่อวันพุธที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา   ทีมแกร่ง  บุรีรัมย์ เอฟซี  ยกพลบุกรัง “อินทรีทัพฟ้า” แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด  โดยคู่นี้เคยเจอกันมาแล้วในเกมลีก ปรากฎว่า บุรีรัมย์ เอฟซี ไล่ยำไปกระจุย 6-1

เจ้าถิ่น วิชิต เสชนะ  มีการปรับทัพให้โอกาสตัวสำรองลงหลายราย  เนื่องจากมีเกมนัดตกค้างรออยู่  โดยส่งตัวหลักอย่าง  จักรีพันธ์ เกศนาดินทร์  ยืนชูโรงในแนวรับ  พร้อมทั้ง  มนินท์ เภามี,  วสันต์  สมานสินธุ์  และ วโรดม จันทร์ศร  เป็นแกนหลัก

ทางด้าน “เสือเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ  กุนซือป้ายแดง  ไร้ปัญหาจัดทัพ สามารถส่งตัวหลักอย่าง ศุภกิจ จินะใจ กัปตันทีมที่เพิ่งหายเจ็บกลับมาลงสนาม  พร้อมทั้ง  ดักลาส คาร์โดโซ่ ดาวยิงแซมบ้า  ขณะที่ตรงกลางส่ง จิรวัฒน์ ภัครมย์ คุมทัพคู่กับ รัตนะ เพช็รอาภรณ์  ส่วนแนวรับมีแข้ง อาลีฟ เปาะจิ ลงประเดิมแนวรับ

เริ่มเกมขึ้นมาเป็นเจ้าถิ่น ได้ทักทายก่อนจากการเปิดมากลางประตูแบบกึ่งยิงกึ่งผ่าน  ทำให้ อุกฤษณ์ วงศ์มีมา ที่ตัดสินใจรับ เกิดกระฉอก แต่ยังดีที่เคลียร์ทิ้งได้ทัน
 
นาทีที่ 10 ทีมเยือนน่าจะได้ประตูออกนำอย่างยิ่ง  เมื่อ  ดักลาส คาร์โดโซ่ เก็บตกในกรอบเขตโทษได้ ก่อนได้ตะบันเน้นๆ  แต่ถูก ทศพล อิ่มทรัพย์  โชว์ฟอร์มเซฟได้อย่างเหลือเชื่อ
 
เกมผ่านมา 15 นาที ทาง แอร์ฟอร์ซ ที่วันนี้เปิดเกมสู้ได้อย่างไม่กลัวเกรง  และจังหวะที่ รัตนะ เพ็ชรอาภรณ์ ตัดบอลพลาดกลางสนามมาเข้าทาง รัชภาค ดวงฟ้า  ที่ได้โอกาสลองส่องไกลนอกกรอล บอลพุ่งแรงแต่เข้าข้างตาข่ายนิดเดียว
 
แต่ถัดมานาที  19  บุรีรัมย์ ได้ลุ้นบ้าง  คราวนี้เป็นแข้งใหม่อย่าง จิรวัฒน์ ภัครมย์ ที่เล่นได้เด่นเหลือเกิน  ได้บรรจงปั่นโค้งระยะ 18 หลา  แต่หนีมือ ทศพล อิ่มทรัพมย์ มากไปหน่อย เลยหลุดเสาออกไป
 
นาที 24 เป็นโอกาสอีกครั้งของทีมเยือน เมื่อ ดักลาส คาร์โดโซ่  แทงทะลุช่องให้ สมเจตร สัตบุษ  หลุดเข้าไปยิงเหน่งๆ แต่แต่งหลายจังหวะก่อนยิงติดเซฟกระดอนโดนตัวออกไปอย่างน่าเสียดาย
 
เข้าสู่นาที 30  ศุภกิจ จินะใจ  กัปตันทีมตัวจี๊ด ได้กระชากหลบผู้เล่นเจ้าถิ่นเข้าไปในกรอบเขตโทษ  แต่ไปล็อกหลายจังหวะ  ก่อนยิงไม่ดีติดบล็อกอีกครั้ง
 
นาที 35  ทีมเยือนได้เฮลั่นสนาม เมื่อ จิรวัฒย์ แทงบอลกลางสนามให้  ศุภกิจ จินะใจ  สปีดหนีกองหลังก่อนได้โอกาสหลุดเดี่ยวเข้าไปกระดกบอลข้ามหัว ทศพล อิ่มทรัพย์  เข้าไปอย่างสวยงามให้ทีมออกนำ 1-0 และเป็นประตูแรกจากการที่พักรักษาอาการบาดเจ็บไปนาน

