ไทยสุดช้ำโดนท้ายเกมพ่ายไวกิ้ง 0-1หมดลุ้นแชมป์คิงส์คัพ

แข้งไทยช้ำ! โดนทีเด็ดเซ็ตพีซนอร์เวย์ยิงท้ายเกมแพ้ไป 0-1 อกหักชวดแชมป์คิงส์คัพแน่นอนแล้ว ส่วนไวกิ้งเก็บ 4 แต้มจาก 2 นัดได้ลุ้นนัดสุดท้ายกับโสมขาว

การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 41 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เป็นศึกนัดที่ 2 ระหว่าง ทีมชาติไทย ทีมอันดับสุดท้าย ที่แพ้ เกาหลีใต้ มาในนัดแรก 1-3 พบกับ นอร์เวย์ ที่มี 1 แต้มจากการเสมอ เดนมาร์ก 1-1 ในนัดประเดิมสนาม

เกมนี้ วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทย ส่งนักเตะชุดผสมลงสนามนำโดย ผู้รักาประตู สินทวีชัย หทัยรัตนกุล กองหลัง ชลทิตย์ จันทคาม, ศุภชัย คมศิลป์, สุรีย์ สุขะ, เจษฎา จิตสวัสดิ์ กองกลาง สุมัญญา ปุริสาย, ธีรเทพ วิโนทัย, จักรพันธ์ แก้วพรม, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, ศราวุธ มาสุข กองหน้าตัวเป้า กีรติ เขียวสมบัติ

ส่วนทางด้าน มอร์เทน โอลเซ่น เฮดโค้ชนอร์เวย์ ส่งทางด้าน เอสเพน ปีเตอร์เซ่น (GK), อีเวน ฮอฟแลนด์, เวการ์ด ฟอร์เรน, มาร์คุส เฮนริกเซ่น, แมกนัส เอเกรม, ทาริค เอลยูนุสซี่, โจ อิงเก้ เบอร์เกต, วาลอน บาริช่า, สตีเฟ่น ฮาเกน, ฮาร์มีต ซิงห์, ลาร์ วิลซิค ลงเป็น 11 ตัวจริง ซึ่งผู้ตัดสินได้แก่ ยูได ยามาโมโต้ ชาวญี่ปุ่น

เริ่มเกมนอร์เวย์ครองบอลได้ดีกว่า และเป็นฝ่ายเปิดเกมบุกเข้าใส่ทีมชาติไทย โดยในน.6 ทีมไวกิ้งเกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ ทาริค เอลยูนุสซี่ ได้โอกาสหลุดเข้าไปยิงในเขตโทษด้านขวา แต่บอลถากเสาแรกหลุดออกหลังไปนิดเดียว

จากนั้นน.19 ทีมชาติไทยได้ลุ้นทำประตูบ้างเมื่อ ธีรเทพ วิโนทัย ได้บอลสุดเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนไหลย้อนไปให้ กีรติ เขียวสมบัติ ได้ยิงบริเวณหัวกะโหลก แต่จังหวะยิงโดนบอลไม่ดี ทำให้ลูกค่อยๆกลิ้งไปเข้าซองนายทวารนอร์เวย์อย่างน่าเสียดาย

น.25 นอร์เวย์ได้ลุ้นทำประตูเมื่อ มาร์คุส เฮนริกเซ่น ได้โอกาสตั้งป้อมยิงไกลระยะ 25 หลา บอลพุ่งแรงเข้ากรอบ แต่ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล นายทวารทีมชาติไทยยังบินไปปัดออกหลังไว้ได้หวุดหวิด

ถัดมาน.32 นอร์เวย์ได้เสียวอีกครั้งเมื่อ มาร์คุส เฮนริกเซ่น โยนบอลจากกราบซ้ายไปหน้าประตู ทาริค เอลยูนุสซี่ วิ่งเข้ามาโหม่งเหน่งๆบริเวณจุดโทษ แต่บอลพุ่งเฉี่ยวเสาสองออกหลังไปเพียงนิดเดียว

ท้ายครึ่งแรกรูปเกมเริ่มสูสี แต่ในน.44 นอร์เวย์พลาดการได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดายเมื่อ โจ อิงเก้ เบอร์เกต ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปดวลกับ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล แต่ โจ อิงเก้ กลับยิงไปติดขาของ สินทวีชัย ที่ออกมาบล็อกไว้ได้อย่างเหลือเชื่อ ทำให้จบครึ่งแรกสกอร์ยังคงเสมอกันอยู่ 0-0

ออกสตาร์ทครึ่งหลัง ทีมชาติไทยมีการเปลี่ยนตัว 2 ตำแหน่ง โดยส่ง ธีรศิลป์ แดงดา และ ปิยะชาติ ถามะพันธ์ ลงมาแทน กีรติ เขียวสมบัติ และ ศุภชัย คมศิลป์

รูปเกมในครึ่งหลังทั้ง 2 ทีมยังสุกันอย่างสนุกสูสี น.62 นอร์เวย์ได้ลุ้นขึ้นนำจากการยิงไกลของ วาลอน บาริช่า แต่ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ยังพุ่งไปปัดออกหลังไว้ได้อย่างสุดยอด

จากนั้นน.68 ทีมชาติไทยเกือบได้ประตูขึ้นนำบ้างเมื่อ อีเวน ฮอฟแลนด์ กองหลังนอร์เวย์โหม่งบอลคืนหลังสั้น ทำให้ ธีรศิลป์ แดงดา ได้จังหวะกระดกบอลหวังให้ข้ามหัวผู้รักษาประตู แต่บอลแรงเกินไปทำให้ล้นข้ามคานอย่างน่าเสียดาย

