เมื่อคู่ชิงฯ กลายเป็นคู่เปิดสนาม

เมื่อคู่ชิงฯ กลายเป็นคู่เปิดสนาม

เมื่อคู่ชิงฯ กลายเป็นคู่เปิดสนาม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชัยชนะเหนือ เมียนมา ถล่มทะลาย 4-0 ในเกมฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน "เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016" รอบรองชนะเลิศ นัดที่สอง ส่งผลให้ "ทัพช้างศึก" ทีมชาติไทย เดินหน้าผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ไปพบกับ อินโดนีเซีย ที่ผ่านเข้าไปรออยู่ก่อนหน้านี้แล้ว

ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอีกครั้งของเรา ที่สามารถทะลุเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศได้เป็นสมัยที่ 8 จากทั้งหมด 11 ครั้งที่ผ่านมา แต่เป้าหมายของเราไม่ใช่เพียงแค่นี้แน่นอน เพราะเหลืออีกเพียงแค่ 2 นัด เราก็จะก้าวขึ้นถึงตำแหน่งแชมป์อีกสมัย

แต่ลึกๆเชื่อเหลือเกินว่าแฟนบอลบ้านเราต่างผิดหวังไปตามๆกัน ที่ เวียดนาม คู่ปรับเบอร์หนึ่ง ไม่สามารถผ่านเข้ามาถึงรอบนี้ได้ เพราะด้วยกระแสความแรงของบรรดาแฟนบอลชาวเวียดนาม ที่แสดงความมั่นอกมั่นใจตั้งแต่ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ ประกาศจุดยืนชัดเจนว่าพร้อมแล้วที่จะคว่ำ "แชมป์เก่า" ทีมชาติไทย อีกครั้ง เหมือนที่เคยทำได้เมื่อปี 2008

ทำให้แฟนบอลชาวไทย อยากจะเห็นการเจอกันอีกครั้งเพื่อวัดกันไปเลย ว่าใครคือเจ้าอาเซียนตัวจริง แต่เอาเข้าจริง พวกเขากลับจอดป้ายเพียงแค่รอบรองฯ อีกครั้ง สร้างความผิดหวังไม่แต่เฉพาะแฟนบอลตัวเอง แต่ยังทำให้แฟนช้างศึกเซ็งตามไปด้วย ก่อนตามมาด้วยวลีเด็ด "เบี้ยวนัดตลอด"

อย่างไรก็ตามการเจอกับ อินโดนีเซีย คู่ปรับในรอบแบ่งกลุ่มที่เจอกันมาแล้วในเกมนัดเปิดสนาม ซึ่งกับเกมนั้น "ทัพช้างศึก" ของเราเป็นฝ่ายเดินหน้าเก็บชัยไปได้ 4-2 แต่รูปเกมต้องบอกว่าเปิดเกมแลกกันสนุกตื่นเต้น

การโคจรมาเจอกันอีกครั้งในรอบชิงชนะเลิศนี้ เชื่อเลยว่า อินโดนีเซีย มาเน้นเป็นพิเศษแน่นอน แถมพวกเขายังมีประสบการณ์การเจอกับเรามาแล้ว ทำให้รู้ระบบการเล่น และคงเตรียมหาวิธีแก้เกมมาแน่นอน ทำให้ไม่ง่ายอย่างที่คิดแน่

แต่ข้อได้เปรียบของเรา คือการได้ออกไปเยือนก่อนในเกมแรก ในวันที่ 14 ธันวาคม นี้ ก่อนที่จะกลับมาเปิดบ้านรับมือในวันที่ 17 ธันวาคม ซึ่งแน่นอนหากเราบุกไปโชว์ฟอร์มทำผลงานได้ดีในเกมแรก จะทำให้เกมในบ้านเราจะได้เปรียบแบบเต็มๆ แถมยังได้เสียงเชียร์จากแฟนๆในถิ่นหนุนหลังอีก

จากปูมหลังที่ผ่านมา ทีมชาติไทยของเรา เคยพบกับ อินโดนีเซีย ในเกมนัดชิงชนะเลิศ มาแล้ว 2 ครั้ง ปรากฏว่าเราเป็นฝ่ายชนะได้ทั้งหมด ซึ่งหนนี้จะเป็นการเผชิญหน้ากันแบบมีถ้วยแชมป์เป็นเดิมพันครั้งที่ 3

ซึ่งนอกเหนือจากตำแหน่งแชมป์ที่แฟนๆเฝ้ารอที่จะฉลองในบ้านแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ นั่นก็คือหากเราสามารถคว้าถ้วยแชมป์มาครองได้ เราจะสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ขึ้นอีกครั้ง ที่ยังไม่มีชาติใดสามารถทำได้ นั่นคือการเป็นแชมป์ และป้องกันแชมป์ไว้ได้เป็นครั้งที่ 2 ในรายการนี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook