เช็กบิลแมนเชสเตอร์???
อยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากซะแล้วสำหรับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หลังจากที่ออกไปพ่ายให้กับนาโปลี จนทำให้ความหวังเข้าไปเล่นในรอบน็อกเอาต์ไม่ได้อยู่ในกำมือของตัวเอง ต้องลุ้นกันหลายซับหลายซ้อน
นั่นหมายความว่าการลงทุนมหาศาลในรอบ 3 ปีที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้ไม่สามารถการันตีความสำเร็จในถ้วยยุโรปได้เลยแม้ว่าเจ้าของทีมพร้อมและยินดีที่จะรับกับผลประกอบการที่ขาดทุนมหาศาลแบบหน้าชื่นตาบาน
เป็นความผิดพลาดที่เรียกความเจ็บปวดได้เป็นอย่างดี เพราะถ้าผลการแข่งขันแตกต่างไปจากนี้ทุกอย่างเป็นใจไปทั้งหมดทั้งมวล
โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือเรือใบจะยังคงไม่ยอมความ ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ เป็นคำพูดที่น่าจะปลอบใจตัวเองและลูกทีมมากกว่า เพราะสถานการณ์มันลำบากลำบนจริงๆ
นัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่มเรือใบเจอกับบาเยิร์น มิวนิค ที่เข้ารอบไปเรียบร้อยแล้ว โดยลูกทีมของมันชินี่ต้องชนะสถานเดียวเท่านั้น ไม่มีอย่างอื่นให้เลือก เท่านั้นยังไม่พอต้องลุ้นให้นาโปลีไม่ชนะบีญาร์เรอัลที่ตกรอบไปแล้วอีกด้วย
ชัดเจนเลยว่าโอกาสมันเบาบางเป็นอย่างยิ่ง
โรแบร์โต้ มันชินี่ พยายามที่จะสร้างทีมโดยเริ่มจากสร้างเกมรับให้เหนียวแน่นตามสไตล์ของตัวเองก่อน ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมาเห็นชัดตาว่ามันชินี่ทำอย่างนั้นจริงๆ ก่อนจะเติมเกมรุกให้หวือหวาและสร้างความบันเทิงเริงใจให้แฟนบอลตามลำดับ
รากฐานของแต่ละทีมมักจะสร้างกันอย่างนั้น ถ้าเกมรับยังไม่เหนียวแน่นมากพอ ดันไปลงทุนกับเกมรุกมันจะพังได้ง่ายๆ ผลปรากฏออกมาได้อย่างที่ต้องการด้วยผลงานของทีมในพรีเมียร์ ลีก
การตอกย้ำความสมบูรณ์แบบของเรือใบมีให้พร้อมเลยด้วยแมตช์ที่ถล่มผีแดงจนอับอายกันไปทั้งเมือง ทว่านั่นยังไม่เพียงพอต่อเกมระดับยุโรปที่มีแต่พวกเขี้ยวๆทั้งสิ้น
หลายอย่างแตกต่างออกไป แน่นอนว่ามันชินี่รู้ดีเกิดอะไรขึ้นบ้าง พร้อมไม่พร้อมแค่ไหนกับเกมในระดับนี้มีประสบการณ์กับอินเตอร์มิลานมาแล้ว
เกมรับที่พยายามสร้างรากฐานให้มั่นคงมาก่อนหน้านี้และพร้อมที่จะสร้างสถานการณ์ที่มีความหมายในพรีเมียร์ ลีกได้ แต่ทว่าดีพอหรือยังกับเกมที่มีมาตรฐานสูงกว่า
เมื่อพลาดให้เห็นก็ต้องมีคำถามตามมาเรื่องการวางตำแหน่งยาย่า ตูเร่ หน้าที่ที่แท้จริงคืออะไรกันแน่ ถ้าเน้นการสนับสนุนเกมรุกก็โอเคถือว่าได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าวางตัวให้ปกป้องเกมรับด้วย ตรงนี้มีปัญหาแน่ เพราะการร่วมงานกันระหว่างยาย่า ตูเร่กับไนเจล เดอ ยอง ก่อนหน้านี้มีความเห็นในหลายจุดว่าไม่น่าจะเวิร์กเท่าไหร่
ในพรีเมียร์ ลีก มันมีปัจจัยอื่นมากมายที่ทำให้เรือใบแล่นฉิวแบบสบายอารมณ์ แต่กับเกมในแชมเปี้ยนส์ ลีก รายละเอียดปลีกย่อยที่ไม่สามารถมองข้ามไปได้มันมีเยอะกว่า
