บีจีเจ๊าฉลาม 0-0, ปลาทูได้เฮทดเจ็บ, ยาสูบเสมอกว่าง
บางกอกกล๊าส เอฟซี กินไม่ลงกับ ชลบุรี เอฟซี เสมอกันไปแบบไร้สกอร์ 0-0 ด้าน เจนิฟู๊ด สมุทรสงคราม ได้ คริสเตียน นาเด้ ยิงประตูชัยช่วงทดเจ็บ เฉือนชนะ อินทรีเพื่อนตำรวจ 1-0 ขณะที่ ทีทีเอ็ม เชียงใหม่ เสมอจืดกับ เชียงราย ยูไนเต็ด 0-0
บางกอกกล๊าส เอฟซี 0 – 0 ชลบุรี เอฟซี
การแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2012 ประจำวันอาทิตย์ที่ 25 มี.ค.55 ที่สนามลีโอ สเตเดี้ยม เป็นเกมคู่บิ๊กแมตช์ระหว่าง “กระต่ายแก้ว” บางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมอันดับ 5 ของตารางมี 3 คะแนน เปิดบ้านรับการมาเยือนของรองแชมป์เก่า “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 3 ของตารางมี 3 คะแนนเท่ากัน โดยในเกมแรกทั้งคู่สามารถเอาชนะคู่แข่งมาได้ทั้งสองทีม ชลบุรี นั้นเปิดบ้านถล่มท่าเรือมา 4-0 ในขณะที่บีจี ก็เปิดบ้านเอาชนะวัวชน มา 2-0
ในเกมนี้เจ้าถิ่นจัดทัพใหญ่ลงสนามนำมาโดย อำนาจ แก้วเขียว กัปตันทีม โดยมี ซารุตะ ฮิโรโนริ กับ อจายี่ ซามูเอล เป็นตัวอันตรายในแดนหน้า ส่วนชลบุรี ที่เพิ่งจะเล่นนัดกลางสัปดาห์กับโฮม ยูไนเต็ด ในศึกเอเอฟซี คัพ มานั้น ด้าน “โค้ชเฮง” ก็ยังคงจัดผู้เล่นชุดตัวหลักลงสนามครบครัน นำโดย เทิดศักดิ์ ใจมั่น คุมแผงกลาง โดยมี ลูโดวิค ทาคาม กับ พิภพ อ่อนโม้ ยืนจับคู่เป็นศุนย์หน้า
เริ่มเกมมาเป็นทีมเยือนชลบุรี ที่ครองบอลบุกเข้าใส่ตั้งแต่ต้นเกมอย่างไม่เกรงใจเจ้าถิ่น แต่ก็ยังไม่มีจังหวะได้ลุ้นทำประตูมากนัก กลับเป็นบางกอกกล๊าส ที่อาศัยจังหวะสวนกลับได้ลุ้นประตูก่อนถึง 2 ครั้งติดๆ กัน ใน น.9 เป็นจังหวะที่ อดุล หละโสะ จ่ายบอลพลาดง่ายๆ กลางสนามไปเข้าทางพีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ ของเจ้าถิ่นที่จ่ายบอลจังหวะเดียวทะลุช่องต่อไปให้ อจายี่ ซามูเอล กระชากเข้าไปยิงมุมแคบแต่ไม่ผ่านมือ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล
และจากจังหวะเตะมุมต่อจากนั้น น.10 พีรพงศ์ เปิดบอลโค้งมาในเขตโทษและเป็น วาเรลี่ เฮียค ที่ขึ้นโหม่งกดลงพื้นแต่บอลไม่เข้ากรอบ เจ้าถิ่นพลาดได้โอกาสขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย
ชลบุรี ยังครองบอลได้ดีกว่า แต่ก็ยังเหมือนเดิมคือเจาะไม่เข้า จนต้องหันมายิงไกลบ้างและมาได้ลุ้น น.18 จาการสับไกลของ สุรีย์ สุขะ ระยะ 25 หลา บอลนั้นพุ่งแรงเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว
ทั้งสองทีมยังคงสู้กันได้อย่างสนุก และก็มาได้ลุ้นประตูกันฝั่งละครั้ง น.26 เป็นทีมเยือนได้ลุ้นก่อน อนุชา กิจพงษ์ศรี เปิดบอลจากกราบซ้ายไปให้ เกริกฤทธิ์ ที่สะบัดศีรษะโหม่งตามน้ำ แต่บอลไม่ตรงกรอบ นาทีถัดมาบีจีสวนกลับเร็วและเป็น อจายี่ ที่จ่ายบอลให้ ชาตรี ฉิมทะเล ได้หลุดเข้าไปยิงล้อเป้าแต่ก็ไปติดเซฟผู้รักษาประตู
