วิเคราะห์-วิจารณ์ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก
(14) ควีนส์ปาร์ค – นิวคาสเซิล (6)
คิกออฟ: 02.00 น.
สนาม: ลอฟตัส โร้ด
ผู้ตัดสิน: ฟิล ดาวด์
ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 1
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
ควีนส์ปาร์ค
27 ส.ค. 54 แพ้ วีแกน 0-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
24 ส.ค. 54 แพ้ โรชเดล 0-2 (เหย้า) ลีกคัพ
20 ส.ค. 54 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 1-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
13 ส.ค. 54 แพ้ โบลตัน 0-4 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
5 ส.ค. 54 แพ้ ลูตัน ทาวน์ 1-3 (เยือน) กระชับมิตร
นิวคาสเซิล
28 ส.ค. 54 ชนะ ฟูแล่ม 2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
25 ส.ค. 54 ชนะ สคันธอร์ป 2-1 (เยือน) ลีกคัพ
20 ส.ค. 54 ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
13 ส.ค. 54 เสมอ อาร์เซนอล 0-0 (เหย้า) พรีมียร์ลีก
31 ก.ค. 54 แพ้ ลีดส์ 2-3 (เยือน) กระชับมิตร
ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
2 พ.ค. 53 แชมเปี้ยนชิพ ควีนส์ปาร์ค 0 – 1 นิวคาสเซิล
30 ก.ย. 52 แชมเปี้ยนชิพ นิวคาสเซิล 1 – 1 ควีนส์ปาร์ค
6 เม.ย. 39 พรีเมียร์ลีก นิวคาสเซิล 2 – 1 ควีนส์ปาร์ค
14 ต.ค. 38 พรีเมียร์ลีก ควีนส์ปาร์ค 2 – 3 นิวคาสเซิล
4 ก.พ. 38 พรีเมียร์ลีก ควีนส์ปาร์ค 3 – 0 นิวคาสเซิล
5 พ.ย. 37 พรีเมียร์ลีก นิวคาสเซิล 2 – 1 ควีนส์ปาร์ค
ความพร้อม-สภาพทีม
ควีนส์ปาร์ค
โจอี้ บาร์ตัน มิดฟิลด์เจ้าอารมณ์ เตรียมลงประเดิมสนามให้ทีมใหม่ในการเจอกับทีมเก่าทันทีในเกมนี้
ส่วนอีกสองนักเตะใหม่ที่ย้ายมาก่อนปิดตลาดอย่างลุค ยัง, แอนตัน เฟอร์ดินานด์ และฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ก็รอโอกาสที่จะได้ลงเล่นนัดแรกด้วยเช่นกัน
เกมนี้คิวพีอาร์ได้คลินท์ ฮิลล์ แบ็กซ้ายตัวหลัก พ้นโทษแบน 3 นัดจากเกมเปิดซีซั่นกลับมาเป็นตัวเลือกได้อีกครั้ง
ทางด้านดีเจ แคมป์เบลล์ อดีตหัวหอกแบล็คพูล ก็ฟิตกลับมาแล้วหลังพลาดการลงสนามไปหลายนัดเพราะป่วย
ผู้เล่นบาดเจ็บ: คีรอน ดายเออร์, เจมี่ แม็คกี้ (เท้า), ร็อบ ฮัลส์ (เข่า)
ความพร้อม-สภาพทีม
นิวคาสเซิล
ดาวิเด้ ซานตอน กองหลังอิมพอร์ตจากอิตาลี ถูกคว้าตัวมาเสริมทีมในตำแหน่งแบ็กซ้ายแล้ว แต่อาจถูกใส่ชื่อไว้เป็นเพียงตัวสำรองก่อน เพราะไรอัน เทย์เลอร์ยังทำหน้าที่ได้ดีในการลงเล่นแทนโฆเซ่ เอ็นริเก้ที่ย้ายไปลิเวอร์พูล
สตีฟ ฮาร์เปอร์ นายทวารตัวเก๋า หายเจ็บเข่ากลับมารลงซ้อมได้แล้ว แต่มือหนึ่งในทีมยังเป็นทิม ครูลเช่นเดิม
โชล่า อเมโอบี้ หัวหอกตัวหลัก ก็หายเจ็บสะโพกกลับมาลงซ้อมได้แล้วเช่นกัน แต่ต้องรอเช็กความฟิตอีกครั้งว่าจะพร้อมสำหรับเกมนี้หรือไม่
ส่วนฮาเต็ม เบน อาร์กฟากับแดนนี่ กัทธรี่ สองมิดฟิลด์ กลับมาลงซ้อมแล้วเช่นกัน แต่จะยังฟิตไม่ทันเกมนี้
ไมค์ วิลเลียมสัน กองหลังสำรอง ยังต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บกระดูกมือหักต่อไป
ผู้เล่นบาดเจ็บ: โชล่า อเมโอบี้ (สะโพก), ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา, แดนนี่ กัทธรี่ (ข้อเท้า), ไมค์ วิลเลียมสัน (แขน)
วิเคราะห์รูปเกม
ควีนส์ปาร์คหวังคว้าชัยชนะนัดแรกในบ้านในการเลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ลีกให้ได้ โดยเฉพาะนี่คือแมตช์แรกภายใต้การเข้ามาเทกโอเวอร์สโมสรของโทนี่ เฟอร์นานเดส เจ้าของแอร์เอเชีย แถมยังเป็นแมตช์ถ่ายทอดสดนัดมันเดย์ไนต์ด้วย
เจ้าของใหม่ไฟเขียวให้คิวพีอาร์คว้านักเตะมาเสริมทีมหลายคน โดยเฉพาะโจอี้ บาร์ตันที่ต้องมาพิสูจน์ตัวเองนัดแรกกับทีมเก่าพอดี นิวคาสเซิลเองก็ทำผลงานได้ดีเกินคาดในซีซั่นนี้ ทั้งที่ถูกต่อว่าเรื่องเสียนักเตะดีๆ ไปหลายคนมาเรื่อยๆ ตั้งแต่เปิดตลาดครั้งก่อน
แต่ก็เสริมทัพในแดนกลางเป็นพิเศษด้วยนักเตะฝรั่งเศสแต่ผู้เล่นตัวหลักๆ ยังเป็นชุดเดิมจากปีก่อน เกมนี้ด้วยแรงฮึดเป็นพิเศษของเจ้าบ้าน บวกกับมีการเขย่าทีมใหม่ น่าจะทำให้ทหารเสือราชินีมีทีเด็ดพอที่จะเด็ดปีกสาลิกาดงผู้มาเยือนได้
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:
ควีนส์ปาร์ค (4-3-3): แพ็ดดี้ เคนนี่; ลุค ยัง, แอนตัน เฟอร์ดินานด์, ฟิทซ์ ฮอลล์, อาร์กมงด์ ตราโอเร่; โจอี้ บาร์ตัน, ชอน เดอร์รี่, อเลฮานโดร โฟร์ลิน; ชอน ไรท์-ฟิลลิปส์, ดีเจ แคมป์เบลล์, อเดล ทาราบต์
ผู้จัดการทีม: นีล วอร์น็อค
นิวคาสเซิล (4-4-2): ทิม ครูล; แดนนี่ ซิมป์สัน, สตีเว่น เทย์เลอร์, ฟาบริซิโอ โคลอชชินี่, ไรอัน เทย์เลอร์; กาเบรียล โอแบร์กต็อง, ชีค ติโอเต้, โยฮัน กาบาย, โฮนาส กูเตียร์เรซ; ลีออส เบนท์, โชล่า อเมโอบี้
ผู้จัดการทีม: อลัน พาร์ดิว
ฮอตสกอร์: ควีนส์ปาร์คชนะ 2-1
เกร็ดย่อย
*นิวคาสเซิลไม่แพ้ใน 4 เกมหลังสุดที่พบกับควีนส์ปาร์ค โดยชนะได้ถึง 3 นัด
*การพบกันในลีกของทั้งสองทีมนี้ไม่เคยลงเอยด้วยผลเสมอแบบไม่มีประตูเลย
*ควีนส์ปาร์คแพ้ถึง 4 จาก 5 เกมหลังสุดในทุกรายการ
*นิวคาสเซิลไม่แพ้เลยในเกมลีก 6 นัดหลังสุด โดยชนะได้ถึง 3 นัด
*ควีนส์ปาร์คไม่ชนะเลยในการลงเตะที่ลอฟตัส โร้ด 5 นัดหลังสุด โดยแพ้รวดใน 3 นัดสุดท้าย
*นิวคาสเซิลออกสตาร์ตพรีเมียร์ลีกได้ดีที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 1995-96 เป็นต้นมา ซึ่งปีนั้นสาลิกาดงจบในตำแหน่งรองแชมป์
*ควีนส์ปาร์คโยนบอลยาวมากกว่าทุกทีมในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้คือ 132 ครั้ง
*ควีนส์ปาร์คเสียฟาวล์ในพื้นที่แนวรับของตัวเองมากกว่าทุกทีมในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้คือ 14 ครั้ง
*อเดล ทารับต์พยายามยิงประตูถึง 14 ครั้งแต่ไม่เปลี่ยนเป็นสกอร์เลยแม้แต่ครั้งเดียว ถือเป็นเปอร์เซ็นต์ความล้มเหลวที่สูงที่สุดของนักเตะในพรีเมียร์ลีกจนถึงโปรแกรมนัดนี้
*ฤดูกาลที่แล้วนิวคาสเซิลชนะได้แค่นัดเดียวจาก 13 เกมของพรีเมียร์ลีกที่จบครึ่งแรกด้วยการเสมอกับคู่ต่อสู้อยู่