เตือนก่อนวายวอด
คนที่ได้อ่านข่าวสหภาพนักฟุตบอลอาชีพของสเปนสไตรค์ไม่ยอมลงเล่นหากทาง ลา ลีกา ไม่ออกมาประกันรายได้ ไม่รู้ว่าจะคิดเหมือนผมหรือเปล่า
ลาลีกาเป็นลีกลูกหนังพิมพ์นิยมหนึ่งใน “เบญจลีก” ที่มีสาวกอยู่ทั่วโลก ซึ่งมีจำนวนไม่เป็นรองลีกใหญ่อย่าง พรีเมียร์ชิพ อังกฤษ, บุนเดสลีกา เยอรมัน, ลีก เอิง ฝรั่งเศส และกัลโช่ ของอิตาลี
หรือจะยกให้เป็นลีกลูกหนังหมายเลขหนึ่งของโลกก็ไม่น่าเกลียด เพราะทุกคนยอมรับในผลงานของบาร์เซโลน่า รวมทั้งคุณภาพของทีมชาติสเปนที่กวาดทั้งแชมป์ยุโรป และ เวิลด์ คัพ
การออกมาประท้วงเพื่อให้ทาง ลา ลีกา จัดตั้งกองทุนฉุกเฉินที่สามารถคุ้มครองนักฟุตบอลในกรณีที่ไม่ได้รับค่าเหนื่อยจากต้นสังกัด รวมทั้งต้องการให้ ลา ลีกา อนุญาตให้ย้ายทีมได้ หากไม่ได้รับเงินติดต่อกันสามเดือน
ข้อพิพาทนี้ หากผมเป็นผู้บริหารสโมสร หรือประธานไทยพรีเมียร์ลีกจะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด
โดยเฉพาะนโยบายช่วยเหลือสโมสรระดับเอสเอ็มอี ซึ่งยังกำลังตั้งไข่ล้ม ต้มไข่กิน เป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งยวดทั้งตอนนี้และในอนาคต
ฟุตบอลลีกอาชีพจะมีลักษณะเหมือนกันทั้งโลกคือจะมีไม่กี่สโมสรที่เอาตัวรอด ที่เหลือก็ลุ่มบ้าง ดอนบ้าง เจียนอยู่ เจียนไป แต่ถ้าหากปล่อยให้ไม่มีทีมเอสเอ็มอีเหล่านี่ล้มละลาย ก็จบข่าว
ผมว่าการออกมาประท้วงของสหภาพนักเตะอาชีพสเปนคราวนี้น่าจะเอาจริงกว่าปีก่อน
นักเตะระดับบิ๊กเนมหลายคนก็ออกมาสนับสนุนและพร้อมจะปฏิบัติตาม
บ้านเราแม้จะยังไม่มีปัญหานี้ แต่เราก็ไม่ควรประมาท ทุกคนต่างรู้อยู่ว่าสถานะของแต่ละสโมสรเป็นอย่างไร เมืองทอง บุรีรัมย์ ชลบุรี เอฟซี หรือ บางกอกกล๊าส ดูจากจำนวนแฟนบอลก็อาจจะนึกว่าไปโลด แต่ไม่ใช่เลย
ทีมระดับนี้มีรายจ่ายประมาณ 4 ล้านบาทต่อเดือน ปีหนึ่งก็ร่วม 50 ล้านบาท
ส่วนทีมระดับกลางหรือเอสเอ็มอี เดือนหนึ่งประมาณ 2 ล้านนิดๆ
รายได้หลักของสโมสรมาจากสปอนเซอร์ ส่วนรายได้จากบัตรผ่านประตูนั้นยังพึ่งไม่ได้
หากเป็นทีมเกรดเอ แน่นอนสปอนเซอร์รุมตอมกันหึ่ง ทีมเล็กอด ที่อยู่ได้ก็อาศัยเงินส่วนตัวของเจ้าของทีมที่มีสตางค์
เมื่อไม่กี่วันก่อนก็มีข่าวโปลิศรวบตัวอดีตประธานสโมสรกาฬสินธุ์ข้อหายักยอกเงิน
ประเด็นเหล่านี้ผมไม่รู้ว่า สมาคมฟุตบอลฯ รู้สึกรู้สาด้วยหรือเปล่า
จริงอยู่ครับ เป็นเรื่องระหว่างบุคคล แต่หากเกิดคดีแนวเดียวกันนี้มากขึ้น ก็จะกระทบต่อฟุตบอลลีกอาชีพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาจจะถึงขั้นวอดวายไปเลยก็ได้
เราโชคดีจะตาย ที่เห็นปัญหาจากบ้านเขา ซึ่งก็จะทำให้เรามีมาตรการที่จะรับมือถ้าหากลุกลามมาถึงเมืองเรา
ผมเองก็ไม่ได้เก่งไปกว่านายกสมาคมฟุตบอลฯ หรือประธานบริษัทไทยพรีเมียร์ลีกเลยนะครับ แต่เป็นหน้าที่ของสื่อที่ต้องออกมาสะกิดเตือนเอาไว้
จะเชื่อหรือไม่ก็ตามแต่ใจของท่าน
เรื่องโดย "ชาติ ราวี"
ขอบคุณข้อมูลจากคอลัมน์ จัดหนัก