บิทังเปิดตัวหรูปราสาทรัว6-2,ลีซอเดี้ยงอีกรอบ

คลาเร้นซ์ บิทัง ประเดิมสนามพร้อมซัดประตูแรกให้กับบุรีรัมย์ พีอีเอ ก่อน ปราสาทสายฟ้าบุกอัดบีอีซี เทโรศาสน 6-2 ผ่านเข้ารอบรองชนะ เลิศโตโยต้าลีกคัพด้วยสกอร์รวม 8-3 ขณะที่ มังกรไฟ ต้องเซ่นลีซอที่เจ็บซ้ำจนต้องเปลี่ยนตัวออก

ที่สนามเทพหัสดิน เป็นการแข่งขันฟุตบอลรายการโตโยต้า ลีกคัพ รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดที่ 2 ระหว่าง บีอีซี เทโรศาสน พบกับ บุรีรัมย์ พีอีเอ ซึ่งผลการแข่งขันนัดแรก บุรีรัมย์ พีอีเอ ทีมเยือน เป็นฝ่ายเก็บชัยมาได้ก่อน 2-1 ซึ่งสถิติที่น่าสนใจ 2 ปีหลังสุด บีอีซี เทโรศาสน ยังไม่เคยเอาชนะบุรีรัมย์ พีอีเอ ได้เลย ทำได้แค่เพียง เสมอ 1 และแพ้ไปถึง 3 นัดด้วยกัน

เจ้าบ้าน บีอีซี เทโรศาสน ของโค้ชพยงค์ ขุนเณร เฮดโค้ชของทีม ในนัดนี้จะได้ ธีรเทพ วิโนทัย ศูนย์หน้าตัวเก่งของทีมกลับมาช่วยทีมได้อีกครั้ง หลังจากเจ็บไปกว่า 5 เดือน ยังมีตัวจี๊ดอย่างกิลเบิร์ต คุมสัน,จักรกริช บุญคำ,รณชัย รังสิโย ลงทำเกมในนัดนี้

ส่วนบุรีรัมย์ พีอีเอ ทีมเยือน ลูกทีมของอรรถพล ปุษปาคม กุนซือใหญ่ จะส่งศูนย์หน้ารายใหม่ อย่าง คลาเร้นซ์ บิทัง ลงในเกมนี้พร้อมด้วย นักเตะดีกรีทีมชาติอย่าง รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค,สุเชาว์ นุชนุ่ม,จักรพันธ์ แก้วพรม ลงทำเกม

เริ่มครึ่งเวลาแรก เป็นทางด้านทีมเยือนบุรีรัมย์ พีอีเอ บุกเข้าใส่ตั้งแต่เริ่มเกม ช่วง 10 นาทีแรก ทั้งสองทีมยังคงจดๆจ้องๆกันอยู่ โดยที่เกมรับของบีอีซี เทโรนั้น ใช้วิธีการไล่ตั้งแต่แดนหน้า ทำให้ทีมบุรีรัมย์ พีอีเอ เล่นในเกมของตนได้ยาก

น.12 เป็นทางด้านบุรีรัมย์ พีอีเอ ได้ยิงทักทายก่อนสุเชาว์ นุชนุ่ม ในกรอบเขตโทษด้านขวา แต่ยิงเฉี่ยวเสาแรกออกหลังไปนิดเดียวเท่านั้น  

20 นาทีผ่านไป ทั้งสองทีมยังไม่ค่อยมีจังหวะยิงประตูกันสักเท่าใดนัก จะเสียบอลในแดนหน้าและแดนกลาง ยังคงทำเกมต่อบอลกันได้ไม่สะดวกเท่าไร เพราะทั้งสองทีมเล่นบอลจังหวะเดียวและเร็ว ทำให้เสียการครอบครองบอลทั้งสองทีม

ถัดมาเพียง 1 นาที บีอีซี เทโรศาสน ได้ประตูขึ้นนำ จากการที่ไพฑูรย์ นนทะดี กระชากทางด้านกราบซ้ายถึงเส้นหลังและปาดเข้ามากลาง และเป็นทางด้านกิลเบริ์ต คุมสัน วิ่งเข้ามายิงง่ายๆ ผ่านมือ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เข้าไป บีอีซี เทโรฯ ขึ้นนำ 1-0

