กิเลนเริ่งร่ายิง 2 ลูกท้ายเกมซิวชัยเหนือชลบุรี 2-0

กิเลนผยอง เอสซีจี เมืองทองฯ ยังคงร้อนแรงต่อเนื่องเมื่อเปิดบ้านเอาชนะฉลามชล ชลบุรี เอฟซีไปได้ 2-0 ในศึกซุปเปอร์บิ๊กแมตช์ โดย 2 ประตูได้ในช่วงท้ายเกมจาก มาริโอ ยูรอฟสกี้ กับ พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ทำให้เมืองทอง ยังคงนำเป็นจ่าฝูงต่อไปได้อย่างเหนียวแน่น

เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด 2 - 0 ชลบุรี เอฟซี

การแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก 2012 เลกแรก คู่ซุปเปอร์บิ๊กแมตช์ประจำวันอาทิตย์ที่ 27 พ.ค. ที่สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม เป็นการโคจรมาพบกันอีกครั้งของ 2 มหาอำนาจลูกหนังและคู่รักคู่แค้นตลอดกาลในเมืองไทยเวลานี้อย่าง “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด อดีตแชมป์ 2 สมัย และเป็นจ่าฝูงอยู่ในเวลานี้ ลงสนามไปแล้ว 10 นัดมี 24 คะแนน จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของทัพ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี เจ้าของแชมป์ไทยลีก 1 สมัย ล่าสุดรั้งอยู่อันดับ 6 ของตาราง 8 นัดมี 15 คะแนน
 
สำหรับเจ้าถิ่นตอนนี้กำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม 4 เกมหลังสุดชนะรวด และนำเป็นจ่าฝูงอยู่ตอนนี้โดยที่ยังไม่แพ้ใคร ส่วนทีมเยือนแม้ผลงานในลีกปีนี้จะไม่เปรี้ยงป้างเหมือนเช่นทุกปีที่ผ่านมา แต่ก็ถือว่ายังเป็นทีมที่น่ากลัวสำหรับทุกทีม โดยเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาชลบุรี ก็เพิ่งจะได้ผ่านเข้ารอบ 3 ของเอเอฟซี คัพ มาด้วย ทำให้น่าจะมีกำลังใจมากขึ้นก่อนมาเยือนเมืองทองฯ วันนี้ สำหรับเกมวันนี้ได้รับความสนใจจากแฟนบอลเป็นจำนวนมาก เข้ามาชมกันเต็มความจุของเอสซีจี สเตเดี้ยม อย่างล้นหลาม
 
เริ่มเกมมา 10 นาทีแรกทั้งสองทีมก็เปิดเกมบุกเข้าใส่กันอย่างสนุก แต่ในช่วงต้นก็ยังไม่มีฝั่งไหนได้ลุ้นทำประตูมากนัก เจ้าถิ่นมาได้ลุ้นจากการยิงไกลของ มงคล นามนวด ครั้งเดียวเท่านั้น แต่บอลก็ไม่ตรงกรอบ
 
น.15 ทีมเยือนชลบุรี มาได้ฟรีคิกหน้าเขตโทษระยะ 25 กลางประตู แต่ โฟเด้ บองกาลี่ กองหลังชลบุรี ที่ขอส่องก็ยิงออกหลังไปแบบไม่ได้ลุ้น
 
มาถึง น.20 เป็นข่าวร้ายของแฟนบอลเจ้าถิ่นเมื่อ ธีรศิลป์ แดงดา ดาวซัลโวของทีมเวลานี้มาได้รับบาดเจ็บจากจังหวะที่ไปโดน บองกาลี่ เตะสกัดเข้าที่ข้อเท้าตั้งแต่ช่วงต้นเกมและทนฝืนเล่นมานาน จนสุดท้ายเล่นต่อไหวต้องขอเปลี่ยนตัวออก โดย สลาวิซ่า โยคาโนวิช กุนซือใหญ่ตัดสินใจส่ง จักรพันธ์ พรใส ลงไปแทน และให้ ดักโน่ เซียก้า ขึ้นไปเล่นเป็นกองหน้าตัวเป้าแทน “เจ้ามุ้ย”
 
