เดือด!เนวินรุกหนักแฉสมาคมเลี่ยงจ่ายภาษี5ปี

เดือด!เนวินรุกหนักแฉสมาคมเลี่ยงจ่ายภาษี5ปี

เดือด!เนวินรุกหนักแฉสมาคมเลี่ยงจ่ายภาษี5ปี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เมื่อช่วงบ่าย วานนี้ (20 เม.ย.) ที่ห้องประชุมสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานการประชุมชี้แจงการบริหารสิทธิประโยชน์ฟุตบอลอาชีพของสมาคมฟุตบอล โดย บริษัทสยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด(มหาชน) พร้อมด้วย นายอดิศัย วารินทร์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.สยามสปอร์ตฯ , ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง ประธาน บ.ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด และตัวแทนจากสโมสรไทยพรีเมียร์ลีก 16 ทีมขาดเพียง ชัยนาท เอฟซี กับ อีสาน ยูไนเต็ด ที่ไม่ได้เดินทางมาร่วมฟังชี้แจงซึ่งก่อนการประชุมได้มีกลุ่มกองเชียร์ ที่สนับสนุน นายวรวีร์ กับ บ.สยามสปอร์ตฯ ประมาณ 50 คน ชูป้ายที่แสดงข้อความสนับสนุนการทำงาน เช่น "ขอสนับสนุนสยามกีฬา" หรือ "ใครจะดูแลฟุตบอลไทยให้เจริญ" เป็นต้น ขณะเดียวกัน ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประมาณ 30 นาย กระจายกำลังอยู่บริเวณโดยรอบ มีการตรวจตรา อย่างเข้มงวด ทั้งด้านนอกและด้านในห้องประชุม โดยผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ยกเว้น สื่อมวลชน จะไม่สามารถเข้าไปในห้องประชุมได้นายอดิศัย กล่าวว่า โครงสร้างการแข่งขันฟุตบอลอาชีพมาจาก 3 ส่วนคือ สมาคมฟุตบอลฯ , บ.สยามสปอร์ตฯ, บ.ไทยพรีเมียร์ลีก และการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ที่ดูแลในเรื่องเงินสนับสนุน ซึ่งในส่วนของ บ.สยามสปอร์ตฯ จะคอยดูแลสิทธิประโยชน์ โดยจะแบ่งได้ 2 ส่วนคือการขายลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันกับการจัดหาผู้สนับสนุน ทั้งนี้ ในส่วนของรายรับตลอดปี 2554 ที่มาจากการขายลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด  อย่าง บ.ทรูวิชั่นส์, ไอพีเอ็ม, เอทีพี, ฟรีทีวีช่อง 11 รวมทั้งสิ้น 135,400,000 บาท และผู้สนับสนุนหลักอย่างเครื่องดื่มเกลือแร่ สปอนเซอร์ กับ เอสไอเอส รวม 83,000,000 บาท  ซึ่งรวมรายรับทั้งหมด 218,400,000 บาท ขณะที่ ต้นทุนค่าใช้จ่ายรวมเป็นเงิน 209,882,000 บาท  มีกำไร 8,517,600 บาทนายอดิศัย กล่าวอีกว่า บ.สยามสปอร์ตฯ ยืนยันว่า จะขอถอนตัวจากการดูแลสิทธิประโยชน์ ทั้งนี้ ขอขอบคุณ นายวรวีร์  บ.ไทยพรีเมียร์ลีก ที่มีเจตนารมณ์ขับเคลื่อนวงการฟุตบอลไทยให้เท่าเทียมกับในระดับเอเชียมาด้วยกันประมุขบอลไทย กล่าวว่า บ.สยามสปอร์ตฯ แสดงสปิริตถอนตัวจากการเป็นคู่สัญญา โดยมีสาเหตุจากการได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมาย ทั้งที่พยายามชี้แจงขอเท็จจริงมาโดยตลอด และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 แล้ว ทั้งนี้ สมาคมฟุตบบอลฯ รู้สึกเสียใจที่ บ.