พลังเอ็มโดนก่อนแต่ฮึดแซงบุรีรัมย์สุดมันส์ 2-1
พลังเอ็ม โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี เปิดบ้านเฉือนชนะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าไปอย่างสุดมันส์ 2-1หลังโดนนำก่อน แต่ยิงคืนทีเดียวสองประตู
โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี 2 – 1 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
การแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีกประจำวันอาทิตย์ที่ 14 ต.ค. 55 ที่สนาม อบจ.สระบุรี “พลังเอ็ม” โอสถสภา เอ็ม 150 สรบุรี เจ้าถิ่นทีมอันดับ 8 ของตารางมีอยู่ 40 คะแนน เปิดบ้านรับการมาเยือนของแชมป์เก่า “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 3 ของตารางมีอยู่ 51 คะแนน โดยเลกแรกที่พบกันเป็นบุรีรัมย์ ที่เอาชนะได้ 4-2
โดยในเกมนี้อาจจะไม่มีความหมายต่อทั้งสองทีมแล้วเพราะทั้งคู่ไม่ต้องไปดิ้นรนหนีตกชั้นและลุ้นแชมป์อะไรแล้ว ซึ่งก็เหลือเพียงการทำอันดับในตารางคะแนนให้ดีที่สุดเท่านั้น โดยวันนี้เจ้าถิ่นจัดชุดใหญ่ลงสนามเต็มพิกัดนำโดย อภิภู สุนทรพนาเวศ,ลาซารัส คาอิมบี้ และ แทงเจนี่ ชิเปา ส่วนทีมเยือนที่มีเกมลีกคัพกลางสัปดาห์รออยู่วันนี้ก็ส่งสำรองลงเกือบทั้งทีมนำโดย ซารีฟ สายนุ้ย,จิรวัฒน์ มัครมย์ และ สุริยา ดอมไธสง
เริ่มเกมเป็นเจ้าถิ่น “พลังเอ็ม” ที่ครองบอลได้เหนือกว่าอย่างชัดเจนและพยายามทำเกมบุกเข้าใส่แต่ก็ยังหาจังหวะยิงถนัดๆ ไม่ได้ ส่วนทีมเยือนแน่นเกมรับแล้วรอสวนกลับโดยจะอาศัยความเร็วของ อาชิมปง และ สุริยา ดอมไสง เป็นหลัก แต่ก็ยังไม่มีโอกาสได้ลุ้นประตูเหมือนกัน ผ่านไป 10 นาทีของการแข่งขันยังไม่มีสกอร์เกิดขึ้น
น.15 เป็นโอกาสลุ้นประตูครั้งแรกของโอสถฯ อภิภู สุนทรพนาเวศ เปิดบอลจากกราบซ้ายไปในเขตโทษ แทงเจนี่ ชิเปา โหม่งชลไปให้ คาตาโนะ ที่เติมมายิงเสาสองแต่บอลข้ามคานออกไปแบบได้ลุ้น
น.26 แฟนบอลทีมเยือนเกือบได้เฮ มาร์โก เซ็ตโควิช ตัดบอลได้ตรงกลางก่อนไหลทะลุช่องไปให้ สุริยา ดอมไธสง หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงล่อเป้าในเขตโทษแต่โชคดีที่ ฉัตรชัย บุตรพรม นายทวารเจ้าถิ่นออกมาปิดมุมเร็วจึงเซฟเอาไว้ได้หวุดหวิด
น.31 กอบเดช ชอบมโนธรรม กองกลางเจ้าถิ่นลองส่องไกลระยะ 30 หลา แต่บอลไปตรงตัว ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน นายทวารบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ชิติพัทธ์ แทนกลาง กองหลังดาวรุ่งทีมเยือนลองยิงไกลบ้างแต่บอลก็ออกหลังไป จบ 45 นาทีแรกยังทำอะไรกันไม่ได้ เสมอกันอยู่ 0-0