น.23 เจ้าถิ่นมาได้ลุ้นประตูอีกครั้งจากจังหวะที่ เซียก้า แตะบอลคืนหลังให้ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ได้บรรจงปั่นเล่นทางด้วยซ้ายหน้าเขตโทษแต่บอลก็ไปตรงตัว สินทวีชัย หทัยรัตนกุล นายทวารทีมเยือนรับเอาไว้ได้
 
เกมดำเนินมาถึงช่วง 5 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก โดยหลังจากที่เจ้าถิ่นไม่มี ธีรศิลป์ แดงดา อยู่ในสนามทำให้แดนหน้านั้นเก็บบอลไม่ได้และตกลงเป็นรองในช่วงที่ผ่านมา โดย น.40 เป็นโอกาสที่ชลบุรี น่าได้ประตูขึ้นนำที่สุดเมื่อ นพนนท์ คชพลายุกต์ ลากบอลลุยเข้าไปในเขตโทษถึงเส้นหลังก่อนจะเปิดเรียดมาที่เสาแรกให้ พิภพ อ่อนโม้ ได้เข้าชาร์จจ่อๆ แต่โดนไม่ดีบอลออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
 
นาทีสุดท้ายของครึ่งแรกเป็นอีกครั้งที่ทีมเยือนน่าได้ประตูขึ้นนำจากลูกเตะมุม เทิดศักดิ์ ใจมั่น เปิดบอลยาวมาที่เสาสองบอลนั้นเลยมาเข้าทางของ สุทธินันท์ พุกหอม ที่ยืนอยู่ตรงนั้นได้สไลด์ยิงแบบเผาขนแต่บอลกลับข้ามคานออกไป สุดท้ายทั้งคู่ไม่สามารถทำอะไรกันได้ จบ 45 นาทีแรกยังเสมอกันอยู่ 0-0
 
กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลังทั้งสองทีมยังไม่มีการเปลี่ยนตัวผู้เล่นเพิ่มเติม และเป็นชลบุรี ที่ได้ลุ้นประตูอีกครั้งใน น.48 เทิดศักดิ์ ใจมั่น จ่ายบอลทะลุช่องให้ นพนนท์ คชพลายุกต์ ได้หลุดเข้าไปยิงมุมแคบทางขวาแต่ก็ไม่ผ่านมือ กวิน ธรรมสัจจานันท์ ที่ล้มตัวเซฟเอาไว้ได้
 
น.56 เป็นโอกาสของเจ้าถิ่น เอสซีจี เมืองทองฯ บ้าง อั๊ดนาน บาราคัต ได้ยิงจังหวะสองหน้าเขตโทษแต่ก็ยังไปติดเซฟผู้รักษาประตู นาทีต่อมา จักรพันธ์ พรใส เปิดบอลจากกราบขวาเข้าไปในเขตโทษ มาริโอ ยูรอฟสกี้ ได้ตั้งศีรษะโหม่งแต่สะบัดมากเกินไปบอลออกหลังอย่างน่าเสียดาย
 
น.68 ทีมเยือนเปลี่ยนตัว 2 คนรวดส่ง โธมัส ดอสเซวี่ กับ ดิยุฟ บิเรเม่ ลงไปแทน เทิดศักดิ์ ใจมั่น กับ นพนนท์ คชพลายุกต์ ตามลำดับ ส่วนก่อนหน้านั้นเจ้าถิ่นก็เปลี่ยนเอา เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ ลงไปแทน บาราคัต ใน น.67 ด้วยเช่นกัน
 
และแล้ว น.82 ก็มีประตูแรกของการแข่งขัน เอสซีจี เมืองทองฯ มาได้ฟรีคิกริมกรอบเขตโทษทางฝั่งขวาและเป็น “ซุปเปอร์มาริโอ” ที่ปั่นด้วยซ้ายบอลมุดเสียบเสาสองเข้าไปอย่างสวยงามให้เจ้าถิ่นขึ้นนำ 1-0
 