น.28 บีจีเจ้าถิ่นได้ลุ้นอีกครั้งจากการทำชิ่งหน้าประตู สุดท้ายเป็น อจายี่ ที่เล่นได้โดดเด่นวันนี้ได้ยิงในเขตโทษเน้นๆ แต่บอลก็ไปชนเสาออกมาอย่างน่าเสียดายสุดๆ
เกมผ่านไปจนถึงช่วงท้ายครึ่งแรก น.40 ลูโดวิค ทาคาม ได้ส้มหล่นหน้าประตูตัดสินใจกดเต็มข้อบอลกำลังจะเสียบเสาสองอยู่แล้ว แต่ยังดีที่ กฤษกร เกิดผล นายทวารเจ้าถิ่นนั้นซุปเปอร์เซฟบินปัดออกหลังไปได้ ก่อนหมดเวลา น.45 บีจี มาได้ฟรีคิกกลางประตูระยะ 20 หลา แต่ สุธี สุขสมกิจ นั้นยิงไปติดกำแพงแบบไม่ได้ลุ้น
หลังจากนั้นช่วงทดเวลาเจ้าถิ่นพลาดโอกาสทองให้หลุดมือ เมื่อ ซารุตะ ได้หลุดเข้าไปยิงเล่นทางในเขตโทษโล่งๆ แต่ก็ยังเป็น สินทวีชัย ที่บินไปเซฟได้อย่างยอดเยี่ยม จบครึ่งแรกอย่างสนุกเร้าใจ แต่สกอร์ยังคงเสมอกันอยู่ที่ 0-0
ครึ่งหลังทีมเยือน “ฉลามชล” เปลี่ยนตัวผู้เล่นถึง 2 ตำแหน่ง ส่ง นูรูล ศรียานเก็ม กับ สุกรี อีแต ลงไปแทน เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ กับ พิภพ อ่อนโม้ ตามลำดับ ส่วนเจ้าถิ่น “กระต่ายแก้ว” ยังคงใช้ผู้เล่นชุดเดิมจากในครึ่งแรก จนกระทั้งมาถึง น.51 ก็ส่ง ฟลาเวียน มิเชลินี่ ลงไปแทน วิชะยา เดชมิตร
น.54 มิเชลินี่ ที่เพิ่งลงไปก็เกือบแผงฤทธิ์ เมื่อได้จังหวะวอลเล่ย์เต็มข้อด้วยซ้ายหน้าเขตโทษแต่ก็ยังไม่ผ่านมือ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ที่โชว์ฟอร์มเซฟขั้นเทพในวันนี้ น.58 สุรีย์ สุขะ ของชลบุรี เลี้ยงบอลลุยไปหน้าเขตโทษก่อนจะตวัดยิงด้วยซ้ายแต่บอลเลยออกหลังไป
น.64 เสียงแฟนบอลเจ้าถิ่นก็ดังลั่นเมื่อ “ลีซอ” ธีรเทพ วิโนทัย ขวัญใจคนใหม่ได้ถูกส่งลงสนามไปแทน ชาตรี ฉิมทะเล หลังจากนั้น น.77 “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล กุนซือทีมเยือนก็ส่งสำรองคนสุดท้ายลงไป คือ ดิยุฟ บิเรเม่ ซึ่งก็ลงไปแทน สุกรี อีแต ตัวสำรองที่เพิ่งจะลงไปต้นครึ่งหลัง และ น.79 เจ้าถิ่นก็ส่ง ธฤติ โนนศรีชัย ลงไปแทน ศรันย์ พรมแก้ว ที่มีอาการบาดเจ็บ
น.83 เกมต้องหยุดลงชั่วขณะเมื่อ จักรพันธ์ ปั่นปี ผู้ฝึกสอนทีมชลบุรี ไปมีปากมีเสียงกับผู้ตัดสิน เนื่องจากไม่พอใจที่ผู้ตัดสินไม่ยอมให้ฟาวล์กับชลบุรี ในจังหวะแฮนด์บอลของผู้เล่นบางกอกกล๊าส สุดท้ายผู้ตัดสินต้องเชิญโค้ชทีมเยือนไปสงบสติอารมณ์บนอัฒจันทร์แทน ช่วงเวลาที่เหลือไม่สามารถทำอะไรกันได้ จบเกม บางกอกกล๊าส เอฟซี เปิดบ้านเสมอกับ ชลบุรี เอฟซี ไป 0-0
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
