ฉลามเจ๊ง! "อี ควาง-แจ" ซัดโทนส่งร่วงที่ 3, ตร.ซึมโดนเจ๊าท้ายเกม
ฉลามชลพลาดท่าบุกไปโดนทีทีเอ็มดับ คาถิ่น 1-0 จากประตูชัยของ อี ควาง-แจ ศูนย์หน้าตัวใหม่ชาวเกาหลีใต้ตั้งแต่ครึ่งแรกทำให้ชลบุรี ต้องร่วงลงมาอยู่ ที่ 3 ของตารางเป็นรองทั้ง บุรีรัมย์ พีอีเอ และ เมืองทอง แล้ว ด้านอินทรีเพื่อนตำรวจ สุดเซ็งหลังโดน เอสซีจี สมุทรสงคราม ไล่เจ๊าท้ายเกมแม้จะได้คะแนนแรกรอบ 3 เดือนแต่ก็ไม่ชนะใครเป็นเกมที่ 7 แล้ว
ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก
วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม 2554
ทีทีเอ็ม พิจิตร 1 - ชลบุรี เอฟซี 0
ทีทีเอ็ม พิจิตรทีมอันดับ 13 แต่เล่นน้อยกว่าทุกทีมหลังเพิ่งประเดิมเลกสองไปเพียงนัดเดียวและต้องไล่ตี เสมอขอนแก่นแบบหืดจับ 2-2 เปิดสนาม พิจิตร สเตเดี้ยม พบ ชลบุรี เอฟซี รองจ่าฝูงที่ต้องการชัยชนะเพื่อกดดันบุรีรัมย์ พีอีเอ ซึ่งจะแข่งวันอาทิตย์
อี ยอง- มู ตัดสินใจส่งผู้เล่นแดนโสมลงสนามเต็มโควต้า 5 คน โดยเฉพาะ อี ควาง-แจ อดีตหัวหอกของโปฮัง สตีลเลอร์ส ได้จับคู่กับ ไกรกิตติ อินอุเทน ขณะที่ ยอน กี-ซอง ยังมีปัญหาอาการบาดเจ็บ ด้าน วิทยา เลาหกุล เลือกใช้งาน อองตูนี่ เอสปาร์ซ่า เป็นตัวจริงในไทยพรีเมียร์ลีกครั้งแรกเนื่องจาก เนย์ ฟาเบียโน่ ติดโทษแบน
เริ่มมา 4 นาที ทีมเยือนได้ทักทายก่อน พิภพ แปะสั้นๆให้ เอสปาร์ซ่า ซัดระยะ 20 หลาออกไปไกล ช่วงแรกยังเป็นชลบุรีที่ครองเกมบุกเข้าใส่อยู่ตลอด
น.12 ฉลามชลทำชิ่งกันขึ้นมาก่อนจะจบด้วยการยิงไกลของ อดุล หละโสะ แต่น้ำหนักเบาและตรงตัว ยู-ฮยอน รับสบาย ถัดมา 3 นาที อาทิตย์ โยกไปอยู่ฝั่งขวาเปิดจากริมเส้นให้ เอสปาร์ซ่า ชาร์จไม่ถึง 10 หลาข้ามคานแต่ผู้กำกับเส้นยกธงเป็นจังหวะล้ำหน้าไปแล้ว
น.20 ทีทีเอ็ม ได้โอกาสครั้งแรก อี ควาง-แจ สับไกยิงด้วยซ้ายหน้ากรอบเขตโทษแต่ไปแฉลบคูชิดะออกหลัง ส่วนลูกเตะมุมก็ไม่มีอะไร
น.32 ชลบุรี ที่บุกเพลินๆเกือบโดนก่อนจากความผิดพลาดของ คูชิดะ ไปครองบอลหน้าปากประตูตัวเองก่อนจะโดน สิทธิพันธ์ ฉกมาจากเท้าเข้าไปล่อเป้าแต่มุมแคบไม่ผ่านมือ สินทวีชัย
อย่างไรก็ตาม น.35 แนวรับฉลามชลโดนเล่นงานจนได้จากจังหวะโต้กลับของทีทีเอ็มก่อนที่ อี ควาง-แจ จะได้โอกาสปั่นโค้งด้วยขวาจากมุมกรอบเขตโทษบอลฮุบเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวย งามเจ้าถิ่นออกนำ 1-0 และ เป็นประตูแรกในการมาค้าแข้งเมืองไทยของอดีตศูนย์หน้าโปฮัง
วิทยา เลาหกุล เห็นท่าไม่ดีตัดสินใจเปลี่ยนทีเดียว 2 คนในช่วงท้ายครึ่งเวลาแรก เจษฎากร เหมแดง ที่เติมเกมรุกและลงมาไม่ทันจนทีมเสียประตูถูกถอดออกให้ เคนเน็ต อั๊คปูเอเซ่ ลงมา ขณะที่ เอสปาร์ซ่า ซึ่งสร้างประโยชน์ไม่ได้อยู่ในสนามไม่ถึง 40 นาที “โค้ชเฮง”ปล่อยให้ ณัฐพงษ์ สมณะ ลงมาแทน