กลับมาสู้กันต่อในครึ่งหลังทั้งสองทีมยังคงใช้ผู้เล่นชุดเดิมจากในครึ่งแรก น.47 ทีมเยือนได้ลุ้นก่อน สุริยา ดอมไธสง ได้ลองยิงมุมแคบนอกกรอบบอลเกือบจะเสียบสามเหลี่ยมแต่ยังดีที่ ฉัตรชัย ยังบินมาเซฟไว้ได้
และจากลูกเตะมุม น.48 บอลนั้นมาชุลมุนอยู่ในเขตโทษและเป็น ศิริศักดิ์ ไฝดง ที่ได้ยิงส้มหล่นทเสาสองจังหวะแรกบอลไปชนเสาออกมา แต่ ศิริศักดิ์ คนเดิมยังเอาบอลกลับมายิงมุมแคบได้อีกครั้งบอลย้อยเข้าเสาแรกไปอย่างไม่มีใครคาดคิดให้ทีมเยือนบุกมานำก่อน 1-0
แฟนบอลทีมเยือนได้เฮไม่นานเจ้าถิ่นก็มาตีเสมอได้ใน น.51 จากการหลุดเข้าไปยิงของ ลาซารัส คาอิมบี้ ที่วิงแซงกองหลังบุรีรัมย์ ก่อนจะยิงเรียดเต็มข้อเข้าประตูไป เสมอกัน 1-1
น.66 พลังเอ็มน่าได้ประตูขึ้นนำ ลาซารัส ปั้มบอลแย่งกองหลังทีมเยือนมาได้ก่อนจะเลี้ยงไปถึงสุดเส้นหลังแล้วตบเข้าในมาให้ แอนโทนี่ โคเมนาน ตัวสำรองได้ยืนแปเน้นๆ ในเขตโทษแต่ยิงหลุดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
น.78 โคเมนาน ไหลบอลทะลุช่องให้ ลาซารัส เข้าไปยิงมุมแคบ แต่บอลไปเข้าข้างตาข่าย และแล้ว น.87 เสียงเฮในสนามก็ดังสนั่นเมื่อเจ้าถิ่นมาได้ประตูขึ้นนำ 2-1 จากจังหวะที่ อภิภู โยนบอลยาวจากฝั่งซ้ายมาที่เสาสอง โคเมนาน โหม่งตั้งไปกลางประตูและเป็น ศราวุฒิ จตุรภัทร ตัวสำรองที่แปบอลเข้าประตูไป
ช่วงเวลาที่เหลือไม่สามารถทำอะไรเพิ่มได้ จบเกมโอสถสภาฯ เฉือนชนะบุรีรัมย์ ไป 2-1 เก็บ 3 แต้มในบ้านได้สำเร็จ ส่วนแชมป์เก่ายังคงไม่ชนะใครต่อไปเป็นเกมที่ 5 ติดต่อกันแล้ว
โดยสถานการณ์ตอนนี้ โอสถสภาฯ ขยับขึ้นมาอยู่ที่ 6 เตะ 31 นัด มี 43 คะแนน ส่วน บุรีรัมย์ รั้งอันดับ 3 แข่ง 32 นัด มี 51 แต้ม สำหรับโปรแกรมนัดต่อไปซึ่งเป็นนัดรองสุดท้ายของทั้งสองทีมจะเล่นในวันที่ 21 ต.ค.นี้ โดย โอสถสภาฯ จะเล่นในบ้านพบกับ อีสาน ยูไนเต็ด ส่วน บุรีรัมย์ จะออกไปเยือน บีบีซียู เอฟซี
สำหรับรายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
โอสถสภา เอ็ม 150 สระบุรี : ฉัตรชัย บุตรพรม (GK),เกรียงศักดิ์ ชุมพรผ่อง,บุญมี บุญรอด,แทงเจนี่ ชิเปา (แอนโทนี่ โคเมนาน น.65),เจษฎา พั่มนะคุณมี (C),ลาซารัส คาอิมบี้,สุรเดช ธงชัย (ศราวุฒิ จตุรภัทร น.60),ฮิโรยูกิ ยามาโมโตะ,อภิภู สุนทรพนาเวศ (ศักดิ์ดา ฝ่ายอินทร์ น.90),คาตาโนะ ฮิโรมิชิ และ กอบเดช ชอบมโนธรรม
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK)-(C),ชินโนะสุเกะ ฮอนดะ,สุริยา ดอมไธสง,ซารีฟ สายนุ้ย (อดิศักดิ์ ไกรษร น.63),เกรียงไกร อุระงาม (เอ็ควัลล่า เฮอร์แมน น.73),มาร์โก เซ็ตโควิช (เอกชัย สำเร น.80),ชิติพัทธ์ แทนกลาง,จิรวัฒน์ มัครมย์,ปิยะราษฎร์ ลาจังหรีด,แฟรงค์ อาชิมปง และ ศิริศักดิ์ ไฝดง
ทีทีเอ็ม เชียงใหม่ 0 - สมุทรสงคราม เอฟซี 1
ที่สนาม 700 ปี จังหวัดเชียงใหม่ "เจ้าถิ่น" ทีทีเอ็ม เชียงใหม่ ทีมบ๊วยของตารางที่ตกชั้นไปเรียบร้อยแล้วเปิดรังรับการมาเยือนของ เจนิฟู้ด สมุทรสงคราม ที่เก็บนี้อย่างน้อยต้องบุกมามีแต้มเพื่อโอกาสรอดปลอดภัย โดยเจ้าถิ่นส่งแนวรุกอย่าง เอกอาทิตย์ สมจิตร และเลโอนาโด้ เปเรยร่า ขณะที่ฝั่งทีมเยือนส่งชุดใหญ่ ดิยุฟ บิรัม ยืนล่าตาข่ายกับ ณภัทร ธำรงศุภกร
เริ่มเกมมาได้ไม่ถึงสามนาที ทีมเยือน สมุทรสงคราม เกือบได้ประตูขึ้นนำเมื่อ เจษฎา ภู่เล็ก แบ็กซ้ายเปิดฟรีคิกมาให้ ดิยุฟ บิรัม โฉมมาโขกเสาแรกแต่บอลเหินคานออกไป สองนาทีถัดมา เจ้าถิ่นได้ลุ้นบ้างจากจังหวะฟรีคิกไปติดกำแพง ก่อนที่ เอกอาทิตย์ สมจิตร จะเข้ามาโขกซ้ำจ่อๆบอลหลุดคานออกไป
น.25 เอกลักษณ์ ทองกริต ผู้เล่นฝั่งเจ้าถิ่นต้องรับใบเหลืองเตือนจากผู้ตัดสินบ้างหลังไปเข้าอัด ณภัทร ธำรงศุภกร อย่างน่าเกลียด
เกมผ่านมาครึ่งชั่วโมง รูปเกมทั้งสองทีมยังเล่นกันเหนือยๆ ไม่หวือหวาอะไร นาที 33 ทีทีเอ็ม เชียงใหม่ เกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะบอลครอสยาวมาทางเสาสอง เอกอาทิตย์ สมจิตร แปบอลยัดเสาแรกแต่ยังไม่ผ่านมือ ลูคัส ดาเนี่ยล นายประตูทีมเยือนที่ปัดออกหลังไปได้
น.38 เป็น เอกอาทิตย์ สมจิตร ที่คอยป่วนแนวรับ สมุทรสงคราม อีกหนคราวนี้โยกหลอกก่อนกระชากเข้าไปกึ่งยิงกึ่งผ่านแต่ดีที่ ลูคัส ดาเนี่ยล ยังทุบบอลออกมาได้
จบครึ่งเวลาแรก ทีทีเอ็ม เชียงใหม่ ยังเสมอกับ เจนิฟู้ด สมุทรสงคราม เอฟซี 0-0
ครึ่งหลังเริ่มเกมมาได้แค่นาทีเดียว สมุทรสงคราม เอฟซี น่าจะได้ประตูขึ้นนำเมื่อ สิทธิพันธ์ ชุมช่วย ได้บอลนอกกรอบก่อนจะบรรจงปั่นด้วยซ้ายบอลไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย
น.51 ทีมเยือนมาได้ประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะที่ ณภัทร ธำรงศุภกร เปิดบอลทางด้านขวามาหน้าปากประตู ดิยุฟ บิรัม ขึ้นโขกเหน่งๆคนเดียวส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายเป็นประตูที่ 9 ของหัวหอกแคเมอรูนในซีซั่นนี้
ช่วงท้ายเกมเจ้าถิ่นดูเล่นแบบถอดใจแม้จะพยายามทำประตูตีเสมอแต่ไม่สามารถเจาะแนวรับของทีมเยือนได้ จบเกม ทีทีเอ็ม เชียงใหม่ พ่ายคารังให้ เจนิฟู้ด สมุทรสงคราม 0-1
สรุปผลไทยพรีเมียร์ลีก วันอาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม 2555
FT โอสถสภา เอ็ม150-สระบุรี ชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2-1
FT ทีทีเอ็ม เชียงใหม่ แพ้ สมุทรสงคราม เอฟซี 0-1
FT วัวชน ยูไนเต็ด เสมอ อีสาน ยูไนเต็ด 1-1
FT พัทยา ยูไนเต็ด เสมอ บางกอกกล๊าส เอฟซี 0-0
FT SCG เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ชนะ ชัยนาท เอฟซี 1-0
FT เชียงราย ยูไนเต็ด แพ้ บีอีซี เทโรศาสน 0-1