บางกอกกล๊าส เอฟซี : กฤษกร เกิดผล (GK),อำนาจ แก้วเขียว (C),สุธี สุขสมกิจ,อจายี่ ซามูเอล,วิชะยา เดชมิตร (ฟลาเวียน มิเชลินี่ น.51),ศรัณย์ พรมแก้ว (ธฤติ โนนศรีชัย น.79),วาเลรี่ เฮียค,ศุภชัย คมศิลป์,ซารุตะ ฮิโรโนริ,พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ และ ชาตรี ฉิมทะเล (ธีรเทพ วิโนทัย น.64)
ชลบุรี เอฟซี : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล (C),สุรีย์ สุขะ,เทิดศักดิ์ ใจมั่น,พิภพ อ่อนโม้ (C) (สุกรี อีแต น.46)-(ดิยุฟ บิเรเม่ น.77),อนุชา กิจพงษ์ศรี,โฟเด้ บองกาลี่,อดุล หละโสะ,ลูโดวิค ทาคาม,คาซุโตะ คูชิดะ,เกริกฤทธิ์ ทวีกสญจน์ (นูรูล ศรียานเก็ม น.46) และ ชลทิตย์ จันทคาม
ยอดผู้เข้าชมในสนาม 10,754 คน
ยอดจำหน่ายบัตรผ่านประตู 1,022,265 บาท
ยอดขายของที่ระลึก 610,965 บาท
หลังจบการแข่งขัน
ด้าน "เสี่ยเหน่ง" ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ ผจก.ทีมบางกอกกล๊าส เอฟซี เผยว่า "สำหรับผลการแข่งขันค่อนข้างพอใจแม้จะได้แค่ 1 แต้ม ต้องชมทีมเยือนด้วยที่เล่นได้ดี โดยเฉพาะเกมรับที่ทำให้กองหน้าเราเล่นลำบาก ส่วนตัวคิดว่าวันนี้เป็นเกมที่สนุกและผลเสมอก็ยุติธรรมกับทั้ง 2 ทีมวันนี้"
ในขณะที่ "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล กุนซือชลบุรี ก็กล่าวว่า "วันนี้พอใจเกมครึ่งแรก แต่ครึ่งหลังเราเล่นได้ไม่ดี โดยเฉพาะผู้เล่นดาวรุ่งที่ได้ให้โอกาสลงสนามหลายคนเล่นเหมือนใจไม่สู้ ซึ่งตรงนี้เราต้องไปปรับทัศนคติกันใหม่ภายในทีม การได้ 1 แต้มถือว่าผิดหวังมาก เพราะวันนี้เรามั่นใจจะชนะได้ แต่ก็ต้องชื่นชมเจ้าถิ่นที่เล่นได้ดีเช่นกัน"
เจนิฟู้ด สมุทรสงคราม 1 - 0 อินทรีเพื่อนตำรวจ
การแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก นัดที่ 2 ของฤดูกาล 2012 ที่สนาม อบจ.สมุทรสงคราม เป็นการพบกันของ เจนิฟู้ด สมุทรสงคราม เอฟซี เปิดบ้านรับการมาเยือนของ อินทรี เพื่อนตำรวจ โดยเกมนัดนี้ "ปลาทูคะนอง" ส่งชุดใหญ่นำมาโดย คริสเตียน นาเด้, เซซินันโด้, ลี ฮัน กุ๊ก ส่วน "สุภาพบุรุษโล่เงิน" จัดเต็มเช่นกันเมื่อส่งทั้ง ปกเกล้า อนันต์, สุรชาติ สารีพิมพ์ 2 คีย์แมนสำคัญนำทีม
เกมในครึ่งเวลาแรก เพียงแค่ น.10ทีมเยือนเกือบจะฉวยโอกาสทำประตูขึ้นนำไปก่อนจากจังหวะที่ รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์ ได้โยนจากจากทางขวามาให้กับ ฟิลิปเป้ เฟอร์ไรร่า ได้โหม่งเหน่งๆ ในกรอบเขตโทษ บอลพุ่งแรงก่อนกระทบคานและกระเด้งออกมาชนกองหลังปลาทูกลับไปโดนตัว ทศพร ศรีเรือง ก่อนโดนเคลียร์ออกหลังไปในที่สุด
เกมผ่าน 20 นาทีไปอย่างสนุกทั้งสองทีมต่างเปิดเกมแลกกันอย่างไม่ลดละ ต่อมา น.22 "โปลิศ" ได้ลุ้นประตูอีกครั้งเมื่อ อัสมิง แม มิดฟิลด์ร่างเล็กของทีมเยือนเก็บตกบอลแถวสองระยะ 25 หลาก่อนซัดด้วยขวาแต่บอลหลุดออกหลังไปอีกครั้ง และ น.27 ทีมเยือนก็ได้เฮเก้อ! เมื่อ ฟิลิปเป้ เฟอร์ไรร่า หลุดเข้าไปแปเน้น 2 ครั้งติดๆ ก่อนส่งบอลไปนอนกองที่กอนตาข่ายได้แล้ว แต่ถูกปฎิเสธโดยผู้ตัดสินที่ยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อนแล้ว ทำให้ "โปลิศ" ชวดได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 34 ฟิลิปเป้ เฟอร์ไรร่า ได้โหม่งจากลูกเตะมุมบอลเฉี่ยวคานออกหลังไปนิดเดียวเท่านั้น ให้หลังในจังหวะต่อมาที่ "ปลาทูคะนอง" โต้กลับเร็วขึ้นมาและเป็น ลี ฮัน กุ๊ก ที่ควบบอลมาเองก่อนซัดไกลระยะกว่า 30 หลาแต่บอลยังพุ่งไปเข้ามือนายทวารทีมเยือนรับไปเอาไว้ได้
เกมเข้าสู่ในช่วง 10 นาทีสุดท้ายยังเป็น "โปลิศ" ที่ครองเกมได้เหนือกว่าและยังได้ลุ้นประตูอย่างต่อเนื่อง และครั้งนี้ก็เป็นคนเดิม ฟิลิปเป้ เฟอร์ไรร่า ที่ทำชิ่งกับ เจมส์ ไรท์ ก่อนจะกลับตัวซัดด้วยขวาบอลพุ่งเข้ากรอบแต่นายทวารเจ้าบ้านยังไวพอพุ่งปัดออกหลังไปได้อย่างหวุดหวิด หลังจากนั้นไม่นานก็จบ 45 นาทีแรกปรากฎว่าทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันไป 0 - 0
กลับมาสู้กันต่อในครึ่งเวลาหลัง ทีมเยือนไม่รอช้าส่งแข้งสำรองอย่าง ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ลงมาแทน สุรชาติ สารีพิมพ์ ที่เจ็บเล่นต่อไม่ไหว ส่วนเจ้าบ้านยังคงใช้ชุดเดิมลงสนามต่อไป นาทีที่ 53 "ปลาทูคะนอง" ได้ลองส่องก่อนเมื่อได้ลูกฟรีคิกระยะ 25 หลาและเป็น ลี ฮัน กุ๊ก อาสาปั่นด้วยขวาแต่ก็ได้แค่เสียวเมื่อบอลหลุดเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
ผ่านมาถึง น.60 "โปลิศ" พลาดประตูขึ้นนำอีกครั้งเมื่อ ธนพัต ณ ท่าเรือ ได้ปั่นฟรีคิกด้วยขวาบอลพุ่งโค้งข้ามกำแพงแต่ยังไร้โชคเมื่อเด้งไปโดนสามเหลี่ยมหลุดออกหลังไปอีกครั้ง หลังจากนั้นทั้งสองทีมยังเปิดเกมแลกกันเหมือนครึ่งเวลาแรก แต่ยังขาดความเฉียบคมในจังหวะจบสกอร์ทั้งคู่
น.73 ทีมเยือนเกือบจะได้ยิงเหน่งๆ จากจังหวะที่ อัสมิง แม ไปขโมยบอลจากเท้าของกองหลังเจ้าบ้านมาได้ ก่อนจะตัดสินใจเปิดเรียดไปที่หน้าปากประตูแต่ไม่แม่นพอหลุดไปเข้ามือนายทวารเจ้าบ้าน เกมในช่วง 15 นาทีสุดท้ายหลังจากที่เปลี่ยนแข้งสำรองลงมาเล่นแต่ทั้งสองทีมก็ยังหาจังหวะจบสกอร์กันไม่ค่อยได้
น.80 เจ้าบ้านชวดประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดายเมื่อ ลี ฮัน กุ๊ก ได้ตั้งป้อมยิงเต็มแรงในระยะ 25 หลา บอลพุ่งแรงกระทบข้างตาข่ายออกหลังไป
แต่จนแล้วจนรอดในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ น.93 "ปลาทู" ก็ได้คะนองสมใจอยาก เมื่อ คริสเตียน นาเด้ หลุดเข้ามาในกรอบเขตโทษพลิกหลบกองหลังก่อนซัดด้วยขวาบอลพุ่งแรงเข้าสามเหลี่ยมไปอย่างสวยงาม ส่งผลให้เจ้าบ้านขึ้นนำ 1 - 0
