ป้ำจี้สมาคมทำพรบ.ล้มบอล,ยันเลก 2 กลับสิงคโปร์แน่นอน
โค้ชป้ำ วรวรรณ ชิตะวณิช กุนซือเจนิฟู้ดสมุทรสงคราม ออกมากระตุ้นให้สมาคมฯ เร่งออก พรบ.ล้มบอลโดยด่วนไม่เช่นนั้นบอลไทยตกต่ำแน่ ยืนยันจะออกจากสมุทรสงครามเลก 2 แน่ และเตรียมกลับไปคุมทีมที่สิงคโปร์อีกครั้ง
"โค้ชป้ำ" วรวรรณ ชิตะวณิช กุนซือทีม "ปลาทูคะนอง" เจนิฟู้ด สมุทรสงคราม เอฟซี ออกมากระตุ้นและย้ำให้สมาคมฟุตบอลฯ เร่งดำเนินการจัดทำ พรบ.การล้มบอล ไม่เช่นนั้นฟุตบอลไทยถึงคราวตกต่ำแน่นอน พร้อมกันนี้ยังออกมายืนยันคำพูดของตัวเองอีกครั้งว่าจะอยู่คุมทีมสมุทรสงคราม เพียงแค่เลกแรกตามที่ประกาศออกไปเท่านั้น โดยในเลกที่ 2 จะกลับไปคุมทีมในเอสลีก สิงคโปร์เหมือนเดิม
ด้านกุนซือทีม "ปลาทูคะนอง" ได้ออกมาเปิดเผยในขณะที่เดินทางมาร่วมงานแถลงข่าวมีทเดอะเพรสไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาว่า "หลังจากที่ตนได้ประกาศจะลาออกจากสมุทรสงคราม หลังจบเลกแรกไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาตนยังคงยืนยันคำเดิม ทั้งนี้ก้เป็นเพราะเหนื่อยหน่ายกับวงการฟุตบอลไทยที่ดูเหมือนกำลังจะเดินถอยหลังเข้าคลอง โดยเฉพาะเรื่องล้มบอลที่ถึงวันนี้ต้องยอมรับว่ามันยังคงมีอยู่ เพียงแต่ไม่มีใครกล้าออกมาพูดเท่านั้น
ผมคิดว่าฟุตบอลบ้านเรากำลังจะพัฒนาไปในทิศทางที่ดี แต่เมื่อได้มาสัมผัสก็รู้ว่ามันไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เรื่องของการล้มบอลยังเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และที่ตนออกมาพูดเช่นนี้ก็เป็นเพราะได้รับทราบข่าวสารมาจากบรรดาพี่น้องสื่อมวลชนอยู่ตลอดเวลา และมันก็เกิดขึ้นอยู่จริงๆ ในการที่ตนได้ประกาศลาออกจากสมุทรสงคราม ไม่ใช่เป็นเพราะน้อยใจสโมสร หรือกล่าวหาลูกทีมของตนว่ามีการล้มบอลเกิดขึ้น ตนยืนยันว่านักเตะสมุทรสงครามทุกคนไม่มีใครทำเรื่องพวกนี้แน่นอน ตนเป็นโค้ชย่อมรู้ดีในเรื่องนี้
แต่ที่ออกมาพูดก็หมายถึงภาพรวมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผู้บริหาร โค้ช นักเตะ เจ้าหน้าทีม ผู้ตัดสิน ซึ่งมันสามารถเกิดขึ้นได้กัยเรื่องของการล้มบอล ดังนั้นหากสมาคมฟุตบอลฯ ยังนิ่งเฉยไม่คิดที่จะออก พรบ.การล้มบอลออกมา ต่อไปวงการฟุตบอลไทยก็คงถึงกาลอวสานขึ้นแน่นอน ในฟุตบอลลีกระดับเอเชีย อย่างในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ หรือแม้กระทั้งในสิงคโปร์ที่ตนคุมทีมมากว่า 10 ปี ประเทศเหล่านี้ก็มี พรบ.เรื่องนี้ทั้งสิ้น และบทลงโทษก็ค่อนข้างร้ายแรงด้วย ดังนั้นถ้าเราต้องการจะพัฒนาฟุตบอลไทยให้เทียบเท่ากับระดับลีกใหญ่ในเอเชีย ก็ควรจะออก พรบ.ดังกล่าวออกมาให้เร็วที่สุด"
พร้อมกันนี้ "โค้ชป้ำ" ยังได้ออกมาย้ำถึงอนาคตตัวเองในถิ่นเม่กลองด้วยว่า "ตนยังคงยืนยันคำพูดเดิมคือจะลาออกจากสมุทรสงครามหลังจบเลกแรกแน่นอน และอยากให้บอร์ดบริหารเตรียมหากุนซือใหม่ไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อจะได้มีเวลาเตรียมทีมและหานักเตะเข้ามาเสริมในเลก 2 ได้ทันเวลา ซึ่งหลังจากนั้นตนก็คงจะกลับไปทำทีมในสิงคโปร์อีกครั้ง แต่ยังไม่ขอเปิดเผยตอนนี้ว่าจะไปคุมทีมไหน แต่สิ่งที่ยืนยันได้เวลานี้ก็คือจะไม่ทำทีมในเมืองไทยอีกแล้ว ถ้ายังไม่สามารถแก้ไขเรื่องดังกล่าวที่ตนได้พูดไปทั้งหมดหลังจากนี้ได้"