ชลบุรีเกือบตีเสมอในช่วงทดเจ็บ เทิดศักดิ์ เปิดจากริมเส้นเข้ามาในกรอบเขตโทษ ยู-ฮยอน คว้าบอลพลาดหลุดมาเข้าทาง ณัฐพงษ์ ยิงสวนเข้าไปแต่โดน เอกลักษณ์ สกัดออกจาดเส้นหวุดหวิดทำให้หมดครึ่งแรก ทีทีเอ็มนำอยู่ 1-0
เริ่มครึ่งหลังทีทีเอ็มเปิดฉากได้ดี จู จิน-ฮัก วางยาวจากแดนตัวเองให้ คนึง วิ่งฉีกแนวรับฉลามชลจี้เข้าเขตโทษแต่จังหวะสุดท้ายดาวยิงร่างเล็กตัดสินใจ ไม่ดีกลายเป็นไหลบอลให้ สินทวีชัย รับง่ายๆ
น.49 คนึง ที่ป่วนแนวรับชลบุรีได้ตลอดเปิดจากริมเส้นให้ ควาง-แจ ล้มตัวยิงหลุดเสาแรกไปแบบมีลุ้น ส่วนทีมเยือนต้องการประตูตีเสมอ เทิดศักดิ์ ลองยิงไกลบอลเรียดพื้นแต่ ยู-ฮยอน พุ่งปัดออกหลังไปได้
น.57 ชลบุรี น่าจะตีเสมอได้ อาทิตย์ ตักบอลข้ามแนวรับทีทีเอ็มให้ ณัฐพงษ์ สอดขึ้นมาจับหนึ่งจังหวะและซัดด้วยขวาแต่ ยู-ฮยอน ยังไวออกมาบล็อกไว้ได้
ผ่าน 1 ชั่วโมงของเกมทีมเยือนพับสนามบุก “น้าเทิด”ดึงจังหวะหลบกองหลังทีทีเอ็มก่อนจะกดด้วยซ้ายบอลเหินขึ้นอัฒจันทร์ ถัดมา อดุล ยิงไกลกว่า 30 หลาตรงตัว ยู-ฮยอน รับสบาย
น.68 อี ยอง-มู ตัดสินใจปิดเกมด้วยการถอด ไกรกิตติ ออกแล้วส่ง แมง จิน-โอ ลงมาเสริมเกมรับ น.74 เทิดศักดิ์ เปิดให้ อดุล โหม่งจ่อๆติดเซฟของ ยู-ฮยอน อีก
ลูกทีมของ “โค้ชเฮง”ยังตั้งหน้าตั้งตาบุกแต่หาคนจบสกอร์ไม่ได้ขณะที่ ทีทีเอ็ม รอโอกาสสวนกลับโดยห้อย คนึง ไว้ป่วนแนวรับทีมเก่าและทำได้ดี ยันท้ายเกม เทิดศักดิ์ ได้ยิงฟรีคิกแฉลบกำแพงออกหลังและจังหวะสุดท้ายช่วงทดเจ็บ เทิดศักดิ์ เปิดให้ พิภพ ตวัดยิงก็ยังเบาเข้ามือ ยู-ฮยอน
หมด 90 นาที ชลบุรี พลาดท่าบุกไปแพ้ ทีทีเอ็ม พิจิตร 1-0 ทำให้พวกเขามี 42 แต้มเท่าเดิมจากการลงแข่ง 21 นัดโดนเมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ชนะ ทีโอที ในเวลาเดียวกันแวงขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูง โอกาสลุ้นแชมป์เลือนลาง
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
ทีทีเอ็ม พิจิตร : วอน ยู-ฮยอน (GK) – เอกลักษณ์ ทองกริต ,ปุณณรัตน์ กลิ่นสุคนธ์,ชอง โฮ-จิน ,พัชรินทร์ สุกใส –สิทธิพันธ์ ชุมช่วย ,จู จิน–ฮัก ,คิม จู-ยัง ,คนึง บุราณสุข –อี ควาง-แจ ,ไกรกิตติ อินอุเทน
ชลบุรี เอฟซี : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล (GK) – อนุชา กิจพงษ์ศรี ,ไพศาล โพธิ์นา ,ชลทิตย์ จันทคาม ,เจษฎากร เหมแดง –อาทิตย์ สุนทรพิธ ,คาซุโตะ คูชิดะ ,อดุล หละโสะ ,เทิดศักดิ์ ใจมั่น –อองตูนี่ เอสปาร์ซ่า พิภพ อ่อนโม้
เอสซีจี สมุทรสงคราม 1 อินทรีเพื่อนตำรวจ1
