หมดเวลาแล้ว "เธอคงต้องไป"
"It's time to say goodbye!" ความรู้สึกที่แฟนบอลปืนใหญ่กว่า 80 เปอร์เซนต์ที่น่าจะคิดเหมือนกันหลังเกมที่ แสตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา
ในอดีตเจ้าตัวอาจเป็นพระเดจพระคุณของเหล่าสาวกทว่ากับปัจจุบันนั้น "กาลเวลาเปลี่ยน ใจคนก็ย่อมเปลี่ยน"
เวนเกอร์ มิใช่เหล่าพ่อพระของแฟนบอล "ไอ้ปืนใหญ่" อีกต่อไป มิหนำซ้ำสายใยแห่งสัมพันธ์ที่ระหว่างทั้งสองเคยมีนับวันจะยิ่งถูกบั่นทอนมากขึ้นเรื่อยๆ..
"เวนเกอร์ไม่ควรถูกขยายสัญญาอีกแล้ว สัญญาที่เขาเคยต่อไปเมื่อ 2 ปีก่อนควรเป็นฉบับสุดท้าย" เสียงของสาวกกูนเนอร์สรายหนึ่งที่เต็มไปด้วยอารมณ์ผ่านทาง "ArsenalfanTV" แชนแนลทางยูทูปชื่อดังสำหรับเหล่าแฟนปืน
เฉกเช่นเดียวกับเสียงตะโกนในสนามที่แสดงถึงจุดยืนอันเต็มเปี่ยม สาวกนับพันที่เดินทางตามมาเชียร์ต่างร้องเรียก "Wenger out" อย่างไม่เคอะเขินและอายปากทั้งที่นี่คือกุนซือผู้เคยเป็น 'จุดเริ่มต้น' แห่งความยิ่งใหญ่ทั้งปวง
เกิดอะไรขึ้นกับทีม "ปืนโต" ทีมที่เคยมียุคเกรียงไกรและสร้างตำนานไร้พ่ายขึ้นมา!?
ไม่ต้องพูดให้เมื่อยตุ้ม..ก็อย่างที่เราทุกคนได้เห็น...
นี่คือปัญหาเดิมๆที่เราพูดกันมาตลอด 6-7 ปี
กับเกมล่าสุด 0-3 ไม่ว่า เวนเกอร์ จะอ้างถึงเหตุการณ์ที่ มาร์กอส อลอนโซ่ ศอกใส่ เบเยริน จนนำมาสู่การเสียประตู, ลูกปิดฝังสุดเฮงของ เชส ฟาเบรกาส ที่เก็บตกจากความผิดพลาด หรือการที่ตนโดนแบนจนทำให้ทีมแพ้อะไรก็แล้วแต่
ทว่าจากสิ่งที่แฟนบอลได้ประสบมาตลอด 90 นาที...
เป็นอีกครั้งที่ อาร์เซน่อล ต้องมีอัน "หมดสภาพนักศึกษา" พร้อมกับตายอนาถยามเจอกับทีมใหญ่, เป็นอีกครั้งที่แท็คติกของ เวนเกอร์ ไม่อาจสู้กึ๋นของกุนซือรุ่นใหม่ที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปได้เลย
ในขณะที่ทีมอื่นกำลังย่ำไปข้างหน้า, ในขณะที่ สเปอร์ส เริ่มสปีดมาแรงแซงโค้งกลับเป็น อาร์เซน่อล ที่ยังคงเสมอต้นเสมอปลายพร้อมกับภายเรืออยู่ในอ่างราวกับวนลูปเดิมอย่างไม่มีสิ้นสุด
นาทีนี้ดูเหมือนว่า 12 แต้มที่ตามหลังอยู่จะทำให้เป็นอีกปีที่ทีม "เดอะ กันเนอร์ส" มีอันต้องโบกมือลาแชมป์ลีก 13 ปีที่รอคอยไปอีกฤดูกาล
ผมเชื่อว่า ตัวนักเตะเองก็มีส่วน ความพลาดพลั้งในอดีตไม่เคยช่วยให้พวกเขาเติบโตขึ้นเลย ทว่าบางทีการที่ “บทเรียนที่ไม่เคยจำ” นี้เวียนว่ายราวกับวัฎจักรมันคงมิใช่เพราะ นักเตะอย่างเดียว
เป็นตัว “แม่ทัพ” เองนั่นแหละที่ไม่เคยใส่ใจกับการทบทวนบทเรียน
ถึงตรงนี้ตามทฤษฎี 12 แต้มที่ตามหลัง เชลซี อยู่อาจจะยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินแต่ในทางปฏิบัติเราต่างก็รู้ผลลัพธ์ในบั้นปลายมาแต่ไกล...
เริ่มดีขึ้น-ตกรอบบอลถ้วย-มีเป๋-พร้อมกลับสู่อีหรอบเดิม
ไม่มีใครรู้อนาคตครับว่าจบซีซั่นนี้จะเกิดอะไรขึ้นคงมีเพียงแต่กุนซือคนเก๋าเท่านั้นที่ล่วงรู้แต่ถ้าเลือกได้ผมเชื่อว่าแฟนปืนหลายคนคงยอมที่ "เดิมพัน" กับรักครั้งใหม่มากกว่าบทสรุปแบบเดิมๆ
แม้จะเสี่ยงต่อการลงเอยแบบ แมนฯ ยู ฤาอาจเป๋ยาวจนกู่ไม่กลับแต่ถึงตรงนี้ใครเล่าจะสนใจ
เพราะจะที่สี่ หรือ รองแชมป์ก็ "กินไม่ได้"...
ผมยอมที่จะเดินร่วมทางกับปฐมบทใหม่...ดีกว่าแค่หายใจก็เห็น "ชะตากรรม"!