เสือใต้ม้วนเดียวจบ
สำหรับวันนี้ ขอเปลี่ยนบรรยากาศมาเขียนถึงเรื่องราวของฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมันกันบ้าง ซึ่งตั้งแต่เปิดฤดูกาลมามีทีมที่ทำผลงานได้เข้าตาจริงๆ ก็คงเป็น “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค กับ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัคเพียงแค่สองทีมเท่านั้น
เพราะทั้งสองทีมเป็นจ่าฝูงและรองจ่าฝูงในตอนนี้ แต่คงมีแฟนบอลหลายคนเริ่มคาดเดากันว่า ถาดแชมป์บุนเดสลีกาปีนี้คงไม่น่าจะหนีจากอุ้งมือของเสือใต้แห่งมิวนิคไปได้
ฤดูกาลนี้ บาเยิร์น มิวนิค เปลี่ยนแปลงกุนซือจาก หลุยส์ ฟาน กัล ที่ล้มเหลวเมื่อฤดูกาลที่แล้วออกมา และตัดสินใจให้ จุ๊ปป์ ไฮย์เกส เข้ามาทำทีมแทน ถือว่าน่าจะเป็นจุดแรกที่ส่งผลให้ทีมมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จสูง เนื่องจากตัวจุ๊ปป์ ไฮย์เกสเป็นกุนซือที่รู้เรื่องฟุตบอลเยอรมันดีอยู่แล้ว
รวมทั้งมีประสบการณ์ในการคุมทีมใหญ่ในยุโรปมาอีกต่างหาก จึงไม่ต้องห่วงเรื่องการควบคุมนักเตะ การแบกรับความกดดัน หรือการจัดการปัญหาต่างๆ ภายในทีม นอกจากนั้นด้วยการที่เคยคุมบาเยิร์นมาก่อน ก็เข้าใจถึงธรรมชาติสโมสร รู้ว่าแฟนบอลและฝ่ายบริหารต้องการอะไร
ดังนั้น เมื่อไฮย์เกสคุมทีมก็ไม่มีปัญหาเรื่องการปรับตัวเลย แถมบุคลากรนักเตะภายในทีมหลายคนก็ถือว่าเป็นพวกหน้าเก่าขาประจำอยู่แล้วแต่ล้วนเป็นนักเตะหนุ่มทั้งสิ้น เช่น มานูเอล นอยเออร์, ฟิลิปป์ ลาห์ม, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, โธมัส มุลเลอร์, อาร์เยน ร็อบเบน หรือ มาริโอ โกเมซ
โดยนักเตะส่วนใหญ่ภายในทีมก็ล้วนเล่นทีมชาติเยอรมันชุดเดียวกัน จึงได้ลงเล่นแบบต่อเนื่องพร้อมๆ กัน ซึ่งก็คงไม่แปลกที่จะเล่นแบบรู้ใจกัน
ด้วยฟอร์มเปิดฤดูกาลที่ชนะ 7 เสมอและแพ้อย่างละ 1 นัด ก็เพียงพอที่จะทำให้ทีมรั้งตำแหน่งจ่าฝูงแต่เพียงทีมเดียว ถือว่าเป็นฟอร์มที่สวยหรูเลยทีเดียว รวมทั้งนักเตะที่บาดเจ็บไปก็เริ่มหายกลับมาช่วยทีมได้แล้วจึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมทีมถึงทำได้ดี
เพราะมีตัวสำรองที่พร้อมจะทดแทนกันได้ ซึ่งตัวสำรองภายในทีมก็ต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลา เนื่องจากพวกตัวหลักยิ่งเล่นยิ่งเก่งขึ้น ดูจากเกมในฟุตบอลยุโรปทีมก็เก็บชัยชนะได้มากขึ้น บาเยิร์นตามความเป็นจริงเน้นความเป็นระบบทีมมากกว่าความสามารถเฉพาะตัวด้วย
ขณะที่อีกปัจจัยสำคัญคือทีมใหญ่ร่วมลีกแทบทุกทีมผ่านจุดพีกจากฤดูกาลที่แล้วมาหมด ทั้งดอร์ทมุนด์, เบรเมน เลเวอร์คูเซ่น หรือ ชาลเก้ ซึ่งพอมาเล่นฤดูกาลนี้ หลายทีมต้องเสียนักเตะตัวสำคัญออกจากทีมไป
โดยเฉพาะดอร์ทมุนด์ที่เสีย นูริ ซาฮิน จอมตัดเกมหรือเบรเมนที่เสียแพร์ แมร์เตซัคเคอร์ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมปีนี้ดูเหมือนบาเยิร์นจะเล่นสบายเหลือเกินเวลาเจอทีมไหนก็มักเอาชนะได้อย่างไม่ยากเย็นถ้าเทียบกับทีมอื่นที่เริ่มสะดุดกันบ่อยมากขึ้น
อีกปัจจัยหนึ่ง ความสำเร็จของทีมเกี่ยวข้องกับเรื่องของเงินและงบประมาณการทำทีมได้เหมือนกัน เพราะจากประวัติศาสตร์ บาเยิร์นเป็นทีมเดียวในลีกที่กล้าทุ่มเงินมหาศาลเพื่อซื้อนักเตะคนเดียว แต่ทีมอื่นในเยอรมันต้องการประหยัดมากที่สุดจึงไม่เสี่ยง เพราะอาจจะทำให้มีปัญหาตามมาภายหลังได้
ทำให้แต่ละตัวที่เป็นการซื้อของบาเยิร์นต้องคุ้มค่ามากที่สุด และเน้นพวกอายุไม่มากเพื่อจะได้อยู่กับทีมต่อไปนานๆ
สุดท้ายก็ขอฟันธงแรงๆ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดจริงๆ เชื่อว่า “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค น่าจะเป็นแชมป์ลีกบุนเดสลีกาแบบม้วนเดียวจบอย่างไม่มีข้อสงสัย และรอลุ้นผลว่าทีมจะทำสถิติอะไรใหม่ๆ หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ ในฟุตบอลยุโรปอีกยาวไกล
แต่เชื่อว่าไม่มีอะไรเกินความสามารถของนักเตะบาเยิร์นได้ และปีนี้ถ้ามาทรงดีๆ หน่อยย่อมมีโอกาสจะเข้ารอบลึกของรายการฟุตบอลถ้วยระดับในและนอกประเทศอีก
จึงขอดีใจแทนแฟนบาเยิร์นว่าอาจจะได้ฉลองในเทศกาลงานเบียร์ที่จะจัดขึ้นอีกไม่กี่อาทิตย์ครับ
เรื่องโดย "หมอเมา"
คอลัมน์หมอเมาเล่า นสพ.กีฬาฮอตสกอร์