เกมผ่านมาถึงช่วงท้าย นอร์เวย์ เริ่มเปิดเกมบุกใส่ทีมชาติไทยมากขึ้น น.80 ทีมไวกิ้งได้ลุ้นจากลูกฟรีคิกริมเส้นฝั่งขวา แมกนัส เอเกรม โยนไปที่เสาแรก สตีเฟ่น ฮาเกน โฉบเข้ามาโขกเต็มศีรษะ แต่บอลพุ่งเหินข้ามคานไปนิดเดียว
 
แต่แล้วในน.84 นอร์เวย์ก็มาได้ประตูขึ้นนำจนได้เมื่อ แมกนัส เอเกรม เปิดฟรีคิกทางกราบขวาไปหน้าประตู สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ออกมาตัดบอลพลาด ทำให้ ทอเร่ เรจินุสเซ่น วิ่งเข้ามายิงโล่งๆเข้าไป นอร์เวย์ ขึ้นนำ 1-0

หลังโดนยิงทีมชาติไทยก็บุกแหลก น.87 เกือบตามตีเสมอได้สำเร็จเมื่อ สุรชาติ สารีพิมพ์ ได้บอลหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษด้านขวา ก่อนจะกดเต็มที่หวังเสียบเสาแรก แต่ เอสเพน ปีเตอร์เซ่น นายทวารนอร์เวย์ยังชกบอลออกหลังไปได้

ช่วงเวลาที่เหลือทั้ง 2 ทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ ทำให้จบ 90 นาที ทีมชาติไทย จึงพ่ายแพ้ นอร์เวย์ ไปอย่างน่าเจ็บใจ 0-1 ยังเก็บแต้มไม่ได้เลยจาก 2 นัดที่ลงสนาม ทำให้ชวดคว้าแชมป์ฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 41 ไปโดยปริยาย ส่วน นอร์เวย์ คว้า 4 คะแนนจาก 2 นัด ยังมีลุ้นแชมป์ต่อไป
 
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

ทีมชาติไทย : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล (GK), ชลทิตย์ จันทคาม, สุมัญญา ปุริสาย(จิระวัฒน์ มัครมย์ น.78), ธีรเทพ วิโนทัย(สุรชาติ สารีพิมพ์ น.73), ศุภชัย คมศิลป์(ปิยะชาติ ถามะพันธ์ น.46), สุรีย์ สุขะ, จักรพันธ์ แก้วพรม(สุรัตน์ สุขะ น.81), เจษฎา จิตสวัสดิ์, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, ศราวุธ มาสุข(เอกพันธ์ อินทเสน น.61), กีรติ เขียวสมบัติ(ธีรศิลป์ แดงดา น.46)

นอร์เวย์ : เอสเพน ปีเตอร์เซ่น (GK), อีเวน ฮอฟแลนด์, เวการ์ด ฟอร์เรน(ทอเร่ เรจินุสเซ่น น.46), มาร์คุส เฮนริกเซ่น, แมกนัส เอเกรม, ทาริค เอลยูนุสซี่(โทมัส เดรก น.46), โจ อิงเก้ เบอร์เกต(อเล็กซานเดอร์ โซเดอร์ลุน น.46), วาลอน บาริช่า(มุสตาฟา อับเดลเลา น.82), สตีเฟ่น ฮาเกน, ฮาร์มีต ซิงห์(ซีเมน เบรนเน่ น.89), ลาร์ วิลซิค(เอสเพน รุด น.60)
 
หลังเกม
วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมาติไทย กล่าวว่า “วันนี้เราหวังชนะ แต่ทำไม่ได้ ก็ถือว่าน่าเสียดาย แต่รูปเกมวันนี้นับว่ายังดีกว่าแมตช์กับเกาหลีใต้ นอกจากนั้นวันนี้การได้ ธีรศิลป์ แดงดา กลับมาถือเป็นข่าวดี แต่จังหวะจบสกอร์ของเรายังทำได้ไม่เฉียบขาดพอ นอกจากนั้นนักเตะเรายังขาดความฟิต ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญ ส่วนจังหวะเสียประตูเป็นสิ่งที่ตนผิดหวัง เพราะเราเสียฟรีคิกแบบไม่จำเป็น ซึ่งต้องกลับไปปรับปรุงอีกพอสมควร”

นอกจากนั้น “วินนี่” ยังกล่าวถึงกรณีของ สมปอง สอเหลบ ว่า “ตนยอมรับการขอโทษของ สมปอง และจะติดตามพฤติกรรมของเขาต่อไป ส่วนอนาคตของ สมปอง นั้น หากเขาจะหวังกลับมาติดทีมชาติอีกครั้ง เขาต้องมีความเคารพกับทีม, แฟนบอล และมีวินัยให้มากขึ้น เพราะเรายังมีศึกใหญ่รออยู่ ดังนั้นเขาต้องทำงานให้หนักหากยังหวังจะกลับมาอีกครั้ง”

มอร์เทน โอลเซ่น กุนซือนอร์เวย์ กล่าวว่า “เกมวันนี้ครึ่งแรกเราเล่นอืดไปหน่อย แต่ครึ่งหลังเล่นดีขึ้นจนมาได้ประตู ส่วนทีมไทยวันนี้พัฒนาขึ้นเยอะ โดยเฉพาะครึ่งหลังที่เล่นได้อย่างแข็งแกร่ง ส่วนนัดสุดท้ายกับเกาหลีใต้ตนหวังว่าจะเอาชนะและคว้าแชมป์มาครองได้”