ถึงวันบัลลังก์จ่าฝูงเปลี่ยน?

ถึงวันบัลลังก์จ่าฝูงเปลี่ยน?

ถึงวันบัลลังก์จ่าฝูงเปลี่ยน?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“หลี่หมิง” ขอเริ่มต้นด้วยเป็นกำลังใจให้คนไทยที่ประสบภัยน้ำท่วมเข้มแข็ง และขอบคุณคนไทยที่ไม่ทอดทิ้งกัน ช่วยเหลือกันในยามยากคนละไม้คนละมือนะครับ

ควันหลงบอลไทยเสมอ “ซาอุดีอาระเบีย” ที่แฟน ๆ ส่วนใหญ่ตีมือให้ในภาพรวม แต่ “หลี่หมิง” ขอตำหนิแทรกเป็น “ยาดำ” ว่า แข้งไทยขาดความสด และความแน่นอน เหมือนลดประสิทธิภาพนัดเจอ “โอมาน” 30 เปอร์เซ็นต์

แม้จะมีเสียงค้านว่าเทียบกันไม่ได้ แต่คำติติงเหมือน “หวานเป็นลม ขมเป็นยา” หากไม่เร่งยกระดับนัดไปเยือนที่กรุงริยาด จะต้องพ่ายแพ้กลับมาค่อนข้างแน่

การมี 4 คะแนนในกลุ่มเป็นเบอร์ 2 และมีแต้มเหนือ “ซาอุดีอาระเบีย” ทุกอย่างจะพลิกผันหากนัดที่ 4 ของกลุ่มวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ทีมไทยไม่มีคะแนนกลับบ้าน

เหมือนกับคนภาคกลาง และคนกรุงเทพฯ เจอวิกฤติน้ำ ทันที!!!

เห็นชัยชนะของ “เวเนซุเอลา” ทีมไม้ประดับในโซนอเมริกาใต้โค่น “อาร์เจนตินา” แล้วไซ้ “หลี่หมิง” คำรามใส่นักเตะไทยว่า ไฉนเราจะเป็น “แจ๊คผู้ฆ่ายักษ์มิได้” เรื่องเหล่านี้ต้องอาศัยปัจจัยเข้มกว่าปกติ โดยเฉพาะการสวมหัวใจสู้ไม่ย่นไม่ย่อท้อแม้แต่เสี้ยววินาที

ไฮไลต์วันหยุดคงไม่พ้นศึกแดงเดือด “หงส์แดง” เปิดถิ่นแอนฟิลด์พบกับ “ผีแดง” เวลาดีเสาร์นี้ก่อนทุ่มตรง แม้ชั่วโมงนี้ดีกรีความร้อนแรงจะน้อยลง เนื่องจากเจ้าถิ่นผลงานยังไม่จัดจ้านนัก แต่ศึกศักดิ์ศรีรับประกันซ่อมฟรีว่า “ระอุ”

หากเป็นมวย “ปิศาจแดง” ยามนี้ครบเครื่อง และแพรวพราว ต่อยได้ทั้งรับ และรุก ผิดกับ “หงส์แดง” ที่วูบวาบ แต่ไร้ความคงเส้นคงวา จึงต้องหวังทีเด็ดหากจะเก็บชัย

เชื่อว่าเกจิอาจารย์ทุกสำนักประเมินในแนวทางเดียวกันว่า โอกาสที่ชัยชนะจะตกเป็นของทีมลิเวอร์พูลค่อนข้างน้อย อย่างเก่งน่าจะแบ่งแต้มให้จ่าฝูงผู้มาเยือน

ทั้งนี้ “หลี่หมิง” วิเคราะห์ตามประสาความรู้ในศาสตร์ฟุตบอลยังด้อย แต่ใช้สิทธิในฐานะคอบอลที่บ้าบอล และชื่นชอบบอลอังกฤษมาค่อนชีวิต จุดเด่นของศึกแดงเดือดน่าจะเป็น 2 คู่หน้าของทั้ง 2 ทีม

“ผีแดง” น่าจะดีใจที่ทีมชาติอังกฤษไม่มีแมตช์เตะยูโรนัดสุดท้าย ทำให้ “เวย์น รูนี่ย์” ที่สังเวยใบแดงได้เติมความสด เมื่อเทียบกับความปราดเปรียวของ “ชิชาริโต้” และเปรียบกับ 2 คู่หน้าเจ้าถิ่น “หลุยส์ ซัวเรซ” ที่ได้ “แอนดี้ คาร์โรลล์” มายืนปะทะกับแผงหลังทีมเยือน

การชิงไหวชิงพริบชิงจังหวะจึงน่าจะสุดมันชนิด “ห้ามกะพริบตา” ว่ากันว่า หากเข้าล็อกตามที่แฟนๆ ทั่วโลกหวังชม น่าจะเป็นเกมที่เปิดเกมรุกเปิดหน้าแรกกันอย่างสนุกเร้าใจ โดยเฉพาะการยิงประตูที่เป็นไฮไลต์กันเยอะๆ เหมือนมวยศึกวันทรงชัยที่พลิกไปพลิกมาตลอด 5 ยก

หากให้เวลา “คิงเคนนี่” อีก 2-3 ปี น่าจะยกระดับเทียบบารมีที่ร่วงโรยของ “เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน” แต่ถ้าเทียบกับความกดดันแล้ว นักเตะผีแดงถูกแรงบีบคั้นเยอะกว่าแน่ เพราะจะเสมอไม่ได้เนื่องจากคู่แข่งร่วมเมือง “เรือใบ” ต้อนรับการขึ้นเขียงของ “แอสตัน วิลล่า”

จ่าฝูงอาจมีการเปลี่ยนมือให้เป็นสีสัน และรสชาติซู้ดปากเหมือนเคี้ยวพริกขี้หนูกำมือ

พลิกความทุกข์ด้วยหัวใจที่ไม่ยอมแพ้กับสิ่งที่ผ่านพ้น และเอาคืนไม่ได้ เป็นกำลังใจให้ล้มหลามอีกครั้งกับคนไทยที่เผชิญภัยน้ำท่วมครับ บ๊าย บาย ปู๊น ๆ ฉึกฉัก ๆ ๆ ๆ

เรื่องโดย "หลี่หมิง"

คอลัมน์ หลี่หมิงยิงแฮตทริก นสพ.กีฬาฮอตสกอร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook