สุวัจน์ ย้ำฟีฟ่ามีสิทธิ์ไม่ให้ใช้หนองจอก ชี้มีแผนรองรับ

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ในฐานะประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันฯเปิดเผยถึง กรณีฟีฟ่าสั่งงดใช้สนามแบงค็อก ฟุตซอล อารีน่า หนองจอก ในการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 เป็นไปตามมาตรฐานการแข่งขันระดับโลก ทางฝ่ายจัดฯ ได้เตรียมแผนแก้ไขไว้ตั้งแต่แรก ตอนนี้ขอดำเนินการจัดการแข่งขันให้ดีที่สุดในอีก 3 สนามที่เหลือทั้งอินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก, นิมิบุตร และ โคราช ชาติชาย ฮอลล์ จ.นครราชสีมา สุดปลื้ม คนไทยชมจนตั๋วหมดประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันฟุตซอลโลก 2012 เผยว่า "กรณี สนามบางกอก ฟุตซอล อารีน่า หนองจอก ทางฟีฟ่า ให้เหตุผลว่าที่ไม่สามารถใช้ได้เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ก็ไม่มีปัญหา เพราะแผนการที่เตรียมไว้แต่แรก เราได้เตรียมความพร้อมของสนามที่จะทดแทนไว้อยู่แล้ว มันอยู่ในแผนตั้งแต่แรก ที่เราตั้งไว้ว่า หากกรณีสนามแบงค็อก ฟุตซอล อารีน่า หนองจอก สร้างเสร็จไม่ทัน นี่แค่ทำตามแผนที่ได้แก้ไขไว้เท่านั้น การจัดการแข่งขันรายการระดับโลกรายการนี้ ต้องขึ้นอยู่ความมาตรฐานและความพอใจของฟีฟ่า เป็นหลัก ไม่ใช่เกมทางการเมืองแน่นอน ซึ่งยอมรับว่าทุกๆ ฝ่ายต้องการให้สนามสร้างเสร็จและได้ใช้ เพื่อเป็นหน้าเป็นตากับประเทศไทย กับงบประมาณที่ทุ่มเทในการก่อสร้าง 1,239 ล้านบาท กับสนามฟุตซอลระดับโลกที่ได้มาตรฐาน แต่เมื่อไม่สามารถใช้ได้ เราก็คงต้องยอมรับต่อไป โดยการสร้างสนามเป็นหน้าที่ของ กทม. เนื่องจาก กทม.เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการนี้""ตอนนี้ ไทย ในฐานะเจ้าภาพฟุตซอลชิงแชมป์โลก ทำได้ดีที่สุด ก็คือ การจัดการแข่งขันทั้ง 3 สนาม ทั้งอินดอร์ สเตเดียม หัวหมาก นิมิบุตร และ โคราช ชาติชาย ฮอลล์ จ.นครราชสีมา ให้ได้ตามมาตรฐานที่ฟีฟ่ากำหนด ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีคำตำหนิติเตียน ถึงการจัดการแข่งขัน ขอให้เราจัดการแข่งขันให้ประสบความสำเร็จ ได้รับคำชมเชย ก็ถือว่าโอเคแล้ว สิ่งที่น่าชื่นชมก็คือ การแข่งขันฟุตซอลโลกครั้งนี้ ได้รับเสียงตอบรับจากแฟนๆ กีฬาชาวไทย จากตอนแรกแทบไม่มีคนซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขัน ตอนนี้ได้รับเสียงตอบรับและเสียงชื่นชมยินดีกันอย่างมากมาย โดยเฉพาะการเป็นกำลังใจให้กับนักกีฬาฟุตซอลทีมชาติไทย"