ชะลอก่อน! อนุกรรมการฯเบรกไทยเจ้าภาพจัด "โมโต จีพี"
คณะอนุกรรมการกลั่นกรองด้านการกีฬาของบอร์ดกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ สั่งทบทวนโครงการ "โมโต จีพี" ในประเทศไทย เหตุเพราะใช้งบประมาณในการจัดที่สูงมาก แถมแผนงานยังไม่ชัดเจน ทำให้ตีเรื่องกลับไปยัง บอร์ดการกีฬาแห่งประเทศไทย อีกครั้ง ขณะที่ "บิ๊กเสือ" สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่า กกท. ยังมั่นใจจะได้การอนุมัติจากบอร์ดแน่นอน
เมื่อวันที่ 6 ม.ค. ที่ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบพระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) "บิ๊กอ๊อด" พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ประธานคณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองด้านการกีฬาเป็นประธานประชุมคณะกรรมการฯ โดยมีวาระสำคัญเรื่องการพิจารณางบประมาณค่าลิขสิทธิ์การจัดการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี จำนวน 100 ล้านบาท
สำหรับการจัดการแข่งขัน โมโต จีพี ที่ไทยเราสนใจเป็นเจ้าภาพ จะใช้งบประมาณราว 374 ล้านบาท ต่อปี (สัญญา 3 ปี) ซึ่งจากการเจรจาล่าสุดหากลงตัวไทยจะได้จัดการแข่งขันในช่วง เดือน มี.ค. ปี ค.ศ.2018 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต และหากได้รับการอนุมัติงบประมาณ ดังกล่าวจะสามารถเซ็นสัญญากับทาง “ดอร์น่า” ผู้ถือลิขสิทธิ์โมโต จีพี ได้ในช่วงเดือน เมษายนนี้ และสามารถเตรียมการจัดการแข่งขันได้ทันที
ด้าน นางสุปราณี คุปตาสา คณะกรรมการได้ตั้งข้อสังเกตเรื่องของการใช้งบประมาณดังกล่าว โดยต้องการให้มีแนวทางในการของบประมาณเพื่อการจัดกีฬาอาชีพที่เป็นแบบแผนตามระเบียบมากกว่านี้ เนื่องจากจากต้องใช้งบประมาณเป็นจำนวนมาก และเสนอให้นำเรื่องนี้ขอความชัดเจนจากคณะกรรมการบริหารการกีฬาแห่งประเทศไทย (บอร์ด กกท.) ซึ่งมี นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธาน รับรองอีกครั้ง
ขณะที่ ศ.อรรถ นานา มีความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า การจัดการแข่งขันโมโต จีพี อาจจะเป็นการส่งสัญญาณที่ผิดไปยังประชาชน เพราะไทยเป็นประเทศที่มีอุบัติเหตุในการใช้จักรยานยนต์มากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และการนำเสนอข้อมูลเป็นการมองแต่ในแง่ดีเท่านั้น ควรศึกษาข้อมูลด้านอื่นๆ ด้วย
“บิ๊กเสือ” นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า กรณีที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่ายังไม่มีผู้รับจัดการแข่งขันนั้น อยากให้มองว่าตอนนี้จำเป็นต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ก่อน จึงจะสามารถดำเนินการได้ แต่เพื่อความรอบคอบตามที่คณะอนุกรรมการตั้งข้อสังเกต จึงจะนำเรื่องนี้กลับไปยังบอร์ดกกท.อีกครั้ง ส่วนตัวมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหา และจะสามารถดำเนินการได้ทันก่อนการเซ็นสัญญา เม.ย.นี้ แต่หากไม่ทันก็คงต้องรอไปอีกปี ค.ศ.2019 หรือ ค.ศ.2020 เลยทีเดียว