"ศึกโรงปูน" ฟุตบอลสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2011 ในวันที่ 20 ส.ค. 2554 เวลา 18.00 น. "ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี ทีมอันดับ 14 ที่ไม่ชนะใครมา 4 เกม ลงเล่นในถิ่นของตัวเองที่สนาม อบจ.สมุทรสงคราม พบกับ "สุภาพบุรุษโล่เงิน" อินทรีเพื่อนตำรวจ ซึ่งร่วงมาอยู่อันดับที่ 10 หลังจากแพ้รวดมา 6 เกม โดยการพบกันในเลกแรกเป็นสมุทรสงครามบุกไปชนะถึงสนาม ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต 1-0
เกมนี้เจ้าถิ่นขาดไม่มี ยานนิค จอร์จส์ ที่ติดโทษ ส่วน วิทยา นนทะลี มีชื่อเป็นตัวสำรอง ขณะที่ทางฝั่งของทีมเยือนมีนักเตะถูกแบนถึง 3 รายคือ ภัทรกร ตั้งอนุรัตน์ , สุรชาติ สารีพิมพ์ และ ลี ฮัน กุ๊ก
น.3 สมุทรสงครามเกือบได้ประตูขึ้นนำจากฟรีคิกกว่าครึ่งสนาม ธนา ศรีพันดร ลักไก่ยิงเองซึ่งทาง สมพงษ์ ยอดอาจ ยังไม่เผลอปัดข้ามคานไปได้ในจังหวะนี้ จากนั้นยังเป็นสมุทรสงครามมีทำได้ดีกว่าในช่วง 15 นาทีแรก โดยมีลูกหวาดเสียวหลายครั้งแต่ยังไม่เป็นประตู
น.21 สมุทรสงครามหวิดได้ประตูขึ้นนำจากลูกโยนทางกราบขวาของ เดชา สอาดโฉม เข้าในกรอบเขตโทษ ณภัทร ธำรงศุภกร ได้สะบัดหัวโหม่งบอลเกือบเสียบคานทว่า สมพงษ์ ยอดอาจ ยังปัดได้ด้วยปลายมือ
เพื่อนตำรวจได้ลุ้นเช่นกัน น.26 ชาคริต บัวทอง ตักบอลเข้ากลางก่อนที่ นันทวัฒน์ แทนโสภา จะได้ฮาล์ฟวอลเลย์ด้วยซ้ายบอลไปติดบล็อคกระดอนออกมาอย่างน่าเสียดายและมี โอกาสต่อเนื่อง น.29 อมาร่า เจอร์รี่ ที่ดันขึ้นสูงก่อนเปิดบอลจากฝั่งซ้าย ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์ รออยู่คนเดียวทางเสาไกลได้กระโดดแปกะให้เสียบเสาแต่ก็เฉียดเสาออกไปแบบสุด เสียว
กลายเป็นเพื่อนตำรวจที่เหนือกว่า ชาคริต บัวทอง และ ปกเกล้า อนันต์ เล่นได้โดดเด่น โดย น.38 กฤษฎี ประกอบของ ขึ้นเกมทางฝั่งซ้านแล้วปาดเรียดเข้ากลางให้กับ เฟลิเป้ แฟร์ไรร่า กลับตัวยิงไปติดผู้เล่นเจ้าถิ่นอีก
น.41 "ปลาทูคะนอง" น่าจะได้ประตูสุดๆจากฟรีคิกระยะ 30 หลา เยื้องไปทางขวา พงศ์พิพัฒน์ คำนวน ปั่นได้ทั้งน้ำหนักและทิศทาง แต่สุดท้าย สมพงษ์ ยอดอาจ ก็ยังปัดออกหลังไปได้อย่างสุดยอด ถัดมา น.45 ณภัทร ธำรงศุภกร แทงทะลุช่องให้กับ ดิยุฟ บีเรเม่ หลุดเข้าเขตโทษก่อนแต่งบอลเข้าเท้าซ้ายแล้วได้ยิงเหน่งแต่บอลหลุดกรอบไป อย่างไม่น่าเชื่อ ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยผลเสมอ 0-0
เริ่มครึ่งหลังเป็นทางสมุทรสงครามที่เปิดฉากบุกเข้าใส่ น.60 เซซินันโด้ ได้ส่องไกลกว่า 30 หลา บอลพุ่งเป็นจรวดและกำลังจะเสียบใต้คานอยู่แล้ว แต่ท้ายที่สุดก็ยังไม่ผ่าน สมพงษ์ ยอดอาจ ที่เหินปัดไว้ด้วยปลายมือ "ปลาทูคะนอง" ยังบุกมาเป็นระลอก น.67 อภิวัฒน์ งั่วลำหิน เปิดจากกลางสนามไปให้กับ คริสเตียน นาเด้ ที่เพิ่งลงสนามไปได้ไม่นานได้โหม่งเช็ดแต่หลุดเสาไกลไปอีก
