ฟุตบอล: สิงห์ทวงแค้น! พลิกนรกชนะผี5-4ต่อเวลาศึกลีกคัพ

ฟุตบอล แคปปิตอลวัน คัพ

รอบ 4 (16ทีสุดท้าย)

เชลซี 3-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

(ต่อเวลาพิเศษ เชลซี ชนะ 5-4)

วันพุธที่ 31 ตุลาคม 2555

สนาม : สแตมฟอร์ด บริจน์

ผู้ตัดสิน : ลี เมสัน

เกมเริ่มต้นค่อนข้างรัดกุมทั้งคู่ ก่อนที่ แมนฯ ยูฯ จะมาได้โอกาสลุ้นก่อน จากลูกฟรีคิกระยะเกือบๆ 30 หลา นานี่ รับหน้าที่ยิงอัดด้วยขวา บอลพุ่งทะลุกำแพง แต่เข้าไปตรงตัว ปีเตอร์ เช็ก

น.16 ทีมเยือนฉกฉวยโอกาสได้จากแดนกลาง ก่อนที่ ไรอัน กิ๊กส์ จะป้ายบอลต่ออกฝั่งซ้ายให้ เวลเบ็ค แต่งบอลเบี่ยงตัวยิงด้วยขวา บอลพุ่งเข้าไปตรงตัว  ปีเตอร์ เช็ก อีกครั้ง

น.22 เป็นทางฝั่ง แมนฯ ยูฯ ที่มาได้ประตูขึ้นนำก่อน จากจังหวะที่ ปีเตอร์ เช็ก พยายามเล่นบอลเร็ว เตะเปิดเกมสั้นมาให้ โรเมอู ก่อนที่ เวลเบ็ค อาศัยความขยันวิ่งมาเบียดแย่งจากเท้า บอลกระดอนมาเข้าทาง ไรอัน กิ๊กส์ ลากบอลเข้าไปแปผ่านมือ ปีเตอร์ เช็ก อย่างเยือกเย็น ให้ "ผีแดง" นำ 1-0

น.31 ผ่านครึ่งชั่วโมงของเกม เชลซี กลับมาทวงประตูตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ จากจังหวะที่ วิคเตอร์ โมเซส ขึ้นเกมรุกฝั่งขวา โดน บุทท์เนอร์ พุ่งเลาะข้อเท้าในเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่ลังเล มอบจุดโทษให้เจ้าถิ่นทันที ก่อนที่ ดาวิด ลุยซ์ จะรับหน้าที่สังหาร ยิงเข้าไปไม่พลาด

น.43 ผู้เล่นแนวรับของ เชลซี พลาดให้เห็นอีกครั้ง เมื่อ ดาวิด ลุยซ์ ที่พยายามกระชากบอลลุยขึ้นสูง ก่อนที่จะโดนตัดได้ในแดนกลาง อันแดร์สัน จ่ายทะลุช่องให้ ชิชาริโต้ กระชากบอลเข้าไปยิงผ่านตัว ปีเตอร์ เช็ก มุมเดียวกับ กิ๊กส์ เข้าไปซุกก้นตาข่าย ให้ แมนฯ ยูฯ นำนำอีกครั้งเป็น 2-1

จบครึ่งแรก แมนฯ ยูฯ บุกมานำ เชลซี 2-1

ครึ่งหลัง แมนฯ ยูฯ ส่ง นิค พาวเวลล์ ลงสนามแทน บุทท์เนอร์ พร้อมโยก ราฟาเอล มาอยู่ฝั่งซ้าย แล้วถอย เฟล็ทเชอร์ มาประจำการแบ็กขวา ส่วน เชลซี ส่ง รามิเรส แทน จอห์น โอบี มิเกล

น.52 ต้นครึ่งหลัง เกมของ เชลซี ดูดีขึ้นมากกว่าเดิม ก่อนจะมาทวงประตูตีเสมอเป็น 2-2 จากลูกเตะมุมทางฝั่งว้าย ฆวน มาต้า เปิดเข้ากลางให้ แกรี่ เคฮิลล์ ขึ้นโหม่งเต็มๆ ราฟาเอล ตัวคุมเส้นพยายามโหม่งเคลียร์ แต่บอลเลยข้ามเส้นประตูไปเรียบร้อยแล้ว

น.55 เชลซีส่ง เอแด็น อาซาร์ ลงสนามแทน ลูคัส ปิอาซอน

น.59 กองเชียร์ "ผีแดง" มาได้เฮอีกครั้ง มีมาได้ประตูแซงนำจากจังหวะที่ นานี่ ทำชิ่งหนึ่งสองกับ อันแดร์สัน หลุดทะลุเข้าเขตโทษฝั่งขวา ก่อนที่จะชิพบอลข้ามตัว ปีเตอร์ เช็ก บอลลอยเข้าประตูไปอย่างเหนือชั้น ให้ แมนฯ ยูฯ นำ 3-2

