เอาจริง! ตำรวจเร่งตามจับแฟนบอลจุดพลุป่วนนัดชิงซูซูกิคัพ
พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 พร้อม พ.ต.อ.ชุมพล พุ่มพวง รองผบก.น.4 พ.ต.อ.ศุภชัจจ์ เปี่ยมมนัส ผกก.สส.บกน.4 พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.ท.พิพัฒน์ เต็งถาวร รองผกก.สส.สน.หัวหมาก ได้เรียกประชุมชุดสืบสวน บก.สส.บกน.4 ฝ่าย และสืบสวน สน.หัวหมาก เร่งติดตามคดีที่แฟนบอลไทยจุดพลุแฟร์ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลซูซูกิคัพ ระหว่างไทยกับอินโดนีเซีย ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน เมื่อเวลา 20.20 น.วันที่ 18 ธ.ค. ที่สน.หัวหมาก
พล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวว่า จากการสืบสวนขณะนี้พอจะทราบแล้วว่าเป็นกลุ่มอุลตร้าไทยแลนด์ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ความสนใจในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นห่วงในเรื่องชื่อเสียงของประเทศ จึงได้กำชับมายังกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ให้เร่งติดตามเรื่องดังกล่าว
โดยตอนนี้เจ้าหน้าอยู่ระหว่างรวบรวมพยามหลักฐาน เทียบเคียงภาพเพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามมาตรา 397 เป็นความผิดลหุโทษ มีโทษจำคุก 1 เดือน ปรับ 10,000 บาท ในส่วนของการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.ถ้าไม่มีการยิงขึ้นฟ้าก็ไม่เข้าข่ายความผิด โดยเบื้องต้นทราบกลุ่มแฟนบอลแล้ว
ซึ่งแฟนบอลกลุ่มดังกล่าวมีจำนวนมาก และนั่งอยู่ในโซนเดียวกัน ใส่เสื้อประจำกลุ่ม แต่ในวันก่อเหตุมีเพียงไม่กี่คนที่ถือพลุ อีกประเด็นที่ต้องตรวจสอบคือการตรวจค้นคัดกรองสิ่งของผิดกฎการเชียร์ว่าถูกลักลอบนำเข้าไปได้อย่างไร ซึ่งพฤติกรรมของแฟนบอลกลุ่มนี่มักฝ่าฝืนกฎของฟีฟ่าเป็นประจำและกระทำโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทั้งนี้ในวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดประทัดไข่ก๊อกได้จำนวนมาก ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดี แต่ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าประทัดดังกล่าวเป็นของกลุ่มเชียร์ใด
พล.ต.ต.นันทชาติ กล่าวอีกว่า ตนขอร้องให้แฟนบอลปฏิบัติตามกฎของฟีฟ่าอย่างเคร่งครัด อย่าเลียนแบบสิ่งที่ไม่ดีจากต่างชาติ ซึ่งในสนามฟุตบอลยังมีอีกหลายกลุ่มเชียร์ที่ปฏิบัติตามกฎซึ่งจะสร้างชื่อเสียงให้ประเทศมากกว่ากลุ่มเชียร์ที่ก่อเหตุจุดพลุแฟร์ภายในสนามจนสร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้ประเทศ อย่างไรก็ตามภายใน 2 วันนี้ ตนจะติดต่อขอเข้าพบนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เพื่อหามาตรการป้องกันและควบคุมแฟนบอลหัวรุนแรงไม่ให้ก่อเหตุในลักษณะนี้เกิดซ้ำอีก และฝากไปยังแฟนบอลที่มาเชียร์ ให้เห็นแก่ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเพราะนี้คือการแข่งกีฬาระดับนานาชาติ
ขณะที่ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขอประณามการกระทำของกลุ่มคนดังกล่าว ที่กระทำการทั้งๆ ที่ทราบกฎระเบียบข้อห้าม และกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลให้ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ถูกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ตัดสินปรับขั้นต้น 20,000 สวิตฟรัง หรือ ประมาณ 700,000 บาท และอาจถูกลงโทษห้ามจัดการแข่งขันในเกมเหย้า ห้ามแฟนบอลเข้าชมการแข่งขันในสนาม หรือถูกสั่งให้จัดการแข่งขันในสนามประเทศเป็นกลางแทน
ทั้งนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลกีฬาแห่งประเทศไทยฯ ได้ประสานขอความช่วยเหลือ ไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ซึ่ง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) รวมถึง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้สั่งการให้ สถานีตำรวจนครบาลหัวหมาก และผู้เกี่ยวข้อง เร่งรัดติดตามสืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาลงโทษให้ได้
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ขอความร่วมมือแฟนบอลหรือประชาชนทั่วไป ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว หรือทราบเบาะแส มีข้อมูลของผู้กระทำความผิด สามารถส่งข้อมูลมาได้ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ อาคารพงษ์สุภี ชั้น 3 เลขที่ 19 ซอยยาสูบ 1 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. 10900 โทรศัพท์ : 02-272-2250 อีเมล์ : info@fathailand.org หรือ สามารถเข้าแจ้งความร้องทุกข์ได้ที่สถานีตำรวจหัวหมาก
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
พ.ร.บ. อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธ พ.ศ. 2490
มาตรา 4(4) “ดอกไม้เพลิง” หมายความรวมตลอดถึง พลุ ประทัด ประทัดลม และวัตถุอื่นใดอันคล้ายคลึงกัน
มาตรา 47 ห้ามมิให้ผู้ใดสั่ง นำเข้า หรือค้า ซึ่งดอกไม้เพลิง เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ฐานความผิด การไม่ได้รับอนุญาตตาม ม.47 เป็นความผิดมาตรา 77 ต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พงส.เปรียบเทียบปรับได้
กรณีฐานความผิดอื่นๆ กรณีเล่นดอกไม้เพลิง
- การเล่นดอกไม้เพลิง พลุ หรือประทัด ในที่สาธารณะหรือในงานรื่นเริง อาจมีความผิดฐาน “ทำให้เกิดเสียงหรือกระทำความอื้ออึงโดยไม่มีเหตุอันสมควร จนทำให้ประชาชนตกใจหรือเดือดร้อน” ตาม ป.อาญา มาตรา 370 ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งร้อยบาท
- กรณีการเล่นประทัดหรือจุดพลุ โดยโยนใส่หรือจุดใส่บุคคลอื่น โดยเจตนา หากบุคคลดังกล่าวได้รับบาดเจ็บหรือบาดเจ็บสาหัส ผู้นั้นมีความผิดฐาน “ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ หรือได้รับอันตรายสาหัส” ตาม ป.อาญา มาตรา 295 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือรับไม่เกินสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือ 297 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หกเดือนถึงสิบปี
- กรณีการเล่นประทัดหรือจุดพลุ โดยโยนเล่นหรือจุดเล่น แต่ไปถูกคนอื่นได้รับบาดเจ็บหรือบาดเจ็บสาหัส โดยไม่ได้ตั้งใจ ผู้นั้นมีความผิดฐาน “กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ หรือได้รับอันตราสาหัส” ตาม ป.อาญา มาตรา 300(สาหัส) หรือ 390 แล้วแต่กรณี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อัลบั้มภาพ 4 ภาพ