สยามสปอร์ตฯ ต้องถอนตัวออกไป และขณะนี้สิทธิ์กลับมาที่สมาคมฟุตบอลฯ เช่นเดิม อย่างไรก็ตาม ตนขอกำหนดแนวทางดังต่อไปนี้ (1.) สมาคมฟุตบอลฯ ขอขอบคุณในการช่วยเหลือของ บ.สยามสปอร์ตฯ ที่เข้ามามาสนับสนุนการดูแลสิทธิประโยชน์ ซึ่งสมาคมฟุตบอลฯ ตระหนักถึงความยากลำบากในการหาความสัมพันธ์ กับพันมิตรต่าง ๆ ของ บ.สยามสปอร์ตฯ , (2.) สมาคมฟุตบอลฯ จะพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับ บ.สยามสปอร์ตฯ ต่อไป เพื่อจรรโลงวงการฟุตบอลไทยให้ก้าวไปข้างหน้า แต่หาก บ.สยามสปอร์ตฯ ยังยืนยันในจุดเดิมสมาคมฟุตบอลฯ พร้อมขอร้องให้ช่วยเหลือในด้านการดำเนินงานต่าง ๆ หรือเป็นที่ปรึกษาให้กับสมาคมฟุตบอลฯ ต่อไป ,  (3.) ก่อนฤดูกาลจะเริ่มในปี 55 สมาคมฯ ได้ชี้แจงให้สโมสรได้รับทราบถึงเรื่องสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับก่อนจะให้ตอบรับหนังสือกลับมาว่า ยินดีที่จะเข้าร่วมการแข่งขันหรือไม่ , (4.) สมาคมฟุตบอลฯ จะดำเนินการจัดการแข่งขันในฤดูกาลนี้ต่อไปให้จนจบฤดูกาลตามโปรแกรมที่ได้วางเอาไว้ แม้ว่า บ.สยามสปอร์ตฯ จะถอนตัวจากการเป็นพันธมิตร และจะรักษาเรืองสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เอาไว้อย่างเดิม , (5.)ในปี 2556 สมาคมฟุตบอลฯ หวังว่า บ.สยามสปอร์ตฯ จะให้การอุปถัมภ์สืบเนื่องต่อไป และในสัปดาห์หน้าสมาคมฟุตบอลฯ จะส่งใบสอบถามไปยังสโมสรต่าง ๆ เพื่อให้ตอบรับการเข้าร่วมทำการแข่งขันในปีต่อไปกับสมาคมฟุตบอลฯ หรือไม่ หากมีสโมสรใดไม่ยินดีที่จะเข้าร่วมการแข่งขันสมาคมฯ จะพิจารณาจากทีมในลีกดิวิชั่น 1 ขึ้นมาทดแทน เพราะเหตุการณ์ตอนนี้ถือว่าอยู่ในสภาวะวิกฤตจากนั้น "บิ๊กเน" เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ตั้งคำถามไปยัง นายอดิศัย ถึงเรื่องการถ่ายทอดสดและเรื่องการดูแลสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ว่ามีการดำเนินงานอย่างไร ขณะเดียวกัน ก็ตั้งคำถามถึง นายวรวีร์ ทั้งในเรื่องการบริหารสิทธิประโยชน์การมอบสิทธิ์ให้ บ.สยามสปอร์ตฯ ดูแลก่อนจะมีการตอบโต้อย่างดุเดือดไปมานานหลายนาทีหลังการประชุม นายเนวิน กล่าวเพิ่มว่า ตนได้รับข้อมูลจาก กรมสรรพากร ว่า สมาคมฟุตบอลฯ ไม่เคยยื่นภาษีเงินได้ (ภงด.55) มาตั้งแต่ปี 2550 ตนไม่เข้าใจว่า เพราะสาเหตุใดจึงไม่มีการยื่นเสียภาษี ขณะเดียวกัน ตนยังสงสัยในเรื่องการโฆษณาของ ช่องสยามกีฬาทีวี (ทรูวิชั่นส์ 69) กับ ช่องฟุตบอลสยาม (ทรูวิชั่นส์ 74) ที่มีการโฆษณามากมาย และเป็นนอกแพ็คเกจของทรูวิชั่นส์ ซึ่งการโฆษณาต่าง ๆ เหล่านั้น ไม่ได้คิดเงินใช่หรือไม่ และทำไมจึงไม่คิดเงิน โดยตนจะทำหนังสือสอบถามไปยัง นายวรวีร์ เพื่อขอความชัดเจน ทั้งนี้จะชวนเพื่อนสโมสรอีก 17 สโมสรให้ร่วมลงชื่อ ขณะเดียวกัน ไม่ว่าจะเหลือกี่สโมสรก็ตาม แต่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็พร้อมเดินหน้าต่อไป   
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook