เริ่มต้นกันใหม่ที่ไซตามะ
ผ่านพ้นไปแบบบอบช้ำ แต่ได้ใจ สำหรับผลงานของทีมชาติไทย ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก โซนเอเซีย ในรอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่มบี
ความบอบช้ำ คงไม่ต้องซ้ำหรือขยี้กันให้เถิดกันไปใหญ่ สิ่งที่เห็นจากภาพรวม คือทีมไทยของเรา ยังต้องพัฒนาและปรับปรุงกันต่อไป เมื่อลงสนาม เจอกับ "ของจริง" ยิ่งเดิมพันด้วยการไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย มันยิ่งใหญ่เหลือเกิน สำหรับนักฟุตบอลทุกคน บอลโลกใครก็อยากไป ดังนั้น ไม่แปลกที่จะบอกว่า นี่คือการแข่งขันที่โหดที่สุดแล้ว ในระดับทวีปเอเซีย
จากผลงานที่เพิ่งผ่านไป ทีมชาติไทยต้องตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ทั้งสองเกมติดต่อกัน แม้ว่าจะพยายามลุ้นเอาใจช่วย ขุนพลช้างศึก แค่ไหน แต่ในใจลึกๆ ก็เปิดพื้นกว้างยอมรับผลการแข่งขันที่ออกมาอยู่แล้ว
ใช่ครับ เราต้องยอมรับว่า วันนี้พวกเรายังห่างไกลจากคู่แข่งอีกหลายขุม แต่มุมบวกที่เห็นจากเกมนี้ คือนักเตะทุกคน ทุ่มเทกันอย่างเต็มที่ การเล่นในบางจังหวะที่ผิดพลาดไปบ้างนั้น อยากให้มองว่า สถานการณ์ก่อนเกม
บังคับและกดดันทีมไทยมากพอสมควร เราต้องการลุ้น 3 แต้มทุกนัด เพื่อหวังลุ้นเข้ารอบต่อไป ทำให้ต้องวางแผนการเล่นแบบ "ฝืน" และ "สวนทาง" กับสไตล์ถนัดของทีม จะรับเต็มตัวก็ไม่ได้ เพราะถึงจะยันเสมอได้ ก็ไม่มีประโยชน์อะไรกับการลุ้นเข้ารอบต่อไป จะบุกเต็มตัว ก็กลัวโดนสวนเละ เพราะคู่แข่งแต่ละทีมในครั้งนี้ ไม่ว่า ซาอุดิ อาระเบีย หรือ ญี่ปุ่น ประสบการณ์ และคุณภาพเกมของพวกเขา เป็นสิ่งที่เรายอมรับกันดีอยู่แล้ว
อย่างที่เกริ่นไว้แหละครับ แม้จะบอบช้ำแต่ก็ได้คุณค่าทางจิตใจนะ ผมเชื่อว่า แฟนบอลส่วนใหญ่มีความสุข เพราะแม้ว่าทีมจะแพ้ แต่นักเตะก็เล่นกันอย่างเต็มที่สมศักดิ์ศรี ช่าง...มันเถอะ สกอร์ จะ 0-3 ที่กรุงเทพ หรือ 4-0 ที่ไซตามะ แต่การได้เห็นนักเตะวิ่งสู้ ช่วยกันเล่นแบบนี้ เราก็พร้อมจะส่งใจเชียร์กันต่อไปอยู่แล้ว ส่วนในมุมของนักเตะ ผมเชื่อมั่นว่า นักเตะเขารู้แล้วล่ะ ว่าแฟนบอลรักทีมชาติไทยทีมนี้มากแค่ไหน
