แฟนโหวตดร็อกโคตรแข้งสิงห์บลูส์ตลอดกาล

ฟุตบอล : ดร็อกบา คือตำนาน ''สิงห์บลูส์'' แฟนเทใจโหวตให้เป็นแข้งยอดเยี่ยมที่สุดของประวัติศาสตร์สโมสร เจ้าตัวปลื้มเป็นเกียรติสูงสุดของชีวิตตัวเอง ที่มีส่วนสร้างประวัติศาสตร์ให้อดีตต้นสังกัด

ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา อดีตกองหน้าชาวไอวอรี่โคสต์ของ เชลซี หนึ่งในทีมบิ๊กโฟร์ของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ปัจจุบันย้ายไปค้าแข้งกับ เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว ทีมดังจากเวทีไชนิส ซูเปอร์ลีก ประเทศ จีน ยังอยู่ในความทรงจำของแฟนบอล "สิงโตน้ำเงินคราม"

หลังล่าสุดโพลของนิตยสารอย่างเป็นทางการของสโมสรระบุว่า "เดอะ ดร็อก" คือนักเตะที่ได้รับโหวตว่าเป็นแข้งยอดเยี่ยมตลอดกาลของสโมสร นับตั้งแต่มีการก่อตั้งสโมสรมา

โดยการโหวตครั้งนี้เจ้าตัวถูกเสนอชื่อแข่งกับอีก 4 นักเตะชื่อดังของทัพ สิงห์บลูส์ อย่าง แฟร้งค์ แลมพาร์ด, จอห์น เทอรี่ 2 อดีตเพื่อนร่วมทีม และ 2 อดีตนักเตะรุ่นพี่ในทีมอย่าง จานฟรังโก้ โซล่า และ ปีเตอร์ ออสกู้ด

อดีตกองหน้า "สิงห์บลูส์" วัย 34 ปี ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวของตัวเอง หลังทราบผลโหวตดังกล่าวว่า

"ขอขอบคุณสำหรับทุกการโหวตของแฟนๆ ที่มีให้ผม ผมรู้สึกเป็นเกียรติและภูมิใจอย่างยิ่งในฐานะนักเตะผู้ยิ่งใหญ่ของสโมสรที่ผมเคยร่วมทีมมาก่อน การได้รับผลโหวตคู่กับบรรดานักเตะชื่อดังในทีมคือสิ่งที่วิเศษสุดสำหรับผม

เมื่อผมอยู่ที่ เชลซี การเล่นเป็นส่วนหนึ่งของผม ผมมีความสุขจริงๆ ที่มีส่วนสร้างประวัติศาสตร์ของ เชลซี และการได้รับรางวัลนี้ นับเป็นเรื่องอัศจรรย์ใจยิ่ง"

ดร็อกบา เป็นผู้ยิงประตูตีเสมอ 1-1 ในเกมนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาล 2011/12 ที่ เชลซี เสมอกับ บาเยิร์น มิวนิค ยอดทีมเมืองเบียร์ใน 120 นาที ก่อนจะชนะดวลจุดโทษ 4-3 ซึ่งเจ้าตัวก็เป็นผู้ยิงประตูคนสุดท้ายให้ทีมเอาชนะมาได้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

ขณะที่ผลงานของ ดร็อกบา ยามเล่นกับ เชลซี คือการย้ายมาร่วมทีมเมื่อปี 2004 ลงเล่นรวมทุกรายการ 341 ยิงประตูได้ 157 ประตู และผ่านบอลให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูได้ 71 ครั้ง พาทีมคว้าความสำเร็จอื่นๆ นอกจากถ้วย "บิ๊กเอียร์" คือ

พรีเมียร์ลีก 3 สมัย (2004-05, 2005-06, 2009-10), เอฟเอ คัพ 4 สมัย (2006-07, 2008-09, 2009-10, 2011-12), ลีก คัพ 2 สมัย (2004-05, 2006-07)

พร้อมทั้งทำสถิติเป็นนักเตะเชื่อสายแอฟริกันคนแรกที่ยิงประตูในพรีเมียร์ลีกถึง 100 ประตู ควบคู่ไปกับรางวัล "โกลเด้น บูธ" หรือดาวยิงสูงสุดของยุโรป 2006/07 อีกด้วย

ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา