ชไวนี่ : ‘ชาติอื่นอิจฉาศักยภาพทีมคนหนุ่มของเรา’

การเจอกับตุรกีเที่ยวนี้...จะเป็นนัดที่ 90 ในทีมชาติเยอรมันของบาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์
   
ต้องบอกว่าไม่น้อยเลยสำหรับหนุ่มวัย 27 ปีของเขาที่ปัจจุบันเป็นรุ่นพี่ ๆ ในทีมชาติเยอรมันที่ไม่ต่างไปจากกัปตันทีมฟิลิปป์ ลาห์ม,ลูคัส โพดอลสกี้ ที่เข้าสู่ทีมอินทรีเหล็กในวัยใกล้เคียงกัน เขาเป็นรองกัปตันต่อจากลาห์ม เป็นรุ่นพี่ที่มีอายุไม่ห่างจากกลุ่มดาวรุ่งของทีมทั้งหลายที่อายุแค่ 21-24 ปีด้วยกันทั้งนั้น
   
ทีมอินทรีเหล็กกลายเป็นทีมพลังหนุ่ม อายุมากที่สุดอาจจะเป็นมิโร่ โคลเซ่ กองหน้าตัวเก๋าระดับตำนานของทีมในวัย 33 ปี ที่แน่นอนว่านี่คือความภูมิใจของทีมคนหนุ่ม ที่กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงในรอบคัดเลือกชนะรวด 8 นัดที่ทำให้พวกเขาตีตั๋วผ่านเข้ารอบสุดท้ายไปแล้ว เหลือเพียงแค่การอยากบันทึกสถิติชนะรวด 10 นัดในรอบคัดเลือก
   
เวลานี้สิ่งที่ทีมหวังไม่ใช่เรื่องทำสถิติอะไรมากไปกว่าการคว้าแชมป์ เพราะที่ผ่านมานั้น ทีมชุดนี้ทำได้ดีทุกอย่างยกเว้นแชมป์ทำให้ได้แค่รองแชมป์ยุโรป 2008 อันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2 สมัยซ้อน 2006 และ 2010 ที่ตอนนี้ในปีหน้า ชไวน์สไตเกอร์หวังการคว้าแชมป์ยุโรปให้ได้เป็นรายการแรก แม้ว่าต้องถามแชมป์สเปน,ฮอลแลนด์,อิตาลี หรือว่าอังกฤษเสียก่อนก็ตาม
   
ก่อนลงเตะรอบคัดเลือก นัดที่ 9 กับตุรกีวันศุกร์นี้(7 ต.ค.)...ชไวนี่ได้พูดในหลายเรื่องที่น่าสนใจผ่านทางเว็บไซต์ทางการของเดเอฟเบดังนี้...
   
** คุณชไวน์สไตเกอร์,ก่อนเกมทีมชาติ ผลงานของบาเยิร์นเป็นไปอย่างยอดเยี่ยมมากๆ เลย เรียกว่าแข็งแกร่งแบบที่ไม่เคยเห็นกันมานานมากแล้วก่อนหน้านี้โดยเฉพาะเกมที่อัดแมนฯซิตี้แบบหมดรูป เกิดอะไรขึ้นกับบาเยิร์น?
   
ชไวน์สไตเกอร์: มันเป็นจุดแข็งของเราในเวลานี้เลย เราสามารถทำได้ดีกว่านี้อีก ที่ต้องบอกว่าต้องเริ่มต้นจากความมั่นอกมั่นใจแบบที่เราไม่เคยเป็นมาก่อน
   
** คุณเองก็ดูเหมือนว่าจะมีส่วนอยู่ตลอดเวลา เป็นผู้สั่งการอยู่เสมอ คุณเป็นเหมือนผู้นำแล้วใช่มั้ย?
   
ชไวน์สไตเกอร์: ผมเห็นอะไรหลายต่อหลายอย่างในสนาม ที่หากว่าไม่มีอะไรไม่ดีต้องแก้ไขทันที อะไรไม่ดีผมจะพูดในทันทีและต้องรีบทำให้ดีขึ้นโดยเร็ว
   
** เมื่อซีซั่นก่อน คุณโวยวายบ่อยครั้งที่ทีมไม่สามารถรักษาสกอร์ที่นำไว้ได้ มีอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมหรือ?
   
ชไวน์สไตเกอร์: เราซึมซับสิ่งที่ดีขึ้น การที่เราไม่ลุยแหลกมากเกินไปเมื่อได้ประตูออกนำไปแล้ว ปีที่แล้วเราทำได้ไม่ดีนัก นักเตะเกมรุกมาช่วยในเกมรับมากขึ้น ทำให้กองกลางและกองหลังเล่นกันได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม การเล่นเกมรับเริ่มตั้งแต่ข้างหน้าประตูฝั่งตรงข้าม ตรงนี้เทรนเนอร์ไฮย์เกสนำทีมปฏิบัติไปในทิศทางที่ยอดเยี่ยม
   
** โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือแมนฯซิตี้มองว่าบาเยิร์นสามารถคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกได้ คุณเชื่อว่าเป็นไปได้อย่างที่มันชินี่พูดมั้ย?
   
ชไวน์สไตเกอร์: ผมไม่อยากพูดเร็วเกินไปหรอก เราเพิ่งเตะรอบแบ่งกลุ่มไปแค่ 2 นัดจนกว่าจะถึงนัดชิงชนะเลิศนั้นเส้นทางอีกยาวไกล แน่นอนว่าผมหวังเห็นเราหลุดไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศ ผมได้แชมป์บุนเดสลีกามาแล้วหลายครั้งย่อมตั้งเป้าหมายว่าอยากได้แชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกกับกับบาเยิร์น
   
** คุณมั่นใจแค่ไหน?
   
ชไวน์สไตเกอร์: เราต้องพยายามชนะในเกมแต่ละนัดกันไปเรื่อย ๆ เราอยู่ในทีมเต็งอย่างที่ทุกคนพยายามมองว่าเรามีโอกาส ยังมีตัวเต็งอีก 4-5 สโมสรที่มีโอกาส แต่ยังอีกนานนัก มันต้องขึ้นกับฟอร์มในแต่ละนัดที่ลงสนามด้วย มีหลายเรื่องที่เป็นปัจจัยเรื่อยไปจนถึงในนัดชิงชนะเลิศ
   
**  ก่อนหน้านี้โอลิเวอร์ คาห์น เคยออกมาวิจารณ์ว่าเพราะเยอรมันยังไม่มีผู้นำตัวจริง ทำให้ยังไม่อาจจะเดินทางไปสู่การคว้าแชมป์ได้ คุณเห็นด้วยมั้ย?
   
ชไวน์สไตเกอร์: ผมรู้จักกับโอลลี่เป็นอย่างดี เขาคือคนที่เคยเป็นผู้นำในเรื่องนี้ ผมเคารพในฝีมือของเขา  แต่ว่าตอนนี้เขาเป็นคนนอกแล้วคงไม่สามารถประเมินผลงานในทีมได้ทั้งหมด ผมเชื่อว่าเวลานี้เรามีผู้นำหลายคน ไม่ว่าจะเป็นลาห์ม ผมหรือว่านอยเออร์ เราสามารถทำได้ดีแน่ในเรื่องนี้
   
** เมื่อมองตรงนี้แล้ว อะไรหรือคืออุปสรรคสำคัญที่ทำให้ทีมชาติเยอรมันยังไม่ประสบความสำเร็จกับการคว้าแชมป์ได้เสียที?
   
ชไวน์สไตเกอร์: ผมอยู่กับทีมชาติเยอรมันมาตั้งแต่ปี 2004 และในช่วงเวลาดังกล่าวเราเองก็ก้าวกระโดดไปอย่างมากมาย แม้ว่าเราจะยังไม่สามารถคว้าแชมป์ได้ หากว่าไม่มีสเปนเราคงได้แชมป์ไปแล้ว 2 รายการอย่างแน่นอน ตอนนี้สเปนคือทีมที่สุดยอด แต่เราก็จะโค่นสเปนให้ได้
   
** คุณเชื่อว่ายังเป็นการต่อสู้กันระหว่างเยอรมันกับสเปนแค่นั้นหรือ?
   
ชไวน์สไตเกอร์: เรากับสเปนเป็นที่มที่ทำผลงานได้อย่างคงเส้นคงวามากที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา ดูจากทั้งในรอบคัดเลือกและรอบสุดท้าย แต่ในยูโรหนนี้ไม่ง่ายเหมือนเดิมแน่สำหรับเราและสเปนด้วย
   
** หากว่าย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ในช่วงที่คุณเข้าสู่ทีมในช่วงแรก เวลานี้มันแตกต่างไปจากเดิมแค่ไหน?
   
ชไวน์สไตเกอร์: แน่นอนว่าทุกอย่างย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลา นักเตะมีความเป็นมืออาชีพมากกว่าเดิมเยอะและเข้าทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ ทั้งนั้น
   
** เยอรมันถูกมองว่ากลายเป็นทีมคนหนุ่มที่ไม่ต้องการรุ่นเก๋าแล้วหรือ?
   
ชไวน์สไตเกอร์: ถูกต้อง เราเป็นทีมคนหนุ่ม เรามีนักเตะที่อายุใกล้ ๆ กันทั้งนั้น เมื่อก่อนยังห่างกันเยอะ มันทำให้การปรับตัวเข้ากับทีมได้ง่าย นักเตะหนุ่ม ๆ เหล่านี้ได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี เรามีทีมคนหนุ่มที่อายุน้อยแต่เล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยมมาหลายคนที่เข้าสู่ทีมชาติแบบไม่ขาดสายทั้งเกิตเซ่,ชูร์เล่ หรือว่าโฮลท์บี้ และทีมก็พร้อมเดินหน้าต่อไปได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ชาติอื่น ๆ อิจฉากับศักยภาพทีมหนุ่มของเราทั้งนั้น ตรงนี้ต้องชื่นชมสายตาและการทำงานของทีมงานในทีมชาติเยอรมันของโยกี้ เลิฟ ที่เลือกนักเตะหนุ่ม ๆ เข้าสู่ทีมได้ดีแบบไม่ขาดสาย
   
** เมื่อดูแล้วบาเยิร์นเล่นมิดฟิลด์ตัวรับสองคน แต่เยอรมันอาจจะไม่ใช้แบบนั้น คุณชอบแบบไหนมากกว่ากัน?
   
ชไวน์สไตเกอร์: ผมมองว่ามันเป็นการดีนะ ที่เรามีสองรูปแบบที่แตกต่างกัน เมื่อผมนึกถึงตอนที่เล่นที่แอฟริกาใต้ ได้ซามี่ เคดิร่าเล่นข้าง ๆ ผมเหมือนเป็นตัวรับอัตโนมัติ แต่มันขึ้นอยู่กับคู่แข่งด้วย ผมไม่ได้ชอบอะไรมากไปกว่ากัน
   
**  ความสัมพันธ์กับฟิลิปป์ ลาห์มเป็นอย่างไรบ้าง?
   
ชไวน์สไตเกอร์:  เราทั้งคู่มีเป้าหมายอย่างเดียวกันก็คือการเดินทางสู่ความสำเร็จ แต่ผมอาจจะอารมณ์ร้อนกว่า แต่เราก็เสริมกันและเข้าใจกันได้ดี
   
** คุณไม่ได้อยากเป็นกัปตันทีมหรือ?
   
ชไวน์สไตเกอร์: ไม่เลย ผมไม่ได้อยากสวมปลอกแขนกัปตันทีม ผมไม่ได้เล่นแตกต่างออกไปหากว่าไม่มีปลอกแขน ผมไม่เคยสนใจในเรื่องนี้ อีกอย่างฟิลิปป์ทำได้ดีอยู่แล้วกับทั้งบาเยิร์นและทีมชาติ ผมไม่เห็นความจำเป็น
   
** คุณมองในเกมกับทีมชาติสองนัดสุดท้ายในรอบคัดเลือกอย่างไร?
   
ชไวน์สไตเกอร์: เป้าหมายเรามีเป้าหมายเดียวคือชนะในสองนัดสุดท้ายนี้ เพื่อปิดฉากในรอบคัดเลือกให้สวยงามที่สุด เติมความมั่นใจก่อนไปลุยรอบสุดท้ายในปีหน้า
   
ขอให้โชคดีและทำได้ดีอย่างที่หวัง...บาสเตียน ชไวน์ไตเกอร์

เรื่องโดย "เพลย์เมคเกอร์"

คอลัมน์"เกาะปีกอินทรีเหล็ก" นสพ.กีฬาฮอตสกอร์