หลังจากเสียประตูบุรีรัมย์ ก็เร่งโหมบุกอย่างหนัก น.27 บุรีรัมย์ พีอีเอ ได้ลูกฟรีคิก เกือบๆกึ่งกลางสนาม เป็นสุเชาว์ นุชนุ่ม เปิดเข้าไปหน้าประตู และเป็นทางด้าน เอ็ควาล่า เฮอร์แมน พักอกเอาบอลลงและยิงเข้าไปอย่างงาม บุรีรัมย์ พีอีเอ ตามตีเสมอ 1-1

อีกสองนาทีต่อมา บุรีรัมย์ พีอีเอ มาได้อีกลูก จากการทำชิ่งกันหน้าประตู แล้วจังหวะสุดท้าย เป็นบิทัง ที่ยิงหน้ากรอบเขตโทษ เข้าไปอย่างสวยงาม บุรีรัมย์ พีอีเอ พลิกขึ้นนำ 2-1

น.33 เป็นโอกาสของทางด้านบุรีรัมย์ พีอีเอ อีกครั้ง จากการสวนกลับ ซารีฟ สายนุ้ย ได้บอลกลางสนามและอาเชียมปงวิ่งไปเอาบอล ที่ซารีฟแทงทะลุช่องไป เดี่ยวๆกับ พิศาล ดอกไม้แก้ว แต่ยิงไปติดเซฟของพิศาล สกอร์ยังคงเดิม  และมีจังหวะปะทะกันที่กลางสนาม เป็นลีซอ ธีรเทพ วิโนทัย ต้องออกมาปฐมพยาบาลที่ข้างสนาม

หลังจากได้ประตูที่ 2 บุรีรัมย์ พีอีเอ เริ่มผ่อนเกมบุกของตัวเองลง และปล่อยให้บีอีซี เทโรฯ ขึ้นเกมบุก และรอสวนกลับ

น.38 ธีรเทพ วิโนทัย ที่ออกมาปฐมพยาบาลข้างสนาม เล่นต่อไม่ไหว จึงขอเปลี่ยนตัวโดยเอา อัครพล มีสวัสดิ์ ลงไปเล่นแทน

น.45 โอคูตู นักเตะบีอีซี เทโร เข้าไปรวบอาเชียมปง ทางด้านหลัง ผู้ตัดสินควักใบเหลืองให้ทันที เป็นใบเหลืองแรกของเกมนี้

ทดเวลาการแข่งขันในครึ่งเวลาแรก 2 นาที  ไม่มีใครทำอะไรกันได้ บีอีซี เทโรศาสน 1-2 บุรีรัมย์ พีอีเอ

เริ่มครึ่งเวลาหลัง ทั้งสองทีมยังคงใช้ผู้เล่นชุดเดิม น.54 บุรีรัมย์ พีอีเอ ได้จังหวะหลุดเดี่ยวของ ธีราทร บุญมาทัน เดี่ยวๆกับพิศาล ดอกไม้แก้ว แต่ธีราทร  กระดกบอลไม่ผ่าน เจ้าตัวเสียดาย

น.57 บุรีรัมย์ต่อบอลมาได้อย่างสวยงามแล้วเป็นจังหวะที่ ซารีฟ สายนุ้ย ปาดเข้ากลางบริเวณจุดโทษ ให้จักรพันธ์ แก้วพรมยิงด้วยขวา แต่บอลปลิ้นโด่งออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย อีกสองนาทีต่อมา บุรีรัมย์ พีอีเอ ยังขึงเกมรุกอย่างต่อเนื่อง และประตูที่ 3 ก็มาจนได้ เมื่ออภิเชษฐ์ พุฒตาล กระชากถึงเส้นหลังแล้วเปิดไปที่เสาสอง แฟรงค์ อาเชียมปง ที่ยืนรออยู่แล้ว โขกเล่นทางเข้าไปอย่างง่ายดาย บุรีรัมย์ พีอีเอ ขึ้นนำ 3-1

น.60 บีอีซีเทโร ขอเปลี่ยนตัวผู้เล่น โดยเอาไพฑูรย์ นนทะดีออกแล้วส่งโนโบยูกิ ไซเซ็น ลงไปเล่นแทน  อีกสองนาทีต่อมา บีอีซี เทโรฯ ได้จังหวะบุกมาบ้าง และเป็นทางรณชัย รังสิโย ตัดสินใจยิงหน้ากรอบเขตโทษ ประมาณ 20 หลา บอลพุ่งตรงเสียบใต้คานเข้าไป ถือเป็นลูกทีเด็ดของรณชัย บีอีซี ตามตีตื้นมาเป็น 2-3 .

