ผู้ว่ากทม.เปิดใจ! หลังฟีฟ่าไม่อนุมัติให้ใช้แบงค็อก อารีน่า

ผู้ว่ากทม.เปิดใจ! หลังฟีฟ่าไม่อนุมัติให้ใช้แบงค็อก อารีน่า

ผู้ว่ากทม.เปิดใจ! หลังฟีฟ่าไม่อนุมัติให้ใช้แบงค็อก อารีน่า
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ออกมาเปิดใจจากที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟ่า) ประกาศไม่ให้ใช้สังเวียนแบงค็อก ฟุตซอลอารีน่า หนองจอกเเห่งนี้ได้ ใช้ทำการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพ

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา (7 พ.ย.55) ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดแถลงข่าวที่สนามแบงค็อก ฟุตซอลอารีน่า หนองจอก หลังจากที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ประกาศไม่ให้ใช้สังเวียนเเห่งนี้ได้ ใช้ทำการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์โลก 2012 ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 1-18 พ.ย.นี้

หลังจากที่ฟีฟ่าประกาศออกมาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาให้ ยกเลิกโปรแกรมแข่งขันที่สนามแบงค็อก ฟุตซอล อารีน่า ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับศึกฟุตซอลโลก 2012 ด้วยงบประมาณถึง 1,290 ล้านบาท เนื่องจากไม่มั่นใจในเรื่องความปลอดภัยของสนามเเห่งนี้ แม้ว่าจะมีคำสั่งให้ปิดอัฒจันทร์ชั้น 4 และ 5 ไปแล้วในก่อนหน้านี้ก็ตาม

โดย ทาง ผู้ว่าฯ กทม. ก็ออกมาแถลงว่า ทางกทม.ยังไม่ได้รับหนังสือชี้แจงเหตุผลอย่างเป็นทางการจากฟีฟ่า จึงทำให้ยังต้องคาดเดาเอาเองซึ่งโดยที่ผมเชื่อว่ามี 2 ประเด็นใหญ่ๆ ที่สั่งยกเลิกใช้งานสนามแบงค็อก ฟุตซอลอารีน่า คือเรื่องของความล่าช้าในการก่อสร้างสนาม และความปลอดภัยของสนาม

"ในเรื่องของความล่าช้านั้นเรายอมรับว่าเกิดขึ้นได้เพราะทางกทม.ได้รับอนุมัติ ให้ก่อสร้างในช่วงเดือนพ.ย.ปี 2011 ซึ่งตอนนั้นบ้านเมืองก็อยู่ในสภาวะน้ำท่วม ประกอบกับการหาผู้รับเหมามาทำงานในช่วงเวลากระชั้นชิดแบบนี้ก็เป็นเรื่องที่ ยาก ซึ่งโดยปกติแล้วการสร้างอาคารขนาดใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ 10 ไร่บนพื้นที่ใช้สอย 3 หมื่นตารางเมตร จำเป็นต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 500 วันทีเดียว แต่เเล้วทางเราก็หาผู้รับเหมาได้และก็มีเวลาให้เขาทำงานเพียงเเค่ 270 เพื่อให้สนามได้ใช้แข่งขันได้ ซึ่งเราก็สามารถสร้างเสร็จได้ภายใน 286 วัน"

"สำหรับในการล่าช้า 16 วันถือเป็นเรื่องปกติมาก ทางเราสามารถทำงานให้เสร็จสิ้นก่อนการแข่งขัน 1 สัปดาห์ซึ่งก็มีเวลาที่จะตรวจสอบและแก้ไข ซึ่งเราไม่ได้ล่าช้าแบบไร้เหตุผลหรือว่าล่าช้าจนเกินกว่าการแข่งขันจะมีขึ้น มีเพียงเเค่ห้องรับแขกของฟีฟ่าเท่านั้นที่เรายังทำไม่เสร็จสมบูรณ์และดูเขา จะไม่พอใจในเรื่องนี้ แต่หากฟีฟ่ามีน้ำใจซักหน่อยก็คงเข้าใจในเหตุจำเป็นของเราได้ "

ด้าน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่ออีกว่า "สำหรับเรื่องความปลอดภัยที่เป็นประเด็นใหญ่ในเวลานี้นั้น เราก็มีหนังสือรับรองจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ตามที่ฟีฟ่าเรียกกำหนดมา และเมื่อวันที่ 5 พ.ย.หรือก่อนที่ทางฟีฟ่าจะประกาศห้ามใช้ 1 วัน ทางเราได้จัดทดสอบอพยพคนจำนวน 650 คนภายในระยะเวลาเเค่ 3.40 วินาที ซึ่งก็ดีกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในระยะเวลา 5.47 วินาที นอกจากนี้เรายังร่วมมือกับฟีฟ่าทุกกรณีทั้งการทุบคอนกรีตบนอัฒจันทร์เพื่อเปิดทางเดิน หรือเรื่องของพื้นสนาม ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ฟีฟ่าก็ไม่ได้ดูข้องใจเรื่องความปลอดภัยแต่อย่างใด"

"เราจึงประหลาดใจมากกับคำเเถลงของฟีฟ่าทีออกมา เพราะส่วนที่ทางฟีฟ่าร้องขอนั้น เราก็ได้ทำไปหมดแล้ว ซึ่งเวลานี้ผมรู้สึกเหมือนนักมวยที่ยังไม่ได้ขึ้นเวทีแล้วโดนหมัดที่ไม่รู้ มาจากไหนตรงเข้าหน้า แต่ผมยังไม่น็อกครับ ผมน็อกยาก" ผู้ว่าฯ กทม กล่าว

นอกจากนี้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ยังยืนยันว่า กทม.จะแสดงมาตรฐานความปลอดภัยของสนามแบงค็อก ฟุตซอล อารีน่า ให้ฟีฟ่า ได้เห็นด้วยการจัดคอนเสิร์ต พร้อมกับเกมกระชับมิตรของทีมฟุตซอลดาราในวันเสาร์ที่ 10 พ.ย.นี้ พร้อมกับเปิดอัฒจันทร์ชั้น 4 และ 5 ที่เคยถูกสั่งห้ามใช้อีกด้วย

"โดยเราจะแสดงความยิ่งใหญ่ของสนามแข่งขันที่อยู่ในระดับ 1 ใน 5 ของเอเชียให้ทุกคนได้เห็น ในวันที่ 10 พ.ย.นี้ จะมีคนเข้ามาชมไม่ต่ำกว่า 10,000 คน ซึงก็ผมภูมิใจที่กทม.มีสนามให้ชาวเมืองหลวง โดยเราไม่ได้สร้างให้กับฟีฟ่า แต่เราสร้างให้พี่น้องชาวกทม. ได้ใช้กัน สำหรับในส่วนที่เหลือของการการก่อสร้างนั้น เราก็จะดำเนินการสร้างให้เสร็จสิ้นตามกำหนดการเดิมที่วางไว้คือเดือนเม.ย. ปี 2013"

สำหรับการเเถลงข่าวในวันนี้ของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่สนามแบงค็อก ฟุตซอลอารีน่า หนองจอก ก็มีประชาชนเดินทางมามอบช่อดอกไม้เเละค่อยเป็นกำลังใจให้อย่างมากมายเลยที่เดียว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook