ส.ผู้ตัดสิน ฟัน เปาฉาว มานพ แบน 4 ปี
"บิ๊กย้อย" พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายป้องกันและปราบรามการประพฤติมิชอบในวงการฟุตบอล (คปบ.) ได้รายงานต่อที่ประชุมสภากรรมการสมาคมฟุตบอลฯ ถึงการทำหน้าที่ของ นายมานพ ปานสาคร ผู้ตัดสินที่ลงทำหน้าที่ในเกมระหว่าง "นกใหญ่พิฆาต" ชัยนาท เอฟซี กับ "มังกรไฟ" บีอีซี เทโรศาสน ซึ่งตัดสินเกิดข้อผิดพลาด ก่อนมีการนำตัว นายมานพ เข้าเครื่องจับเท็จ โดยมีบทสรุปออกมาว่า เป็นผู้ต้องสงสัย พร้อมกับเสนอแนวทางบทลงโทษต่อสภากรรมการฯ 3 กรณี ได้แก่ 1. หากผู้ตัดสินมีความพลาดผิดโดยตั้งใจ โทษแบนไม่เกิน 1 ปี, 2. ผู้ตัดสินมีความบกพร่องแบบมีนัยสำคัญ โทษแบนไม่เกิน 10 ปี และ 3. ผู้ตัดสินผิดพลาด ซึ่งมีหลักฐานอย่างชัดเจน โทษแบน 10 ปีขึ้นไป หลังการประชุม "บิ๊กแป๊ะ" นายถิรชัย วุฒิธรรม ประธานพัฒนาฟุตซอลแห่งชาติ ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นโฆษกของสมาคมฟุตบอลฯ ออกมาแถลงต่อสื่อมวลชน ว่า สภากรรมการฯ มีมติว่าการทำหน้าที่ของ นายมานพ ในเกมดังกล่าวอยู่ในข่ายข้อที่ 2 (มีความบกพร่องแบบมีนัยสำคัญ) โดยผู้ตัดสินรายนี้จะถูกลงโทษห้ามทำหน้าที่เป็นระยะเวลา 4 ปี อย่างไรก็ตาม สภากรรมการฯ ได้เสนอแนวทางเพิ่มเติม โดยให้เจ้าตัวสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ภายในระยะเวลา 15 วันด้าน พล.ต.อ.วรพงษ์ ประธาน คปบ. เปิดเผยว่า สภากรรมการฯ เชื่อว่าเครื่องจับเท็จที่เรานำมาช่วยในการสอบสวนครั้งนี้ มีความน่าเชื่อถือสูง จากคำยืนยันของผู้เชี่ยวชาญ และมีการนำไปใช้แพร่หลายในประเทศต่างๆ ทั่วโลก สำหรับการสืบสวนคดีสำคัญๆ มาแล้ว อย่างไรก็ตาม เรายังไม่มีหลักฐานที่สามารถเอาผิดได้อย่างชัดเจน ซึ่งตรงนี้ ทาง คปบ. จะดำเนินการสืบสวน และหลักฐานต่อไป เพราะเจ้าตัวยังยืนกรานปฏิเสธข้อกล่าวหาแต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก ส่วนประเด็นเรื่องผู้จัดการทีมชาติไทยชุดใหญ่ หรือ สปอนเซอร์ชุดแข่งขันรายใหม่ของทีมชาติไทย ซึ่งมีข่าวว่าจะได้ข้อสรุปในการประชุมวันนี้นั้น ทางโฆษกสมาคมฟุตบอลฯ ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวไม่ได้ถูกนำมาเข้าที่ประชุมสภากรรมการฯ ในครั้งนี้แต่อย่างใด