เช็กบิลพรีเมียร์ลีก(วีก10)
สกอร์ที่เกิดขึ้นในเกมพรีเมียร์ ลีก เริ่มบ่อยมากขึ้นที่เรารู้สึกได้เลยว่ามันชักจะเป็นสกอร์ของเทนนิสเข้าไปทุกที ทั้งที่แมตช์เหล่านั้นเป็นเกมที่ทีมใหญ่เจอกันด้วยซ้ำไป แมนเชสเตอร์ถล่มอาร์เซนอล 8-2,แมนเชสเตอร์ ซิตี้จัดการผีแดงแบบราบคาบ 6-1หรืออาร์เซนอลบุกไปกระหน่ำเชลซีถึงบ้าน 5-3
ชอบครับยิงกันเยอะๆ ยิงไปเลย ถูกใจคอบอลอย่างเราอยู่แล้ว เพียงแต่ว่านาทีนั้นจะเชียร์ข้างไหนเท่านั้นเอง
จอห์น เทอร์รี่...
สร้างความปวดเศียรเวียนเกล้าได้ดีทีเดียว ทั้งเรื่องราวนอกสนามและในสนาม ทำเอาฟาบิโอ คาเปลโล่ กุนซือทีมชาติเริ่มกุมกบาลบ้างแล้ว เพราะคู่เซ็นเตอร์ชักไว้ใจไม่ได้มากขึ้นทุกวัน ริโอ เฟอร์ดินานด์ นั่งดูเป็นส่วนใหญ่ในขณะที่เทอร์รี่เริ่มมีอาการเป๋ให้เห็นเหมือนกัน
ไม่ใช่แค่ความผิดพลาดในเกมเจอกับอาร์เซนอล นั่นเพราะมาลูด้ามันส่งคืนหลังแบบแทงกั๊กแบบนั้นมีสิทธิ์เสียหายอยู่แล้ว แต่ถ้าจะสังเกตกันให้ลึกไปกว่านั้น เกมในพรีเมียร์ ลีกนอกจากนัดออกสตาร์ตที่เจ๊าสโต๊ค0-0 นับจากนั้นเชลซีไม่มีคลีนชีตอีกเลย
กุนซือวิลลาส โบอาส บอกว่าจะสร้างเชลซีที่เล่นเกมรุก บนพื้นฐานของเกมรับที่มูรินโญ่สร้างเอาไว้ แต่ถ้าดูจากผลงานที่ผ่านมาแทบจะไม่มีคลีนชีตแบบนี้ชักมีเรื่องให้กังวลเช่นกัน
เฟร์นานโด ตอร์เรส...
เดิมทีให้จับตาว่าเฟร์นานโด ตอร์เรสกับโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ใครจะช่วยทีมได้มากกว่ากัน และเกมน่าจะวัดกันทั้งคู่นี่แหละ ที่สุดแล้วนัดสำคัญครั้งนี้ ฟาน เพอร์ซี่คือพระเอก ช่วยให้ทีมเก็บสามแต้มได้ พร้อมกับแฮตทริกของตัวเอง ในขณะที่เฟร์นานโด ตอร์เรส สิ้นท่าจริงๆในนัดนี้
โรบิน ฟาน เพอร์ซี่...
ขาดโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ขาดใจแน่นอนสำหรับอาร์เซนอล ความพยายามในการเดินหน้ารักษาสถานภาพของตัวเองเอาไว้ให้ได้ลุ้นพื้นที่ที่ต้องการต้องอาศัยฟาน เพอร์ซี่ เป็นหลัก หรือจะเรียกให้ถูกคงต้องบอกว่าเป็นแรงบันดาลใจทั้งหมดของสโมสรในตอนนี้
ผลงานในปี 2011 ลงเล่นในพรีเมียร์ ลีก 27 นัดยิงไป 28 ประตู บ่งบอกเรื่องราวได้ทั้งหมด และเป็นตัวยืนยันอย่างชัดเจนจนไม่รู้ว่าจะชัดไปกว่านี้ได้อีกหรือเปล่าว่าอาร์เซนอลและอาร์แซน เวนเกอร์ ต้องรักษาโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ด้วยการกล่อมให้เซ็นสัญญาฉบับใหม่กับสโมสรให้ได้
แชร์วินโญ่...
ไม่มีอะไรมาก ฟอร์มวูบวาบสร้างความกังวลให้กับแนวรับของเชลซีมากทีเดียว แต่ที่แชร์วินโญ่ต้องรีบปรับให้มากหน่อย เห็นจะเป็นเรื่องของการใช้โอกาส อย่าให้สิ้นเปลือง อย่าให้มันสุรุ่ยสุร่ายมากเกินไป
เพราะนั่นเท่ากับว่าโยนภาระไปให้ฟาน เพอร์ซี่ มากยิ่งขึ้น โชคดีที่ในเกมอัดเชลซีมีสกอร์จากคอื่นๆไม่ว่าจะเป็นธีโอ วัลค็อตต์หรือ ฟาน เพอร์ซี่ และมีแอสซิสต์จากแชร์วินโญ่นั่นแหละ ทว่ายามที่มีโอกาสต้องให้มันพลาดน้อยที่สุดจำไว้
เนมันย่า วีดิช...
กัปตันผีแดง แจกแจงความสำคัญด้วยผลงานที่ทีมต้องการได้อีกครั้งหนึ่ง แน่นอนว่าการสร้างสรรค์โอกาสและกดดันเกมรับของผีแดงรุนแรงใช่ย่อย แต่เพราะความแกร่งของวีดิชช่วยทีมเอาไว้ได้เป็นอย่างดีเยี่ยม จำเป็นอย่างยิ่งที่เฟอร์กี้และทีมงานต้องดูแลวีดิชให้ดีเพื่อให้อยู่ในสภาพที่ฟิตเต็มที่ตลอดเส้นทาง
แกเร็ธ เบล...
แค่จัดคนไว้รับมือแกเร็ธ เบลก็ถือว่าเหนื่อยแล้ว แต่ถ้าเปิดพื้นที่ให้เล่นสบายขึ้น นั่นยิ่งเป็นเรื่องน่าเหนื่อยใจ 2 ประตูที่ซัดคิวพีอาร์ บ่งบอกแล้วว่าต้องระวังเขามากแค่ไหน โยเฉพาะประตูที่ 2 ของเบลและเป็นประตูปิดกล่องของสเปอร์สถือได้เลยว่าเป็นสกอร์สุดยอดประจำสัปดาห์
โบลตัน...
ฝันร้ายฝังรากลึกลงไปในความรู้สึกของโอเว่น คอยล์มากขึ้นทุกที ก่อนหน้านี้ว่ากันว่าช่วงออกสตาร์ตเจอแต่ทีมใหญ่จนเสียศูนย์ และถือเป็นฝันร้ายในช่วงออกสตาร์ตของสโมสรเลยทีเดียว ทว่าเมื่อผ่านช่วงเวลานั้นมา ต่างคาดหวังกันว่าจะลืมฝันร้ายดังกล่าวเสียที
ที่ไหนได้เจอกับทีมที่สู้ได้และสามารถคาดหวังเรื่องแต้ม โบลตันของโอเว่น คอยล์ ยังคงอยู่กับการฝันร้ายนั้นไม่เปลี่ยนแปลง เควิน เดวิส เริ่มหมดสภาพและช่วยทีมได้น้อยลงไปเรื่อยๆ นั่นทำให้โอเว่น คอยล์ต้องคิดถึงและตั้งความหวังไปที่สจ๊วร์ต โฮลเด้นมากทีเดียว ถ้าสถานการณ์ตรงกลางสนามไม่มีอะไรที่คาดหวังได้ก็คงจบกัน เพราะฉะนั้นโฮลเด้นคงเป็นนักเตะที่โอเว่น คอยล์ต้องการและคาดหวังให้ฟิตเต็มร้อย
เวย์น เฮนเนสซี่...
บุญมีฝีมือมี แต่โดนกรรมมันตามมาบังเอาไว้เลยซวยไป บอกได้เลยว่าช่วงครึ่งเวลาแรก เฮนเนสซี่ช่วยวูล์ฟแฮมป์ตันเอาไว้มาก ทว่าความผิดพลาดในครึ่งหลังที่เขาเป็นคนสร้างมันขึ้นมาเอง ทำให้ทีมต้องชดใช้กันเลยทีเดียว
จากเหตุการณ์ที่เฮนเนสซี่ไม่ละเอียดและไม่ระวังมากพอ แตะบอลห่างตัวมากไปจนกุน อาเกโร่ วิ่งเข้ามาบล็อกจังหวะเปิดบอลเอาไว้ได้ ก่อนบอลจะกระดอนไปเข้าทางเอดิน เชโก้ เปิดสกอร์แรกให้กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้
สถานการณ์นั้นเพียงพอที่จะทำให้เรือใบเล่นง่ายขึ้น ถามหาสกอร์ที่ 2 ได้ดียิ่งขึ้น และเพียงพอที่จะทำให้เพื่อนร่วมทีมใจหายหลังจากช่วยกันต้านสุดฤทธิ์ในครึ่งแรก