ไร้คอสต้า....แล้วไง!??
บางที อันโตนิโอ คอนเต้ คงอยากกล่าวคำนี้ในใจหลังจบเกมที่พวกเขาสร้างความเกรียงไกรด้วยการบุกไปกำราบ "แชมป์เก่า" เลสเตอร์ ซิตี้ 3-0
ดังที่เรารู้กันครับ...ก่อนเกมนัดนี้มีประเด็นร้อนเกิดขึ้นหลังจากที่ฟอร์มกำลังสะเด่า และ สุดร้อนแรงจู่ๆ 'ดิเอโก้ คอสต้า' หัวหอกตัวเก่งก็ดันมาทิ้ง 'ระเบิดลูกใหญ่' ให้กับทีม
ภายหลังจากที่มีเงินก้อนโตหยิบยื่นมาให้รับเน้นๆราว 30 ล้านปอนด์ต่อปี แล้ว คอสต้า ก็ออกอาการงอแงกระทบกระทั่งกับโค้ชฟิตเนสรวมถึง อันโตนิโอ คอนเต้ จนกุนซือชาวอิตาเลี่ยนทนไม่ไหวจัดการหั่นชื่อแข้งรายนี้ช่วงก่อนเกมล่าสุดทันที
นั่นทำให้ก่อนเกมหลายฝ่ายเชื่อว่างานนี้ เชลซี จะต้อง "เหนื่อยหนัก"
จะไม่ให้คิดงั้นได้อย่างไร...ก็ในเมื่อในตอนนี้ คอสต้า คือดาวซัลโวของทีม "คนปัจจุบัน"
ทว่าฉับพลันพอการประกาศรายชื่อ 11 ตัวจริงเริ่มต้นขึ้น พอเสียงนกหวีดถูกเป่าปรี๊ดให้เริ่มการแข่งขัน อันโตนิโอ คอนเต้ กลับทำให้เราทั้งหลายต้อง "เซอร์ไพร์ส"
เกมนี้ "สิงห์บลูส์" เลือกใช้ เอแด็น อาซาร์ เป็นตัวเดินเกมโดยขยับปีกทีมชาติเบลเยี่ยมโยกมาเป็นหน้าเป้าก่อนจะให้ วิลเลี่ยน เดินเกมทางริมเส้นร่วมกับ เปโดร
แม้จะมีศูนย์หน้าอย่าง มิชี่ บัตชูอายี่ อยู่ในทีม ทว่าส่วนตัวแล้ว คอนเต้ ขอเลือกที่จะเสี่ยงกับการจับ อาซาร์ มาเกิดกับบทบาทศูนย์หน้าจำแลง หรือ "False9" มากกว่า
ซึ่งนั่นกลับกลายเป็นความคิดที่ "ถูกถนัด"
โอเค อาซาร์ อาจจะเป็นนักเตะคนละสไตล์กับ คอสต้า ทว่าด้วยความเร็วและเซนส์บอลที่ทันกับเพื่อนร่วมทีมกลับกลายเป็นว่าซูเปอร์สตาร์คนเก่งคอยเชื่อมเกมให้เกมรุกของ เชลซี นั้นไหลลื่น
เกมนี้แนวรุกของ เชลซี สะเด่าจริงๆครับ ในยามที่ไร้ศูนย์หน้าธรรมชาติกลับกลายเป็นว่าทีมดังจากลอนดอนค้นพบสูตรใหม่และบางทีอาจรวมถึงการค้นพบ "สามประสาน" แข้งจิ๋วที่ส่ง-รับบอลกันได้อย่างลงตัว
เช่นเดียวกับวิงแบ็คอย่าง มาร์กอส อลอนโซ่ ที่เกมนี้ไม่ต่างกับ "ผีเข้า" เจ้าตัวเดินเกมได้อย่างไหลลื่นกระทั่งกดไป 2 ตุงรวมถึงมีสิทธิ์ทำแฮตทริกได้ด้วยซ้ำหากว่าลูกบอลที่ยิงในช่วงกลางครึ่งเวลาหลังไม่ถากเสาไปนิดเดียวเสียก่อน
ในวันที่ไร้ คอสต้า เป็นอีกครั้งที่ "สิงห์ก็ยังเป็นสิงห์" อยู่วันยังค่ำ ไม่ว่าจะขาดสตาร์คนใดไปดูเหมือนว่าความร้อนแรงของ เชลซี จะยังคงไม่สิ้นสุดลงเลย
สุดท้ายนี้ต่อให้ คอสต้า ไปจีนตามข่าวที่ออกมาจริง ผมเชื่อว่าตำแหน่งจ่าฝูงของเชลซี จะไม่มีวันกระทบ เพระ ผลงานและระบบที่ผ่านมานั้นไม่ได้เป็นเพราะนักเตะ, ไม่ได้เป็นเพราะเหล่าซูเปอร์สตาร์ชื่อดัง
หากแต่มีผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังอย่าง "อันโตนิโอ คอนเต้" ที่คอยบงการ...
หากวันใดที่ไร้ คอนเต้ ไป...วันนั้นล่ะครับสิงห์ตัวนี้ "อาจไม่เหมือนเดิม"