มันโช่ ยาทัพเรือ!
ติดหมัดจากเมื่อวานนี้เรื่องของ “เรือใบสีฟ้า” ที่พลาดท่า “ขนหมู” มาเต็มลำ!
การพ่ายแพ้ให้กับคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องบอกว่ามันเป็นเจ็บธรรมดาที่ไม่ธรรมดามันเจ็บเป็น “สองเท่า” เจ็บยาวถึง “สองเด้ง”
โดยเฉพาะเมื่อ ยูไนเต็ด ปล่อยเด็กลงมาสู้แล้วทำได้อย่างสุดยอด ผิดกับ ซิตี้ ที่ปล่อยงูมาแต่ละตัวถือว่าชาวบ้านชาวเมืองต้องสะดุ้ง ไม่มีฐานทัพไหนในพรีเมียร์ลีก
ที่จะอุดมไปด้วยนักเตะชั้นยอดแบบนี้ชนิดล้นทีม
อย่าไปเถียงใครให้เสียเวลา ไม่มีทีมไหนที่จะ “กล้าตัด” นักเตะอย่าง เอ็มมานูแอล อเดบายอร์ กับ เคร็ก เบลลามี่ ออกไปจากทีม ซึ่งนักเตะพวกนี้อยู่ทีมไหนก็น่าจะได้เป็นตัวจริงไม่ยาก
แต่ที่ ซิตี้ ไม่มีที่ว่างให้ยืน
ลองดูไลน์อัพของนักเตะซิตี้ในเกมคอมมูนิตี้ชิลด์กันอีกครั้ง ประกอบด้วย โจ ฮาร์ท, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, แว็งซ็อง ก็อมปานี, โจลีออน เลสค็อตต์, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ, ไนเจล เดอ ยอง, ยาย่า ตูเร่, ดาวิด ซิลบา, เจมส์ มิลเนอร์, เอดิน เซโก้ และ มาริโอ บาโลเตลลี่
ตัวสำรองที่ถูกส่งลงไปเล่นคือ กาแอล กลิชี่, อดัม จอห์นสัน, เกเร็ธ แบร์รี่ ส่วนที่ไม่ได้ลงเล่นคือ สจ๊วร์ต เทย์เลอร์, สเตฟาน ซาวิช และ เซร์คิโอ อาเกโร่
ส่วนพวกที่ไม่มีชื่อในเกมนี้ยกตัวอย่างคือ คาร์ลอส เตเบซ, ฌอห์น ไรท์-ฟิลลิปส์, โรเก้ ซานตา ครู้ซ, ปาโบล ซาบาเลต้า, เวย์น บริดจ์, วลาดิเมียร์ ไวส์, เนดุม โอนูโอฮา รวมไปถึง เบลลามี่ และ อเดบายอร์ ที่โดนตัดชื่อ
อีกคนคือ โคโล่ ตูเร่ ที่ติดแบน
นี่ไม่ใช่ทีมที่ใหญ่เหรอครับ....บอกตรงๆ และต้องขออภัยที่ต้องใช้ว่า “โคตรจะใหญ่” เลยครับ!
อยากจะนั่งตบหน้าตัวเองหลายๆ ที เพราะไม่เข้าใจว่า ทำไม โรแบร์โต้ มันชินี่ ถึงกล้าบอกว่า “ทีมยังมีนักเตะไม่พอ” และต้องหานักเตะใหม่มาเพิ่ม รวมไปถึงกล้าบอกว่า แมนฯยูไนเต็ด มีขุมกำลังที่พร้อมที่สุดในปีนี้ของพรีเมียร์ลีก
แล้วไอ้พวกค่าเหนื่อยแพง ซื้อมาด้วยราคาแพงที่คุมซ้อมอยู่แทบจะทุกวี่วัน...พวกนั้นคืออะไร
ไม่มีที่ไหนหรอกครับพี่น้องที่มีแบ็กซ้ายที่ฝีเท้าระดับเดียวกันถึง 3 คน ทั้ง บริดจ์, กลิชี่ และ โคลารอฟ
ที่สำคัญ มันชินี่ จะทำอย่างไรให้ทีมเล่นได้อย่างลงตัว มีการประสานงานที่ดี และมี “หัวใจ” ในการเล่นให้กับต้นสังกัด
หัวใจและสปิริตสำคัญมาก เพราะฟุตบอลชายเดี่ยวใช้ได้เฉพาะบางสถานการณ์เท่านั้น
ตรงนั้นน่าปวดหัวอยู่แล้ว แต่ที่น่าปวดหัวกว่าก็คือ มาริโอ บาโลเตลลี่ ดาวยิงอัจฉริยะปัญญานิ่ม ที่ขยันทำตัวให้มันวุ่นวาย สมกับฉายาที่เรียกว่า....เกรียนโอ้
มันชินี่ เองก็คงจะ “ญาติระอา” กับไอ้หัวหอกคนนี้อย่างมาก อุตส่าห์ลากมาจากอิตาลี เพราะรู้ไส้รู้พุงและเชื่อมั่นว่า น่าจะเจียระไนเพชรเม็ดนี้ได้
น่าจะปราบพยศ “ม้าดี” ตัวนี้ได้
ทำไปทำมา มันชินี่ เริ่มทนไม่ไหวถึงกับบอกว่า “เกรียนโอ้” ตอนนี้ แย่ยิ่งกว่าสมัยรู้จักตอนอายุ 17 ปีเสียอีก และยอมรับด้วยว่า ต้องคุยกับ มาริโอ ทุกวัน เพื่อให้ปรับปรุงพฤติกรรมส่วนตัวเพื่อผลดีต่อทีม
หากไม่ดีอาจจะต้องส่งไปคุยกับจิตแพทย์
หลากหลายปัญหา หลากหลายความจับจ้อง หลากหลายความกดดัน มันท้าทายสำหรับ มันชินี่ เพียงแต่เงื่อนไขเดียวที่น่ากลัวที่สุด
นั่นก็คือ เขาจะมีเวลา “ยาเรือ” ลำนี้ได้นานแค่ไหน...เท่านั้น!
บี แหลมสิงห์
ขอขอบคุณข้อมูลจากคอลัมน์ may i come in please