หลังจากนั้นไม่นานก็จบ 90 นาที ปรากฎว่า ปลาทูคะนอง เปิดบ้านเเอาชนะ สุภาพบุรุษโล่เงิน ไปได้อย่างหวุดหวิด 1 - 0 คว้า 3 คะแนนแรกมาครอง ส่วนทีมเยือนต้องกลับเมืองหลวงไปอย่างชอกช้ำหลังไม่มีแต้มในเกมนี้ หลังเกมนี้ นายพล คนขอนแก่น ผู้จัดจำหน่ายเจนิฟู้ดในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเป็นสปอนเซอร์รายใหญ่ของทีม เจนิฟู้ด สมุทรสงคราม ได้มอบเงินอัดฉีด 100,000 ทันทีหลังจากที่ทีมเก็บชัยชนะได้ในเกมนี้
รายชื่อนักเตะของทั้งสองทีม
เจนิฟู้ด สมุทรสงคราม : ทศพร ศรีเรือง (GK), ธนา ศรีพันดร (วัชรพงษ์ วงษ์ศรีแก้ว), เอ็นจี้ ดิวาย, ลี ฮัน กุ๊ก, คริสเตียน นาเด้, เจษฎา ภู่เล็ก, อภิวัฒน์ งั่วลำหิน, ชัยวุฒิ วัฒนะ (C) (เอกชัย ปรีชากุล), เซซินันโด้, ณภัทร ธำรงศุภกร, เดชา สอาดโฉม (ภูวนาท แสงศรี)
อินทรี เพื่อนตำรวจ : ภัทร ปิยภัทรกิติ (GK), ปาร์ค แจ ฮอง, อมาร่า เจอร์รี่, รังสรรค์ เอี่ยมวิโรจน์, ธนพัต ณ ท่าเรือ, สุรชาติ สารีพิมพ์ (C) (ปกรณ์ เปรมภักดิ์), ปกเกล้า อนันต์ (วัชรพงษ์ คงช่วย), เจมส์ ไรท์, อัสมิง แม (กฤษณ์พรหม บุญสาร), ฟิลิปเป้ เฟอร์ไรร่า, เดชา เพชรตะกั่ว
ยอดผู้ชมเกมในสนาม : 3,120 คน
ยอดจำหน่ายบัตรผ่านประตู : 166,200 บาท
ยอดจำหน่ายของที่ระลึก : ไม่เปิดจำหน่าย เนื่องจากติดพิธีการในสนาม
วาทะหลังเกม
"โค้ชป้ำ" วรวรรณ ชิตะวนิช กุนซือ "ปลาทูคะนอง" กล่าวว่า "วันนี้ยอมรับว่าเกมเป็นรอง โดยเฉพาะครึ่งแรกโชคดีที่เราไม่เสียประตู ส่วนในครึ่งเวลาหลังเกมดีขึ้นและมีโอกาสยิงมากขึ้น ซึ่งการสู้จนถึงนาทีสุดท้ายทำให้เราได้ 3 คะแนนที่ล้ำค่าในเกมนี้ แต่อย่างไรก็ตามเรายังต้องปรับปรุงอีกเยอะโดยเฉพาะในเรื่องของวินัยของนักเตะที่เรายังขาดอีกเยอะ "
"โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล กุนซือ "โปลิศ" กล่าวว่า "รูปเกมวันนี้สู้ได้ดี แต่เราพลาดในจังหวะจบสกอร์ที่เราโชคร้ายมากๆ ที่บอลไปชนเสา 2 ครั้ง และยิงเข้าไปก็ไม่ได้ประตูอีก แต่อย่างไรก็ตามต้องชม ปลาทู ที่เล่นเกมโต้กลับได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งเกมหน้าเราต้องพยายามให้มากนี้หากหวังจะคว้าชัยเกมแรกมาครองให้ได้"
สรุปผลไทยพรีเมียร์ลีก วันอาทิตย์ที่ 25 มีนาคม 2555
- ทีทีเอ็ม เชียงใหม่ เสมอ เชียงราย ยูไนเต็ด 0-0
- บางกอกกล๊าส เอฟซี เสมอ ชลบุรี เอฟซี 0-0
- เจนิฟู้ด สมุทรสงคราม ชนะ อินทรีเพื่อนตำรวจ 1-0
- บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชนะ บีบีซียู เอฟซี 3-0
- เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ชนะ การท่าเรือไทย เอฟซี 5-1