น.89 พิชิตพงษ์ เฉยฉิว เก็บบอลได้แถวสองก่อนจะสับด้วยขวาบอลพุ่งเป็นจรวดแหวกเข้าประตูไปตาข่ายแทบขาดให้เมืองทองฯ หนีไปเป็น 2-0 ท่ามกลางเสียงเฮดังลั่นของแฟนบอลเจ้าถิ่น
 
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีฝั่งไหนทำอะไรกันได้ จบเกมเป็น เอสซีจี เมืองทองฯ ที่เปิดบ้านเอาชนะชลบุรี ไปได้ 2-0 ทำให้เจ้าถิ่นยังคงรักษาสถิติไม่แพ้ใครในฤดูกาลนี้ต่อไป และเก็บเพิ่มเป็น 27 คะแนน รั้งจ่าฝูงได้อย่างเหนียวแน่น
 
สำหรับรายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด : กวิน ธรรมสัจจานันท์ (GK),ภานุพงศ์ วงศ์ษา,ริ กวาง ชอน,ดัสกร ทองเหลา (C),ธีรศิลป์ แดงดา (จักรพันธ์ พรใส น.20),อั๊ดนาน บาคาคัต (เอกภูมิ โพธารุ่งโรจน์ น.67),มงคล นามนวด,พิชิตพงษ์ เฉยฉิว,มาริโอ ยูรอฟสกี้ (โคเน่ โมฮัมเหม็ด น.87),ดักโน่ เซียก้า และ ปิยพล บรรเทา
 
ชลบุรี เอฟซี : สินทวีชัย หทัยรัตนกุล (GK),ณัฐพงษ์ สมณะ (นูรูล ศรียานเก็ม น.88),สุทธินันท์ พุกหอม,เทิดศักดิ์ ใจมั่น (โธมัส ดอสเซวี่ น.68),พิภพ อ่อนโม้ (C),อนุชา กิจพงษ์ศรี,โฟเด้ บองกาลี่,อดุล หละโสะ,คาสุโตะ คูชิดะ,นพนนท์ คชพลายุกต์ (ดิยุฟ บิเรเม่ น.68) และ พุทธินันท์ วรรณศรี
 
หลังจบเกม
จักรพันธ์ ปั่นปี สตาฟฟ์โค้ช ชลบุรี เอฟซี เผยว่า “เกมนี้เราเป็นรองเรื่องตัวผู้เล่นตั้งแต่ก่อนแข่งขัน ทำให้ต้องส่งดาวรุ่งลงไปหลายคน แต่จริงๆ แล้วนักเตะทุกคนก็ทำผลงานได้ดี แต่เรามาเสียประตูจากลูกเซ็ตพีซในช่วงท้ายเกมทั้ง 2 ลูกก็ถือว่าน่าเสียดายที่ไม่มีแต้มในเกมนี้ แต่ถึงอย่างไรชลบุรี เอฟซี ก็ยังไม่ยอมแพ้กับการลุ้นแชมป์ถ้าหากผู้เล่นเรากลับมาสมบูรณ์ครบเมื่อไหร่ทีมเรายังคงน่ากลัวเหมือนเดิมแน่นอน”
 
ส่วนทางด้าน สลาวิซ่า โยคาโนวิช กุนซือเมืองทองฯ เผยว่า “หลังจากที่เสีย ธีรศิลป์ ไปในช่วงต้นเกมทำให้เราต้องปรับแทคติกซึ่งรูปเกมก็เปลี่ยนไป และเราเองก็ไม่ได้มองถึงชัยชนะด้วยซ้ำ เพราะชลบุรี เล่นได้ดีมาก แต่สุดท้ายเรามาได้ประตูและเก้บชัยชนะได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี และถือเป็นโชคของเราในเกมนี้”
 
สรุปผลไทยพรีเมียร์ลีก วันอาทิตย์ที่ 27 พฤษภาคม 2555
- ทีทีเอ็ม เชียงใหม่ แพ้ บีบีซียู เอฟซี 0-1

- อาร์มี่ ยูไนเต็ด เสมอ อินทรี เพื่อนตำรวจ 1-1

- เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ชนะ ชลบุรี เอฟซี 2-0

เครติตภาพ - sittinan ไทยแลนด์สู้สู้

เครดิตคลิป - mtutd.tv

เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด 2 - 0 ชลบุรี เอฟซี