เอาล่ะเรื่องที่ผ่านมา คงมีคนพูดถึงกันเยอะแล้ว เอาเป็นว่า จากนี้ไป แม้ว่าจะตกรอบแล้ว ส่วนตัวมองว่านี่เป็นโอกาส ที่ทีมชาติของเรา จะได้กลับมาเล่นแบบไร้ความกดดัน ในเกมที่เหลือ เพื่อแก้ตัว อีกครั้ง
ทีมช้างศึกมีโปรแกรมกลับมาลงสนามอีกครั้ง ในวันที่ 6 มิถุนายน ลงสนามอุ่นเครื่อง ไปเยือน อุซเบกิสถาน หลังจากนั้น วันที่ 13 มิถุนายน จะได้กลับมาเล่นในเกม คัดเลือกฟุตบอลโลก เปิดบ้านพบกับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ ยูเออี จากนั้น 31 สิงหาคม เล่นในบ้านอีกเกม พบกับ อิรัก ก่อนที่จะปิดท้าย ด้วยการออกไปเยือน ออสเตรเลีย ในวันที่ 5 กันยายน
เกมกับอุซเบกิสถาน เกมอุ่นเครื่อง น่าจะเป็นโอกาสที่แฟนบอลจะได้เห็นนักเตะทีมชาติ หน้าใหม่ๆ ได้มีโอกาสลงสนาม
ส่วนเกมคัดเลือกฟุตบอลโลกอีก 3 เกมที่เหลือของทีมไทย ล้วนมีความสำคัญต่อสถานการณ์ในกลุ่ม เพราะทีมชาติไทย กลายเป็นทีมตัวแปรที่สามารถกำหนดชะตาการเข้ารอบของทีมอื่นๆไปเรียบร้อยแล้ว
เกมแรกกับ ยูเออี ที่มีคะแนนเป็นอันดับที่ 4 ของกลุ่ม ยูเออี ต้องการชนะเพื่อได้ลุ้นต่อ ขณะที่เราได้เล่นในบ้านแบบไร้ความกดดัน ในขณะที่เกมต่อมากับอิรัก ยังเชื่อว่า เกมจะสูสี เพราะระยะหลัง ไม่ว่าเจอกันที่ไหน ก็เล่นกันได้อย่างสนุกตลอด ส่วนเกมเยือนออสเตรเลีย แน่นอน ว่าพวกเขาอยากแก้มือหลังจากบุกมาเสียหน้า ทำได้แค่เสมอกับเรา 2-2 เมื่อปีที่ผ่านมา ดังนั้นพวกเขาต้องการชัยชนะอย่างสวยงามเท่านั้น บอกตรงๆ จะเสียวสุดๆก็เกมสุดท้ายนี้ล่ะครับ แต่ถ้าตั้งรับแล้วโต้ดีๆ ก็อาจมีเฮได้เหมือนกัน
ที่ร่ายยาวมาทั้งหมด ก็ไม่มีอะไรมากครับ อยากให้กำลังใจคนทำงาน รวมถึงกองเชียร์ทุกคนว่า สู้กันต่อไปครับ ยังไง ทีมชาติไทย ก็คือทีมขวัญใจอันดับ 1 ตลอดกาลของคนไทย ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนบอลของทีมไหน แต่เมื่อถึงเวลาวาระของทีมชาติ เราก็จะกลับมารวมตัวเชียร์ไทยด้วยกันอีกครั้ง
“บอลชายไทยจะไปบอลโลก” มีคนถามว่า เชื่อแบบนั้นอยู่หรือเปล่า ผมตอบตรงเลยครับว่า “เชื่อ” ใช่ครับเราจะไปบอลโลก แน่นอนในอนาคตอันใกล้ แต่การจะไปถึงตรงนั้น ทุกคนคงต้องรวมแรงร่วมใจกัน ทำหน้าที่ของตัวเองให้ถึงที่สุด วางแผนกันดีๆ ทำงานเป็นทีม ไม่มีใครใหญ่กว่าใคร ผลประโยชน์ของทีมอยู่เหนือสิ่งอื่นใด ทำได้อย่างนี้ บอลโลกไม่น่าจะไกลเกินฝันครับ …