ฟาน เพอร์ซี่ : ระเบิดเวลาลูกใหม่???
ระเบิดเวลาลูกใหม่กำลังทำหน้าที่ของมันต่อไปอย่างต่อเนื่องอีกครั้งในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม หลังจากโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ บอกปัดที่จะพูดคุยเรื่องสัญญาฉบับใหม่ในตอนนี้ อ้างเหตุผลว่าอาร์เซนอลมีเรื่องราวมากมายให้แก้ไข มีเกมมากมายที่จะต้องทำศึก คงไม่เหมาะที่จะมาตั้งโต๊ะเจรจา
สัญญาของฟาน เพอร์ซี่จะหมดลงในซัมเมอร์ของปี 2013 ซึ่งอาร์แซน เวนเกอร์และบอร์ดบริหารของสโมสรไม่ต้องการให้เกิดกรณีซาเมียร์ นาสรี่ซ้ำขึ้นมาอีกครั้ง ทว่าทุกอย่างคงไม่ง่ายอย่างที่คาดหวังแน่นอน
การปล่อยตัวเชส ฟาเบรกาส,ซาเมียร์ นาสรี่และ กาแอล กลิชี่ ไปพร้อมๆ กัน นั่นเป็นเรื่องที่นักเตะในทีมต่างมีเรื่องราวกังวลอยู่ในใจตลอดเวลา อนาคตข้างหน้าของทีมจะเดินกันอย่างไร ถ้าตั้งอกตั้งใจขายตัวหลักแบบนี้
แม้ช่วงเวลาที่ผ่านมาอาร์แซน เวนเกอร์ จะสามารถขายนักเตะได้เงินเข้าสโมสรเป็นกอบเป็นกำ และสามารถสร้างเด็กใหม่ขึ้นมาทดแทนได้อย่างต่อเนื่อง
ทว่า 6-7 ปีที่ผ่านมามันไม่มีความสำเร็จให้ชื่นชมกัน ความคิดหลายคนเริ่มแปรผัน ไม่นิ่งและเชื่อมั่นในตัวกุนซือและสโมสรแบบเกินร้อยเหมือนเมื่อก่อน
สัญญาที่เหลืออยู่ 2 ปี ไม่มากมายอะไรเลย ฟาน เพอร์ซี่ บอกว่าจบฤดูกาลนี้ค่อยว่ากันถึงเรื่องอนาคต นั่นหมายความว่าเหลือสัญญาอีกปีเดียว ซึ่งเวนเกอร์ไม่อยากจะปล่อยให้เนิ่นนานเหมือนช่วงที่พลาดกับนาสรี่ เป็นการเสี่ยงที่จะเสียฟาน เพอร์ซี่ไปอีกคน
นาสรี่กับปืนโตยื้อเรื่องสัญญากันอย่างยาวนาน ก่อนที่อาร์เซนอลต้องจำใจปล่อยออกไป เพราะเก็บไว้ไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือแน่นอน ยิ่งสถานการณ์ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พร้อมให้ข้อเสนออย่างงามขนาดนั้นใครมันจะอยู่
ปีหน้าก็อาจจะมีปัญหาอย่างนี้ซ้ำรอยเดิม เพราะเรือใบก็ตามจับตามองสถานการณ์ของฟาน เพอร์ซี่อย่างใกล้ชิด ความกังวลทั้งหมดมาจากซัมเมอร์ที่ผ่านมาทั้งสิ้น ถึงช่วงเวลาที่ต้องตั้งโต๊ะเจรจาฟาน เพอร์ซี่อาจจะต้องการความมั่นใจในเรื่องของตัวผู้เล่นอย่างเด่นชัด ไม่งั้นไม่เซ็นเด็ดขาด
อาร์แซน เวนเกอร์ ยอมรับเช่นเดียวกันว่าสถานการณ์ที่ฟาน เพอร์ซี่ เฝ้ามองฟาเบรกาสย้ายออกไป นาสรี่ย้ายออกไป ย่อมมีความกังวลใจแน่ แต่ไม่คิดว่าปัญหาจะเหมือนเดิมในกรณีของกัปตันทีมคนใหม่
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่านาทีนี้ฟาน เพอร์ซี่ คือหัวใจสำคัญของทีมปืนโต ความหวังทั้งหมดทั้งมวลในเรื่องของสกอร์ ดูเหมือนว่าเขาจะแบกรับเอาไว้เกือบทั้งหมด
ทุกคนในสโมสรต่างทราบดีในเรื่องนี้ ล่าสุดเพิ่งจะยิงประตูครบ 100 ให้กับทีมไปแล้ว นับว่าเป็นนักเตะคนที่ 17 ของสโมสรที่ยิงผ่าน 100 ประตู
ไม่ใช่แค่ฟาน เพอร์ซี่เท่านั้นที่กำลังจะสร้างความวุ่นวายในค่ายเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม เวนเกอร์ยอมรับอีกเช่นกันว่าทั้งอังเดร อาร์ชาวิน, ธีโอ วัลค็อตต์,โธมัส แฟร์มาเล่นและอเล็กซ์ ซง ต่างไม่สามารถการันตีได้เลยว่าเมื่อถึงเวลานักเตะเหล่านี้จะเซ็นสัญญาฉบับใหม่กับสโมสร
เพราะฉะนั้นเวนเกอร์จึงจำเป็นต้องเร่งเรื่องราวของสัญญาที่ว่าให้เร็วขึ้นและจบลงไปอย่างรวดเร็ว แต่จากสถานการณ์ของฟาน เพอร์ซี่ มันบ่งบอกได้ชัดเจนว่าบรรดาระเบิดเวลาเหล่านี้ พร้อมที่จะตูมตามขึ้นมาได้ทุกคน
ปัจจัยหลายอย่างเป็นส่วนประกอบกัน ไม่ใช่แค่เพียงความสำเร็จที่ชักหายากขึ้นทุกที นโยบายของสโมสรที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่งซึ่งดูแล้วเป็นปัจจัยหลักได้เลยเช่นกัน นั่นก็คือเรื่องของเพดานเงินค่าจ้าง
อาร์เซนอลไม่มีนโยบายที่จะจ่ายค่าเหนื่อยให้นักเตะเป็นแสนปอนด์ต่อสัปดาห์ ซึ่งปัจจุบันนี้เป็นเรื่องธรรมดาไปซะแล้วกับนักเตะฝีเท้าดีๆ ที่เข้าขั้นซูเปอร์สตาร์จะได้ค่าเหนื่อยขึ้นเลข 6 หลักกัน
ดูแล้วสวนทางกับนโยบายของสโมสรแน่นอน เรื่องที่จะไปซื้อหาซูเปอร์สตาร์เข้ามาร่วมทีมด้วยค่าตัวมากๆ และค่าจ้างแพงๆ ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นง่ายๆ ในทีมอาร์เซนอลทุกวันนี้
เพราะฉะนั้นแรงจูงใจที่จะให้คนเดิมๆ ในทีมอยู่ต่อไปด้วยสัญญาฉบับใหม่ มันจึงมีปัญหารออยู่ค่อนข้างชัดเจน นโยบายซื้อดาวรุ่งเอามาปลุกปั้นแม้ว่าเป็นเรื่องที่ดีและสามารถสร้างผลกำไร ให้กับสโมสรอย่างต่อเนื่อง ทว่าใช้ไม่ได้ในทุกเรื่องทุกกรณีเช่นกัน
อาจจะต้องมีการลงทุนบ้างเพื่อสร้างโอกาสและขวัญกำลังใจให้กับทีม เพื่อบ่งบอกให้ชัดเจนว่าทีมยังคงมองหาความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง
นโยบายใช้งานเด็กเป็นหลัก มีปัญหามาตลอด สู้กันยาวๆ แข่งกับผีแดงหรือเชลซีไม่ไหว ตัวอย่างเห็นกันชัดเจน ยิ่งมีแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจ้าบุญทุ่มของพรีเมียร์ ลีก เข้ามาเติมการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นให้หนักหนาสาหัสเพิ่มมากขึ้นไปอีก หากอาร์แซน เวนเกอร์ และบอร์ดของสโมสรยังคงหนักแน่นและเน้นนโยบายเดิม ระยะห่างมีสิทธิ์ที่จะเพิ่มมากขึ้นในทุกฤดูกาลที่ผ่านไป
แน่นอนอาร์เซนอลเล่นแบบให้ความบันเทิงเต็มที่มาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ถ้ามีความสำเร็จเข้ามาบ้างคงไม่มีปัญหาแบบนี้ เป็นเรื่องที่จะสร้างให้ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันไม่ง่ายเลย
บางครั้งทุกอย่างทุกเรื่องราวคงต้องยืดหยุ่นมากขึ้น เน้นเดินมาเส้นทางของนโยบายอย่างชัดเจนแบบเป็นเส้นตรงห้ามหลุดขอบเด็ดขาด นั่นอาจจะกลายเป็นเรื่องที่ควบคุมสถานการณ์ได้ยากขึ้นเช่นกัน
เวนเกอร์มีลูกดื้อมั้ย? มีแน่นอนไม่ยอมทำอะไรตามกระแส มั่นใจในตัวเองและไม่ยอมเสียหน้า อย่างล่าสุดบรรดานักเตะเก่าๆ ของทีมที่ออกมาวิจารณ์เรื่องเกมรับที่ทีมเสียประตูเป็นว่าเล่นและง่ายเกินไป
จนมีการวิพากษ์วิจารณ์กันว่าน่าจะมีโค้ชเกมรับเข้ามาสร้างอะไรใหม่ๆ สร้างความเป็นปึกแผ่นให้มีมากยิ่งขึ้น ทว่าเวนเกอร์ปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง ไม่จำเป็นต้องมีโค้ชเกมรับเข้ามาใหม่แต่อย่างใด เพราะเรื่องที่เอามาพูดกันนั้น อาร์เซนอลกำลังแก้ไขกันอย่างหนักในระหว่างการซ้อม อีกไม่นานจะเห็นผล เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาพูดเรื่องโค้ชเกมรับให้หงุดหงิดหัวใจ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสไตล์การเล่น และที่เหมาะกับความต้องการมากที่สุดคือนักเตะต้องอายุน้อยๆ ประมาณว่าถ้าเข้ามาร่วมทีมต้องไม่เกิน 25 อะไรประมาณนั้น เพราะมันเหมาะกับสไตล์ของทีม นอกจากจะเป็นเรื่องสำคัญเฉพาะหน้า นั่นเป็นแนวคิดของเวนเกอร์
อนาคตข้างหน้าแต่ละปีแต่ละซัมเมอร์ดูจะเป็นเรื่องใหญ่ของอาร์เซนอลไปแล้ว แม้ว่าสถานการณ์อาจจะดีขึ้นถ้าฟอร์มโดยรวมของทีมได้รับการแก้ไขในระดับที่น่าพอใจ
ทว่าสิ่งหนึ่งที่พอจะคิดได้ในตอนนี้ก็คือ อนาคตข้างหน้าเรื่องสัญญาของนักเตะดูจะเป็นปัญหาที่แก้ไม่ตกของอาร์เซนอลและอาร์แซน เวนเกอร์ นักเตะซูเปอร์สตาร์ของทีมจะยังคงกังวลเรื่องอนาคต กังวลเรื่องความสำเร็จ กังวลเรื่องค่าเหนื่อย หรือถ้าจะให้รวมทั้งหมดเอาไว้ด้วยกันนั่นก็คือกังวลเรื่องนโยบายของสโมสรนั่นเอง
ขนาดอาร์แซน เวนเกอร์ ยังออกมายอมรับด้วยตัวเอง อนาคตข้างหน้าอาร์เซนอลอาจจะเสียนักเตะหลักของทีมไปอีกหลายคน เรียกว่าต่อเนื่องกันไปในแต่ละฤดูกาล มันย่อมแสดงให้เห็นชัดเจนถึงความไม่แน่นอนในถิ่นเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
แม้หวังว่าทุกอย่างจะไม่เกิดขึ้นก็ได้ แต่ระเบิดเวลาแต่ละลูกที่นาฬิกากำลังเดินอยู่นั้น มันสามารถมองเห็นความเสียหายที่รออยู่ได้ชัดเจนพอสมควร
เรื่องโดย "ดามัน"
ขอบคุณข้อมูลจากคอลัมน์ทดเจ็บ3นาที นสพ.กีฬาฮอตสกอร์