และช่วงท้ายเกมนาที 45  บุรีรัมย์ มาได้ประตูหนี 2-0 จาก  รัตนะ เพ็ชรอาภรณ์  ได้โอกาสซัดนอกกรอบบอลพุ่งแรงเสียบสามเหลี่ยม หมดสิทธิ์ที่ ทศพล อิ่มทรัพมย์ จะพุ่งถึง  หลังจากนั้นทีมเยือน  “ลาวาเพลิง”ก็ถอยลงไปตรึงสกอร์จนหมดครึ่งแรก

เปิดฉากครึ่งหลัง บุรีรัมย์ มีการเปลี่ยนเอา สมปอง สอเหลบ หัวหอกใหม่ลงมาแทน สมเจตร สัตบุษ  ซึ่ง สมปอง มีโอกาสได้ยิงเหน่งๆ ในนาที 55 จากการทำเกมขึ้นมาสวย  ก่อนเพื่อนๆ ไหลใส่พ่านให้  สมปอง  แต่กลับยิงออกอย่างไม่น่าเชื่อ พลาดทำประตูแรกอย่างน่าเสียดาย
 
เกมส่วนใหญ่ตกเป็นของบุรีรัมย์  ที่ครองเกมสร้างจังหวะพังประตูได้หลายต่อหลายครั้ง  โดยทาง แอร์ฟอร์ซ ที่พยายามตั้งเกมสู้ แต่ก็ยังโดนดักไว้ได้ตลอด

และนาที 64 อองรี โจแอล กองหลังตัวเก่งเติมขึ้นสูง ก่อนได้โหม่งเต็มๆ  แต่โชคไม่ดีบอลไปโดนเสาอย่างจัง พลาดทำประตูหนีห่างอย่างนาเสียดาย   และถัดมาในนาที 66 สปอง สอเหลบ ได้โอกาสหลุดเดี่ยวแต่ยิงช้าไปหน่อย เลยติดบล็อกกองหลัง
 
เข้าสู่นาที 77 สมปอง มีโอกาสทำประตูอีกครั้ง เมื่อได้หลุดเข้าไปดวลตัวๆ แต่ยิงไม่ดีไปติดเซฟ ทศพล อิ่มทรัพย์ ที่ตะครุบเข้าซองไว้ได้

ช่วงท้ายเกม บุรีรัมย์ ถอยไปรับและรอสวนกลับเป็นระยะ  ซึ่งทาง แอร์ฟอร์ซ พยายามตีไข่แตก แต่ก็เจาะไม่เข้า ทำให้ครบ 90 นาที  ปรากฏว่า “นักรบลาวาเพลิง”บุกมาชนะ “อินทรีทัพฟ้า”2-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 32 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ

11 ผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม

แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด  : ทศพล อิ่มทรัพย์  (GK), สิริพงษ์ เสนาะเสียง, รัชภาคย์ ดวงฟ้า, มนินท์ เภามี, อันนู เดโอดาตุส, วสันต์  สมานสินธุ์, ศภนันท์ บุรีรัตน์, วโรดม จันทร์ศร, จักรีพันธ์ เกศนาดินทร์
บุรีรัมย์ เอฟซี : อุกฤษณ์  วงศ์มีมา (GK), สมเจตร สัตบุษ, โคเน่เซย์ดู, อองรี โจแอล, วีรยุทธ จิตรขุนทด, อาลีฟ เปาะจิ, รัตนะ เพ็ชรอาภรณ์, จิรวัฒน์ ภัครมย์     , สุริยา  ดอมไธสง, ศุภกิจ จินะใจ, ดักลาส คาร์โดโซ่    


ภาพ+ข่าว จาก : http://www.buriramfc.com/

สรุปผลคู่อื่นๆ
- ระยอง เอฟซี ชนะ แบงค็อก ยูไนเต็ด 2-1

- เมืองกาญจน์ เอฟซี เสมอ บางกอก เอฟซี 0-0
(เมืองกาญจน์ เอฟซี ชนะจุดโทษ 7-6)

- ระนอง เอฟซี แพ้ อาร์แบค เอฟซี 0-1

- ร้อยเอ็ด ยูไนเต็ด เสมอ สมุทรสาคร เอฟซี
(ร้อยเอ็ด ยูไนเต็ด ชนะจุดโทษ 5-6)

- พิษณุโลก เอฟซี  ชนะ เจ.ดับบลิว รังสิต เอฟซี 1-0

- แอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด แพ้ บุรีรัมย์ เอฟซี 0-2