น.68 เป็นเพื่อนตำรวจที่บุกมานำ 1-0 เมื่อ ชาคริต บัวทอง วางฟรีคิกวางริมเส้นด้านซ้ายเข้าไปลุ้นกลางประตู ก่อนที่จะเป็น ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์ สอดเข้ามาโหม่งพังประตูแรกในเกมนี้ได้สำเร็จ
หลังจากนั้นเกมเริ่มเดือด สุระ ศรีอาจ ผู้ตัดสินในเกมนี้ต้องควัก 3 ใบเหลืองให้กับ นันทวัฒน์ แทนโสภา กองหน้าทีมเยือน เอ็นจี้ ดีไวน์ และ พานุวัฒ ยิ้มสง่า 2 แข้งของสมุทรสงคราม น.70 ก่อนที่ เฟลิเป้ แฟร์ไรร่า จะมาโดนอีกคน น.74 ซึ่งทำให้เพื่อนตำรวจต้องเปลี่ยนตัว เฟลิเป้ แฟร์ไรร่า ออกจากสนามเพราะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
น.87 สมุทรสงครามตามตีเสมอจากจังหวะที่ ชัยวุฒิ วัฒนะ ได้ยิงบริเวณหัวกระโหลกแต่โดนไม่มี บอลมาขลุกขลิกหน้าประตูก่อนที่ ดิยุฟ บีเรเม่ จะซัดโล่งๆส่งบอลเสยใต้คานเปลี่ยนสกอร์เป็น 1-1
น.88 จอห์น วิลกินสัน มิดฟิลด์ทีมชาติสิงคโปร์ของ "สุภาพบุรุษโล่เงิน" ต้องถูกใบแดงไล่ออกจากสนามเมื่อไปเหวี่ยงหวัดใส่ คริสเตียน นาเด้ แต่ใน น.90 เพื่อนตำรวจเกือบได้ประตูชัยจากฟรีคิกทางฝั่งซ้ายของ ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์ ทางฝั่งซ้ายให้กับ นันทวัฒน์ แทนโสภา ได้โหม่งในกรอบ 6 หลา ทว่าบอลไปตรงตัวของ พุทธศาสน์ บุญปก ก่อนที่จะจบลงด้วยการเสมอกันไป 1-1
รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม
เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี : พุทธศาสน์ บุญปก (GK) , พงศ์พิพัฒน์ คำนวน , ธนา ศรีพันดร , เดชา สอาดโฉม , พานุวัฒ ยิ้มสง่า (C - ชัยวุฒิ วัฒนะ น.78) , อภิวัฒน์ งั่วลำหิน , โชคลาภ นิลแสง (คริสเตียน นาเด้ น.61) , เอ็นจี้ ดีไวน์ , ดิยุฟ บีเรเม่ , ณภัทร ธำรงศุภกร (เอฟเฟ่ โอโบเด้ น.84) , เซซินันโด้
อินทรีเพื่อนตำรวจ : สมพงษ์ ยอดอาจ (GK) , กฤษฎี ประกอบของ (C) , อมาร่า เจอร์รี่ , ฮู ยุน , รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ , ชาคริต บัวทอง (จอห์น วิลกินสัน น.86), ธนัตถ์ วงศ์ศุภลักษณ์ , นันทวัฒน์ แทนโสภา (แม็กซิม น.90+1) , เฟลิเป้ แฟร์ไรร่า (ชนานันท์ ป้อมบุบผา น.76) , ปกเกล้า อนันต์ , อัสมิง แม
สรุปผลฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม 2554
- เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี เสมอ อินทรี-เพื่อนตำรวจ เอฟซี 1-1
- ทีทีเอ็ม พิจิตร ชนะ ชลบุรี เอฟซี 1-0
- ทีโอที เอสซี แพ้ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด 1-3
- โอสถสภา เอ็ม–150- สระบุรี ชนะ บางกอกกล๊าส เอฟซี 1-0