นับสิบไม่ฟื้น-อดีตแชมป์ โดนน็อกด้วย"ทองเก๊"
สั่นสะเทือนวงการกีฬาไทยทันที หลังจาก แสน ส.เพลินจิต หรือ สมชาย เชิดฉาย อดีตแชมป์โลกรุ่นฟลายเวต สมาคมมวยโลก (ดับเบิลยูบีเอ) วัย 41 ปี ออกมาบอกกับสังคมว่า
กำลังเผชิญมรสุมชีวิตต้องใช้เงินในการรักษาอาการเลือดออกในสมอง อันเป็นผลพวงจากความบอบช้ำสะสมตลอดการชกมวย แต่ไม่มีเงินเนื่องจากทองคำที่เก็บสะสมมาบนเส้นทางนักชกอาชีพน้ำหนักรวม 500 บาท เป็นทองปลอมกว่าครึ่ง!!!
หากจำกันได้นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ยอดนักชกขวัญใจชาวไทยเจ้าของฉายา "โผน 2" ออกมาเรียกร้องต่อสังคมว่า กำลังอยู่ในช่วงวิกฤตมรสุมชีวิต
เพราะเมื่อปี พ.ศ.2548 แสน ส.เพลินจิต ตกเป็นข่าวไม่มีงานทำ มีสภาพความเป็นอยู่ที่ยากลำบาก จนหน่วยงานรัฐด้านกีฬาต้องยื่นมือเข้าให้การช่วยเหลือ
บรรจุเข้าทำงานในตำแหน่งผู้ฝึกสอน มวยไทยและมวยสากลให้แก่บุคคลทั่วไปซึ่งมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ในฐานะลูกจ้างของสำนักงานพัฒนาการกีฬาและนันทนาการ (สกพ.) โดยเริ่มทำงานมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2551 ได้รับเงินเดือน เดือนละ 8,000 บาท
แสน ส.เพลินจิต
ผ่านมา 7 ปี แสน ส.เพลินจิต ออกมาฟ้องภาพอัปลักษณ์ของวงการธุรกิจกีฬาอีกครั้ง
เพราะทองคำที่แลกมาจากหยาดเหงื่อ และความบอบช้ำของร่างกายบนสังเวียนผืนผ้าใบกลายเป็นทองปลอมกว่าครึ่ง
แสน ส.เพลินจิต บอกว่า ไม่ได้ออกมาเพื่อเรียกร้องหรือขอความช่วยเหลือ หรือขอเงินที่ต้องสูญไปจากทองปลอมน้ำหนักถึง 160 บาท ที่จริงได้นำทองคำขายไปตั้งแต่แขวนนวมใหม่ๆ เพื่อนำเงินไปจ่ายค่าที่ดินที่ซื้อไว้ 10 ไร่ ที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา
คราวนั้นขายไปมูลค่าบาทละ 4,000 บาท น้ำหนักรวมประมาณ 340 บาท ได้เงินมาประมาณ 1.36 ล้านบาท หลังจากนั้นก็มีอาการเลือดออกในสมอง ซึ่งได้พบแพทย์รักษาตัวที่โรงพยาบาลเมโย ย่านเกษตรฯ ซึ่งแพทย์ไม่แนะนำให้ทำการผ่าตัด
"ตอนนี้ผมไม่ได้ล้มป่วยอะไร ยังมีกำลังแข็งแรง ทำงานอยู่กับทีมงานของนายกเทศมนตรีคลองหลวง จ.ปทุมธานี แต่หากปล่อยไว้มันอาจลุกลามได้ ส่วนสภาพความเป็นอยู่ก็ถือว่าลำบาก รายได้ไม่ค่อยจะพอ ผมไม่ได้เรียกร้องอะไร เพียงแต่ต้องการให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับนักมวยหรือผู้เกี่ยวข้องหาแนวทางป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดซ้ำอีก ผมรักวงการมวย" แสน ส.เพลินจิตกล่าว
ประเด็นที่มองข้ามไม่ได้เด็ดขาด นอกจากชีวิตนักมวยอาชีพรายหนึ่งที่ต้องกลายมาเป็นตกทุกข์ได้ยาก มีปัญหาเรื่องเงิน ทั้งที่ช่วงชีวิตการเป็นนักชกอาชีพกอบโกยเงินได้มากพอสมควร คือการที่ แสน ส.เพลินจิต ได้รับมอบทองคำ ก่อนชกและหลังชก โดยสปอนเซอร์ให้ด้วยความเต็มใจ
ว่ากันตามตรง เพื่อแลกกับโอกาสได้ออกอากาศถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศในช่วงเวลาที่รับมอบทองคำ
แต่มาวันนี้ แสน ส.เพลินจิต บอกว่าทองคำเหล่านั้นเป็นทองปลอม
เขาทราย แกแล็คซี่
สมัยก่อนการชกมวยชิงแชมป์โลกของเมืองไทยเริ่มมีการมอบทองคำบ้างเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับนักมวยของไทยโดยทีมงานของ "บิ๊กอึ่ง" สหสมภพ ศรีสมวงศ์ "แชแม้" นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ และ "เป๋ โปสเตอร์" สุชาติ เกิดเมฆ
โดยยุคที่ เขาทราย แกแล็คซี่ ครองแชมป์โลกเป็นยุคที่มีการจารึกว่ามีการมอบทองคำกันมากที่สุดคือ ป้องกันแชมป์ไฟต์ที่ 4 ที่เชียงใหม่ ตอนนั้นเขาทรายได้รับ 130 บาท
เขาทราย บอกว่า ช่วงที่ผมชกตอนนั้นก็มีกรณีนักมวยได้ทองปลอมบ้างแต่ไม่เยอะ เรื่องพวกนี้มันเกิดขึ้นจริง และผมก็เคยออกมาแฉเรื่องนี้ไปครั้งหนึ่ง
ผมกับแสน ส.เพลินจิต ก็เจอกันบ้างช่วงหลังๆ แต่เขาดื่มเหล้าจัด เมามานั่งที่ร้านหมูกระทะผมประจำ ผมก็ว่าดีที่แสนออกมาแฉคราวนี้ทุกๆ คนที่เคยโดนทองปลอม ผมเชื่อว่ามันเกิดจากการสับเปลี่ยนของทีมงานนักมวย
ผมเคยเจอครั้งหนึ่ง หลายคนน้องๆ นักมวยก็เจอกันหมด ผมอยากให้เปลี่ยนยกเลิกวัฒนธรรมการแจกทองไปเลย เมื่อก่อนทองถูก เดี๋ยวนี้ทองแพง 2 หมื่นกว่า มันเลยเกิดปัญหา ทางที่ดีแจกเป็นเงินสดดีกว่า
"ไอ้โบ้" รัตนพล ส.วรพิน
นอกจาก เขาทราย แกแล็คซี่ แชมป์โลกขวัญใจตลอดกาลของไทยจะยืนยันข้อมูลเรื่องทองปลอมว่ามีจริงแล้ว ยังมี "ไอ้โบ้" รัตนพล ส.วรพิน, สมรักษ์ คำสิงห์ รวมถึง สามารถ พยัคฆ์อรุณ ที่ระบุตรงกันว่า โดนเรื่องทองปลอมกันมาหมดแล้วทุกคน แต่เป็นจำนวนไม่เยอะมาก
"แชแม้" นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์ โปรโมเตอร์ชื่อดังบอกว่า เรื่องพวกนี้ทางโปรโมเตอร์ทุกคนเองก็ระวังให้กับนักมวยของตัวเองอยู่แล้ว มันอยู่ที่วิธีการที่จะตรวจสอบทองคำก่อนมอบบนเวที อย่างผมสมัยเขาทรายขึ้นชก ผมจะตรวจทองคำและคล้องโลโก้เล็กๆ ไว้ เพื่อจะได้รู้ที่มาที่ไปว่าเป็นใครมอบให้กี่บาท รายละเอียดยังไง เพราะหากมีเรื่องทองปลอมเข้ามาก็จะรู้ทันทีว่าเป็นของใคร
"ผมบอกตามตรงว่าผมเคยเจอครั้งเดียว 5 บาท มอบให้เขาทราย แต่ผมไม่อยากไปพาดพิงเพราะมันเกิดขึ้นนานแล้ว"
"มันมีทุกรูปแบบล่ะ เพราะมันคือธุรกิจทุกอย่างเป็นเงินหมด ทางเดียวที่จะทำให้ไม่เกิดปัญหาคือ ผู้จัดการนักมวยกับตัวนักมวยต้องคุยภาษาเดียวกัน ต้องเข้าใจซึ่งกันและกัน ปัญหามันก็จะไม่เกิด"
"สำหรับ แสน ส.เพลินจิต ผมก็คุ้น ไม่รู้สิผมไม่อยากไปก้าวก่ายเรื่องการบริหารจัดการของโปรโมเตอร์ทีมงานอื่น แต่บอกได้อย่างว่า มันอยู่ที่อุปนิสัยของคนแต่ละคนที่จะเลือกเส้นทางชีวิต วางแผนกันอย่างไร" แชแม้เล่าความนัยลึกๆ ของวงการ
สามารถ พยัคฆ์อรุณ
จับตาดูวัฒนธรรมการมอบทองคำให้กับนักมวยอาชีพของไทยนับจากนี้ ว่าจะมีวิธีการตรวจสอบ แก้ไข เพื่อไม่ให้นักมวยอาชีพชาวไทยรายต่อๆ ไป ต้องแลกความเจ็บปวด หยาดเหงื่อกับ "ทองปลอม" อันสูญเปล่าจนต้องกลายมาเป็น "หมาล่าเนื้อ" รายต่อไปของวงการพ่อค้ากำปั้นอาชีพ
เพราะมันคือด้านมืด ที่ควรช่วยกัน "กำจัด" ออกจากสารบบแบบถาวร