น.65 เชลซี พลาดโอกาสได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะเล่นลูกเตะมุมสั้น ฆวน มาต้า จ่ายให้ เอแด็น อาซาร์ เปิดบอลเข้าเขตโทษให้กับ วิคเตอร์ โมเซส ขึ้นโหม่งคนเดียวโล่งๆ แต่ข้ามคานอย่างน่าเสียดาย

น.76 เจ้าถิ่นคุมเกมได้แทบทั้งสนาม มีโอกาสลุ้นประตูอีกครั้ง จากจังหวะที่ รามิเรส ลุยเดี่ยวเข้าเขตโทษฝั่งว้าย ก่อนที่จะไหลบอลเข้ากลางให้ วิคเตอร์ โมเซส แต่งบอลยิงด้วยขวาเต็มๆ แต่บอลพุ่งไปตรงตัว ลินเดการ์ด

น.86 เข้าสู่ช่วงท้ายเกม เชลซี บุกหนักมากขึ้น มีโอกาสได้ประตู จากจังหวะที่ ออสการ์ แต่งบอลเข้าขวา ซัดไกล 20 กว่าหลา บอลพุ่งส่ายติดไซด์ก้อย ก่อนที่ ลินเดการ์ด จะปัดทิ้งออกไปได้

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เชลซี เร่งเครื่องจนมาประสบผล เมื่อ สกอตต์ วูตตัน ไปทำฟาวล์ รามิเรส ในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าทันที มอบจุดโทษที่ 2 ให้เจ้าถิ่น ก่อนที่ เอแด็น อาซาร์ จะสังหารเข้าไปไม่พลาด เป็นประตูตีเสมอ 3-3 และจบ 90 นาทีด้วยสกอร์นี้ ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที

ช่วงต่อเวลาพิเศษ นาที 98 เชลซี มาได้ประตูพลิกแซงนำไปเป็น 4-3 จังหวะที่ ไมเคิ่ล คีน กะย้อนคืนให้ ลินเดการ์ด แต่โดน สเตอร์ริดจ์ ฉกเข้าไปยิงง่ายๆ

น.116 เชลซี มาได้อีก 1 ลูก จากจังหวะโต้กลับเร็ว เอแด็น อาซาร์ ไหลบอลให้ รามิเรส แตะหลบ ลินเดการ์ด ยิงเข้าไปง่าย เชลซี นำเป็น 5-3

น.119 ทางฝั่ง แมนฯ ยูฯ มาได้ประตูไล่มาเป็น 4-5 จากจุดโทษของ ไรอัน กิ๊กส์ เป็นประตูที่ 2 ของ "ปีกพ่อมด" ในเกมนี้

จบเกม เชลซี เอาชนะ แมนฯ ยูฯ ไปสุดมันส์ 5-4 ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ ศึกแคปปิตอลวัน คัพ ได้สำเร็จ

รายชื่อผู้เล่ของทั้งสองทีม

เชลซี
ปีเตอร์ เช็ก - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, แกรี่ เคฮิลล์, ดาวิด ลุยซ์, ไรอัน เบอร์ทรานด์ - วิคเตอร์ โมเซส, ออริโอล โรเมอู (ออสการ์ น.72), จอห์น โอบี มิเกล (รามิเรส น.46), ฆวน มาต้า - ลูคัส ปิอาซอน (เอแด็น อาซาร์ น.55), แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
ผู้เล่นสำรอง
เอ็นริเก้ อิลาริโอ - เปาโล แฟร์ไรร่า, มาร์โก มาริน, จอร์จ ซาวิลล์

แมนฯ ยูไนเต็ด
อันเดอร์ส ลินเดการ์ด - ราฟาเอล ดา ซิลวา, สกอตต์ วูตตัน, ไมเคิ่ล คีน, อเล็กซานเดอร์ บุทท์เนอร์ (นิค พาวเวลล์ น.46) - ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์, อันแดร์สัน (ไรอัน ทันนิคลิฟฟ์ น.81), ไรอัน กิ๊กส์ - นานี่, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ, แดนนี่ เวลเบ็ค (เฟเดริโก มาเคด้า น.100)
สำรองไม่ได้ใช้
แซม จอห์นสโตน - เจสซี่ ลินการ์ด, มาร์นิค เวอร์มิล, ร็อบบี้ เบรดี้