กมธ.กีฬาวุฒิสภาห่วงบอลลีกอาชีพ

กมธ.กีฬาวุฒิสภาห่วงบอลลีกอาชีพ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook


ที่ห้องประชุม 309 อาคารรัฐสภา 2 เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ที่ผ่านมา "มาดามมล" นฤมล ศิริวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการการกีฬาวุฒิสภา พร้อมคณะนัดประชุมเพื่อพิจารณาถึงเรื่องการบริหารสิทธิประโยชน์ของฟุตบอลไทยพรีเมียร์ ลีก 2011 รวมถึงลีกอาชีพอื่นในประเทศไทย อย่างไรก็ตามในการประชุมครั้งนี้ ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธานกรมการ บ.ไทยพรีเมียร์ ลีก จำกัด ไม่สามารถเดินทางมาชี้แจงได้

โดย นายปัญญา เบ็ญจศิริวรรณ โฆษก กมธ.ตั้งขอสังเกตว่า บ.ไทยลีกกับ สโมสรยังไม่มีความเชื่อมโยงต่อกัน งบประมาณในแต่ละฤดูกาลที่ได้รับก็ไม่มากพอโดยเฉพาะสโมสรเล็กที่สปอนเซอร์มักจะให้การสนับสนุนกับทีมใหญ่มากกว่า นอกจากนี้ในเรื่องของลิขสิทธิ์ไทยลีกก็ถือว่ายังไม่มีความชัดเจน ซึ่งถ้าหาก บ.ไทยลีกให้โอกาสสโมสรต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมเหมือน เจลีก ญี่ปุ่น ก็จะทำให้มีข้อสรุปที่ดีที่สุดในการพัฒนาวงการฟุตบอล แต่หากไม่ก็อดห่วงว่าอนาคตลีกไทยจะยืนระยะได้แค่ไหน

เช่นเดียวกับ "บิ๊กจา" พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ ที่ยอมรับว่าเป็นห่วงอนาคตข้างหน้าของฟุตบอลลีกอาชีพไทยว่าอาจจะเหลือไม่กี่ทีม พร้อมกับเสนอแนะว่า นักเตะนำเข้าในแต่ละลีกควรจะมีการกำหนดไม่ให้มากเกินไป เหมือนดังเช่นปัจจุบัน

ด้าน นายสุโข วุฑฒิโชติ กมธ. ชี้ว่าที่ผ่านมาบุคลากรทางด้านผู้ตัดสินถือว่ายังไม่เพียงพอ แต่การที่จะเฟ้นหาผู้ตัดสินที่มีคุณภาพ กกท. ก็ต้องร่วมกับ สมาคมฯในการประเมิน และผู้ที่จะประเมินก็ต้องผ่านการอบรมจาก กกท.เท่านั้น อีกอย่างที่สำคัญต้องยอมรับว่า วิธีการบริหารของ ไทยพรีเมียร์ ลีก ยังขาดการเชื่อมโยง เนื่องจากเม็ดเงินไม่ได้เอื้ออำนวยต่อผู้ตัดสิน และบางครั้งไม่ได้จ่ายเงินให้กรรมการถึงข้ามปีเลยก็มี

ขณะที่ นางนฤมล ศิริวัฒน์ ประธาน กมธ.กีฬาวุฒิสภา กล่าวว่า การศึกษาสิทธิประโยชน์กีฬาอาชีพถือว่ามีความสำคัญและต้องมีความยั่งยืน อย่าลืมว่าเรากำลัง
อยู่ในขั้นต้นของการพัฒนาระบบอาชีพ และคงไม่มีใครอยากเห็นปัญหาเกิดขึ้นเหมือนดัง เอ็มลีก มาเลเซีย, เอสลีก สิงคโปร์ และ วีลีก เวียดนาม ที่เคยประสบ
เรื่องการยืนระยะมาแล้ว

"ภาพกีฬาฟุตบอลในไทยถือว่าเป็นที่นิยม และมีผู้สนับสนุน แต่ความเป็นจริงหลายสโมสรอยู่ด้วยความลำบาก งบประมาณก็ไม่เพียงพอ ซึ่งก็ต้องมาดูว่าปัญหาของการจัดการแข่งขัน ไทยพรีเมียร์ ลีก รวมทั้งลีกอาชีพอื่นในประเทศไทยมีวิธีการที่ถูกต้องเหมาะสมแค่ไหน สโมสรมีส่วนร่วมหรือไม่ ลิขสิทธิ์โปร่งใสขนาดไหน"

นางนฤมล เผยอีกว่า ในเรื่องของการบริหารเงินของผู้ตัดสินนั้น กมธ.กีฬาวุฒิสภา จะเชิญ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เข้ามาสอบถามว่ามีบทบาทในการตรวจสอบอย่างไร และยืนยันได้เลยว่า กมธ.กีฬาวุฒิสภา มีอำนาจที่จะเข้าไปตรวจสอบเรื่องของการใช้เงินหลวง รวมถึงจะเชิญ บ.ไทยพรีเมียร์ ลีก และสโมสรต่างๆ เข้ามาชี้แจงและสอบถามด้วย

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีการยืนยันว่า กกท. มีแผนที่ขอความร่วมมือในเรื่องของนักเตะต่างชาติให้ลดจำนวนลงจากเดิม 7 ลง 5 เหลือ 5 ลง 3

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook