ฟุตบอล ลา ลีกา สเปน

วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม 2555

บาร์เซโลน่า 2 - 2 เรอัล มาดริด

สนาม: คัมป์ นู

ผู้ตัดสิน: การ์ลอส เดลกาโด้ เฟร์เรยโร่

"เอล กลาซิโก้" ครั้งที่ 165 ในลา ลีกา สเปน โดยในนัดนี้ทาง "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า เป็นเจ้าบ้าน โดยรั้งจ่าฝูงของลาลีกาสเปนชนะ 6 นัดรวด มี 18 แต้ม เกมนี้ เจ้าบ้าน ไม่มี การ์เลส ปูโยล กองหลังจอมเก๋าที่ข้อศอกหลุดพัก 2 เดือน เช่นกันกับ เคราร์ด ปีเก้ ปราการหลังทีมชาติสเปนฟิตไม่พอลงเล่นเกมนี้ ด้านเรอัล มาดริด แชมป์เก่า เกมนี้ได้ ฟาบิโอ โคเอนเตรา แบ็คขวาทีมชาติโปรตุเกส พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมแต่ชื่อเป็นสำรอง

เปิดฉากครึ่งเกมทั้งสองทีมเปิดเกมบุกเข้าใส่กันทันที นาที 6 เรอัล มาดริด ได้ลุ้นก่อน คาริม เบนเซม่า ป้อนบอลให้ อังเคล ดิ มาเรีย แตะหนึ่งจังหวะก่อนกดด้วยซ้ายบอลข้ามคานออกไป

จากนั้นทั้งสองทีมรุกรับแบบไม่มีใครยอมใคร นาที 19 ราชันชุดขาวพลาดได้ประตูขึ้นนำอย่างน่าเสียดาย จากลูกเตะมุม เมซุต โอซิล เข้าหัว เซร์คิโอ รามอส สบัดโขกบอลหลุดเสาออกไปนิดเดียว

นาที 21 บาร์เซโลน่า มาได้ลุ้นบ้างเมื่อ เปโดร ลุยขึ้นมาทางขวาก่อนไหลให้ เชส ฟาเบรกาส ไหลต่อเข้ากลางให้ อันเดรส อีเนียสต้า บรรจงปั่นด้วยขวาไม่เข้ากรอบ

นาที 23 แฟนสาวกชุดชาวได้เฮลั่น เมื่อ ซามี เคดิร่า ไหลบอลให้ คาริม เบนเซม่า แทงเข้าเขตโทษให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ วิ่งเข้าไปกดด้วยซ้ายเสียบเสาแรกเข้าไปอย่างอย่างสมบูรณ์แบบ เรอัล มาดริด นำ 1-0

นาที 25 เรอัล มาดริด พลาดได้ประตูที่สองอย่างไม่น่าเชื่อเมื่อ เคดิร่า ทะลุขึ้นมาทางขวาก่อนเปิดเข้ากลาง ดิ มาเรีย จิ้มต่อให้ เบนเซม่า ยิงโล่งๆไปชนเสา เด้งเข้าทางปืน ดิ มาเรีย แต่ยิงหลุดกรอบไปอย่างไม่น่าเชื่อ

นาที 30 แฟนอลเจ้าบ้านเฮลั่นทั่วคัมป์ นู เมื่อมอนโตย่า เปิดบอลเข้าเขตโทษไปแฉลบ เซร์คิโอ รามอส แนวรับของเรอัล ก่อนไปโดนเข่าของ อลอนโซ่ บอลลอยอยู่ในเขตโทษ เปเป้ โถมเข้ามาโขกพลาดกลายเป็นบอลมาตั้งให้กับ ลีโอเนล เมสซี่ สอดเข้ายิงด้วยซ้ายจ่อๆตุงตาข่ายให้ บาร์ซ่า ไล่ตามมาเป็น 1-1 และเป็นประตูสุดท้ายในครึ่งแรก

สู้กันต่อครึ่งหลัง ทั้งสองทีมผลัดกันบุกอย่างเมามันส์ และกลายเป็นเจ้าถิ่นที่ขึ้นนำครั้งแรก นาที 61 จากจังหวะที่ ชาบี อลอนโซ่ ไปทำฟาวล์ เมสซี่ ผู้ตัดสินเป่าเป็นฟรีคิก ก่อน ลีโอเนล เมสซี่ ลุกขึ้นมาตะบันฟรีคิกด้วยซ้ายบอลโค้งข้ามกำแพงมุดเข้าประตูไปอย่างสวยงาม บาร์เซโลน่า นำ 2-1 และเป็นประตูที่สองของเมสซี่ในเกมนี้ด้วย

อย่างไรก็ตาม 5 นาทีถัดมา ราชันชุดขาว ตีเสมอได้สำเร็จ เมซุต โอซิล จ่ายบอลด้วยซ้ายขึ้นหน้าให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สอดขึ้นมาแปด้วยขวาเสียบมุมเข้าไปอย่างสวยงาม เป็นประตูที่สองของเจ้าตัวในเกมนี้ สกอร์เสมอกันที่ 2-2

นาที 70 บาร์ซ่า จอร์ดี้ อัลบา เปิดบอลให้กับ เมสซี่ ยิงด้วยซ้ายเฉียดเสาสองไปนิดเดียว

นาที 77 เรอัล มาดริด สวนกลับเร็ว ก่อนเป็น กอนซาโล่ อิกวาอีน ที่ได้ซัดมุมแคบ แต่ยังไม่ผ่านมือของ บิคตอร์ บัลเดส

ท้ายเกมนาทีที่ 89 บาร์ซ่า พลาดด้ประตูชัยอย่างน่าเสียดาย เปโดร โรดริเกซ จ่ายให้กับ มาร์ติน มอนโตย่า วิ่งมาหวดด้วยขวาบอลโค้งไปชนคานอย่างน่าจัง

จากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม บาร์เซโลน่า เปิดบ้านเสมอกับ เรอัล มาดริด สุดมันส์ 2-2 แบ่งกันทีมละแต้มทำให้ ราชันชุดขาว มีแต้มไล่หลัง บาร์เซโลน่า จ่าฝูงอยู่ 8 คะแนนเท่าเดิม

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

บาร์เซโลน่า: บิคตอร์ บัลเดส - ดาเนียล อัลเวส (มาร์ติน มอนโตย่า น.61), ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, อาเดรียโน่ คอร์เรอา, จอร์ดี้ อัลบา - ชาบี เอร์นานเดซ (กัปตันทีม), เซร์คิโอ บุสเก็ตส์, อันเดรส อิเนียสต้า - เปโดร โรดริเกซ, ลีโอเนล เมสซี่, เชส ฟาเบรกาส (อเล็กซิส ซานเชซ น.64)

สำรองไม่ได้ใช้: โฆเซ่ มานูเอล ปินโต้ (ผู้รักษาประตู) - มาร์ก บาร์ตร้า, เซร์จี้ โรเบร์โต้, อเล็กซ์ ซง, ดาบิด บีย่า

-----------------------------------------------------

เรอัล มาดริด: อีเกร์ กาซียาส (กัปตันทีม) - อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เปเป้, เซร์คิโอ รามอส, มาร์เซโล่ วิเอยร่า - ซามี เคดิร่า, ชาบี อลอนโซ่ - อังเคล ดิ มาเรีย (ไมเคิล เอสเซียง น.88), เมซุต โอซิล (กาก้า น.80), คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - คาริม เบนเซม่า (กอนซาโล่ อิกวาอีน น.62)

สำรองไม่ได้ใช้: อันโตนิโอ อาดาน (ผู้รักษาประตู) - ฟาบิโอ โคเอนเตรา, ราอูล อัลบิโอล, ลูก้า โมดริช

-----------------------------------------------------

บาร์เซโลน่า 2 - 2 เรอัล มาดริด

อัลบั้มภาพ ผลบอล : โด้-เมสซี่!เบิ้ล ชุดขาวไล่เจ๊าบาร์ซ่า 2-2 ภาพที่ 2 / 18

ผลบอล : โด้-เมสซี่!เบิ้ล ชุดขาวไล่เจ๊าบาร์ซ่า 2-2

อัลบั้มภาพที่เกี่ยวข้อง

ฟอร์มโหดจัด! แมนฯ ซิตี้ บุกถล่ม ไบรท์ตัน สุดยับเยิน 5-0 การันตีอันดับ 2

"บาร์คลีย์" ลงมาซัด! เชลซี บุกเฉือน เลสเตอร์ 1-0 ลิ่วตัดเชือกเอฟเอคัพ

ไม่มียอมกัน! ลิเวอร์พูล บุกหนักเจาะไม่เข้า เอฟเวอร์ตัน เปิดบ้านยัน 0-0

"เลวานดอฟสกี" เบิ้ล! บาเยิร์น มิวนิค เฝ้าถ้ำกด ไฟรบวร์ก 3-1