น.66 บุรีรัมย์ พีอีเอ ขอเปลี่ยนตัวผู้เล่น โดยส่งยุทธจักร ก้อนจันทร์ ลงไปเล่นแทน สุเชาว์ นุชนุ่ม

ต่อมาน.72 เกมรุกของบุรีรัมย์ พีอีเอ ยังคงน่ากลัวอยู่ เมื่อแฟรงค์ อาเชียมปง กระชากลากเลื้อยทางริมเส้นฝั่งซ้าย จนมาเกือบสุดเส้นและล็อคเข้ากลาง และเปิดเข้ามากลางที่มีจักรพันธ์ แก้วพรมวิ่งเติมขึ้นมา และยิงไปที่เสา 1 พิศาล ดอกไม้แก้วหมดสิทธิ์ป้องกัน บุรีรัมย์ พีอีเอ ขึ้นนำห่าง 4-2

น.76 บุรีรัมย์ พีอีเอ ขอเปลี่ยนตัวผู้เล่น เป็นคนที่ 2 โดยส่ง บูบ้า แอ็บโบ้ ลงไปเล่นแทน จักรพันธ์ แก้วพรม ส่วนทางด้านบีอีซี ขอเปลี่ยนตัวเช่นกัน โดยเอารณชัย รังสิโยออกและส่ง ณธฤษณ์ ธรรมรสโสภณลงไปเล่นแทน บุรีรัมย์ พีอีเอ เปลี่ยนผู้เล่นครบ 3 คนแล้ว

น.81 บุรีรัมย์ พีอีเอ เหมือนจะเพลาเกมบุก แต่เมื่อบีอีซี เชคล้ำหน้าพลาด ปล่อยให้ซารีฟ สายนุ้ย หลุดทางด้านกราบขวา ลากจี้เข้าไปและตัดสินใจยิงบริเวณกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงและเรียดเข้าประตูไป บุรีรัมย์ พีอีเอ นำห่าง 5-2

น.85 บุรีรัมย์ พีอีเอ ขอเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนสุดท้าย เอาบิทัง ออกและส่งณภัทร ทับเกตุแก้ว ลงไปเล่นแทน และนาทีต่อมา บุรีรัมย์ ได้ลูกจุดโทษอีก เมื่อพิศาล ดอกไม้แก้ว มารวบเอ็คกวาล่า เฮอร์แมนในกรอบเขตโทษ  บดินทร์ บุญด้วยลานชี้เป็นจุดโทษทันที และเป็นรังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค ที่สังหารจุดโทษลูกนี้ไม่พลาด บุรีรัมย์ พีอีเอ ขึ้นนำ 6-2

ผู้ตัดสินที่ 4 ทดเวลาเจ็บ 2 นาที ไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลา บีอีซีเทโรศาสน เปิดบ้านแพ้ให้กับบุรีรัมย์ พีอีเอ ไป 2-6 สกอร์รวม 2 นัด บุรีรัมย์ พีอีเอ ชนะ 8 -3 เข้ารอบรองชนะเลิศ ไปยืนรอผู้ชนะ ระหว่าง เมืองทอง ยูไนเต็ด กับชลบุรี เอฟซี ที่นัดแรก ชลบุรี เก็บชัยมาได้ 3-2

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

บีอีซี เทโรศาสน :พิศาล ดอกไม้แก้ว(ผู้รักษาประตู), ปรัชญ์ สมัครราษฏร์,ชลากร สงวนดี,รณชัย รังสิโย(ณธฤษณ์ ธรรมรสโสภณ),จักรกริช บุญคำ,กิลเบิร์ต คุมสัน,ธีรเทพ วิโนทัย(อัครพล มีสวัสดิ์),มิก้า ชูนวลศรี,ไพฑูรย์ นนทะดี(โนโบยูกิ ไซเซ็น),โอคูตู้,อิวาน โบรเซวิค

บุรีรัมย์ พีอีเอ:ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู),ธีราทร บุญมาทัน,เอ็คกวาล่า เฮอร์แมน,จักรพันธ์ แก้วพรม(บูบ้า แอ็บโบ้),รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชค,สุเชาว์ นุชนุ่ม(ยุทธจักร ก้อนจันทร์),อภิเชษฐ์ พุฒตาล,ซารีฟ สายนุ้ย,โอบาม่า ฟอเรนท์,บิทัง(ณภัทร ทับเกตุแก้ว),แฟรงค์ อาเชียมปง

 : ภาพจาก ไทยลีกออนไลน์

<< คลิกเพื่อชมภาพใหญ่ >>