หลังจบนัดแรกของพรีเมียร์ลีก

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เชื่อว่าแฟนบอลพรีเมียร์ลีกน่าจะมีความสุขกัน หลังจากที่รูดม่านเปิดฤดูกาลกันเสียที ซึ่งขอติดตามผลงานของทีมใหญ่กันเหมือนเคย โดยสองทีมจากแมนเชสเตอร์ อย่างแมนฯยูไนเต็ด และ แมนฯซิตี้ ทำผลงานได้ตามเป้าหมาย คือการเก็บสามแต้ม

ขณะที่สองทีมจากกรุงลอนดอนอย่าง เชลซี กับ อาร์เซนอล ผิดฟอร์มไปหน่อย ทำได้แค่เสมอกับคู่แข่ง จึงได้ไปทีมละแต้ม รวมทั้ง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล มาแบบน่าผิดหวัง ด้วยหนึ่งแต้ม

ถ้าดูจากการเล่นของแต่ละทีมก็ต้องขอยกให้ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ภายใต้การนำของ อังเดร วิลลาส โบอาส ที่ทรงบอลดูแล้วดีที่สุดมีอนาคตเลยทีเดียวหลังจากยกเครื่องใหม่ แม้จะพลาดท่าเสมอไปในเกมแรกก็ตาม โดยวันนั้นแนวรุกเชลซีไม่คมกันเอง จนได้แค่แต้มเดียว

ขณะที่แชมป์เก่า แมนฯยูไนเต็ด แม้จะคว้าชัยชนะมาได้แต่ก็ยังไม่ใช่ฟอร์มที่ดีที่สุดของทีม และระบบทีมบางส่วนยังไม่ค่อยจะลงตัวซักเท่าไหร่ ซึ่งจุดเด่นของแมนฯยูฯ ก็คือ การเอาตัวรอดเก็บสามแต้มหรือเอาชนะคู่แข่ง ถึงจะเล่นไม่ดี

ต่อมาคือ แมนฯซิตี้ ที่เอาชนะคู่แข่งอย่าง สวอนซี ทีมน้องใหม่ถึง 4 ประตู โดยรูปเกม แมนฯซิตี้ ก็ยังคือแมนฯซิตี้ เหมือนฤดูกาลที่แล้ว เน้นความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะเป็นหลัก มากกว่าระบบทีม

ซึ่งจุดนี้คือจุดแข็งของทีมเลย เพราะรูปเกมอาจจะไม่สวยงามหรือเพลินตา แต่ศักยภาพภายในทีมสามารถหวังได้ทุกนัดว่าทีมจะเก็บสามแต้ม

ยิ่งได้เห็นฟอร์มของนักเตะที่ซื้อเข้ามาใหม่อย่าง เซร์คิโอ กุน อาเกโร่ ที่ลงมาในช่วงครึ่งหลัง แต่มีส่วนกับสามประตูที่ทีมได้ ก็ยิ่งเห็นความน่ากลัวของเรือใบลำนี้เลยทีเดียว

 ทั้งเรื่องความสามารถเฉพาะตัว ความเร็ว หรือเซนส์บอล ต้องยอมรับว่า อาเกโร่ ไม่เป็นรองใครเลย แถมอาจจะไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวด้วยซ้ำ ดังนั้นแมนฯซิตี้ถือว่าเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างสวยงามที่สุดในบรรดาทีมใหญ่ด้วยกัน

ส่วนอีกสองทีมที่มองดูแล้วไม่ค่อยน่าพอใจก็คงเป็น “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ของ อาร์แซน เวนเกอร์ ที่เพิ่งเสียเชส ฟราเบรกาส ไปแบบสดๆ ร้อนๆ ถ้าดูจากฟอร์มการเล่นก็ยังเหมือนเดิม เพราะทีมเล่นสวยเน้นเกมบุกสวยงาม แต่ไม่ทรงประสิทธิภาพ เพราะทำประตูไม่ได้ สุดท้ายจึงได้แค่แต้มเดียวไปแบบไม่น่าแปลกใจ

ขณะที่ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ของ คิงเคนนี่ ดัลกลิช ก็ยังดูน่าผิดหวังกับฟอร์มการเล่นที่ทำได้เพียงแค่เสมอ เนื่องจากนักเตะที่ซื้อเข้ามาใหม่อย่าง ชาร์ลี อดัม หรือ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ก็ยังปรับระบบเข้ากับทีมไม่ได้

มีเพียงหลุยส์ ซัวเรซ ที่พอพึ่งพาได้ ซึ่งก็ต้องปรับปรุงแก้ไขให้เร็วที่สุดถ้าหวังจะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่เหมือนสมัยก่อน

สุดท้ายก็ขอให้คะแนนของแต่ละทีมจากฟอร์มการเล่น โดยสัปดาห์นี้ไม่มีทีมไหนได้เกรดเอ ทีมที่ได้คะแนนดีที่สุดด้วยคะแนน B+ เป็นสองทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ อย่าง แมนฯซิตี้ กับ แมนฯยูไนเต็ด ที่ประเดิมสามแต้มแรกได้ แม้จะยังไม่ใช่ฟอร์มที่ดีที่สุดก็ตาม

ตามมาด้วยเชลซีที่ได้เกรด B- เพราะเล่นดีมีระบบรูปแบบการเล่นที่หวังได้ แต่ไม่มีสกอร์กับสามแต้ม ในขณะที่อาร์เซนอลของเวนเกอร์ยังอยู่ที่เดิม แถมกำลังจะเสียนักเตะตัวสำคัญเพิ่มขึ้นไปอีก เกรดออกมาที่ C โดยถ้าไม่รีบแก้ไขหรือทำอะไรซักอย่างก็มีสิทธิที่จะเตะฝุ่นเหมือนที่ผ่านๆ มาสูง

สำหรับ ลิเวอร์พูล ดูแล้วไม่น่าประทับใจทั้งฟอร์มการเล่นหรือนักเตะภายในทีม ก็ขอให้เกรด D ที่ต้องแก้ไขโดยด่วน มิเช่นนั้นทีมไม่ได้กลับมามีลุ้นไปเล่นฟุตบอลยุโรปแน่

และดีไม่ดีอาจจะอยู่โซนล่างของตารางเลยทีเดียวครับ

เรื่องโดย "หมอเมา"

ขอบคุณเนื้อหาจากคอลัมน์ บท บก.หมอเมาเล่า

หมอ เมา..เมาท์บอล
วิเคราะห์ วิจารณ์ฟุตบอล ชัดเจน ตรงประเด็น
จากประสบการณ์ตรง กว่า 20 ปี
โทร. 1900 888 122
พิเศษสุดๆ วันนี้ โทรสูงสุด รับทอง 1 บาท ทุกเดือน