ถ้าเจอกับพวกตัวรุกเขี้ยวๆ เร็วๆ ดาหน้าเข้ามาพร้อมๆกันโดยการเล่นแบบไม่เห็นแก่ตัวเหมือนที่นักเตะนาโปลีแสดงให้เห็น เป็นปัญหาของเรือใบได้เหมือนกัน ที่แนวป้องกันมันไม่พร้อมและลงตัวอย่างที่ควรจะเป็น
อย่างไรก็ตามทีถ้าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะตกรอบแบ่งกลุ่มก็ไม่น่าจะใช่เรื่องใหญ่อะไรมากมาย ในสายตาของคอบอลทั่วไป เพราะนี่เป็นฤดูกาลแรกในถ้วยใหญ่ของยุโรป แต่สำหรับบรรดาเจ้าของทีมทั้งหลายอาจจะได้คิดกันบ้างว่า อำนาจที่มีอยู่พร้อมนั้นบางครั้งก็ไม่อาจทำอะไรได้อย่างใจเช่นกัน
ในขณะที่เรือใบขยับเข้าใกล้ความผิดหวังเต็มที ผีแดงก็ไม่แตกต่างไปมากนัก เพียงแต่โอกาสยังคงอยู่ในการควบคุมของตัวเอง นัดสุดท้ายไปเยือนบาเซิลขอแค่ไม่แพ้ก็เพียงพอต่อการเข้ารอบน็อกเอาต์ แต่ถ้าแพ้ขึ้นมาบ้านพังเหมือนกัน
ฟิล โจนส์ ยังคงสร้างความเป็นข่าวให้เขียนถึงกันได้แทบทุกวี่ทุกวัน ครั้งนี้อีกเช่นกัน แต่เป็นการสร้างข่าวในมุมกลับจากที่เคยเป็นด้วยการทำเข้าประตูตัวเอง
ผีแดงมีปัญหากับเกมรับเช่นเดียวกับเรือใบ แผงหลังยังไม่เป็นปึกแผ่นมากพอ แค่โอกาสไม่กี่ครั้งของเบนฟิก้า เพียงพอต่อการสร้างผลงานให้เกิดขึ้นพร้อมกับการผ่านเข้ารอบไปแบบแน่นอนไม่ต้องลุ้นอะไรให้เหนื่อยใจ แถมมีสิทธิ์เป็นแชมป์กลุ่มอีกต่างหาก
สิ่งหนึ่งที่ผีแดงต้องคิดถึงแน่นอนกับผลที่เกิดขึ้นในโอลด์ แทรฟฟอร์ด ก็คือคิดถึงเวย์น รูนี่ย์ น่าเสียดายที่มีอาการบาดเจ็บจนไม่สามารถลงช่วยทีมได้ นั่นเพราะว่าถ้ามีรูนี่ย์อยู่ในเกม สามารถช่วยทีมได้หลากหลายมาก
จะเป็นเกมรุกซึ่งคือหน้าที่หลัก หรือจะถอยลงมาเล่นเป็นมิดฟิลด์ก็ยังได้ นอกจากนี้พละกำลังที่เหลือเฟือของรูนี่ย์ ยังมีการถอยจนสุดเส้นหลังเพื่อลงมาช่วยเกมรับ
แฟนผีแดงคนไหนไม่คิดถึงรูนี่ย์ก็คงใจจืดใจดำเกินไปแล้ว ช่วยทีมได้สารพัดแบบนี้ขาดหายไปเมื่อไหร่มันอดคิดถึงไม่ได้ทุกครั้งไป
อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยอมรับว่าทั้ง 2 ประตูที่เสียไปนั้นมันค่อนข้างจะไม่เข้าท่า ประตูแรกทำเข้าประตูตัวเอง ลูกที่ 2 ดันเคลียร์บอลกันไม่ขาด ทว่าเฟอร์กี้ก็ไม่อยากโทษลูกทีมมากเดี๋ยวจะเสียความมั่นใจกันไปซะเปล่า ยังคงมั่นใจไม่เสื่อมคลายว่าสามารถผ่านเข้ารอบน็อกเอาต์ได้ตามเป้าหมายเบื้องต้น
จริงๆแล้วเกมคู่นี้เป็นที่คาดหมายกันว่าอาจจะไม่น่าสนุกสักเท่าไหร่ แต่สร้างความแปลกใจได้ดีทีเดียวที่สามารถเรียกความสนุกสนานได้มากกว่าที่คาดหวังเอาไว้เยอะ
เพียงแต่สกอร์มันไม่เป็นไปอย่างที่ผีแดงคาดหวัง นั่นทำให้ยังคงต้องเหนื่อยกันต่อไปประเภทพลาดไม่ได้เพราะนั่นหมายถึงตายกันเลยทีเดียว
ทั้ง 2 ทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ ยังคงต้องต่อสู้ต่อไปจนหยดสุดท้ายที่เหลืออยู่อีกนัด ทว่าสถานการณ์แตกต่างกัน ในช่วงเวลาที่ผีแดงยังคงสามารถตัดสินชะตาได้ด้วยตัวเอง เรือใบสีฟ้ามองหาจมูกคนอื่นไว้ช่วยหายใจเพราะอาศัยแค่จมูกตัวเอง
ไม่เพียงพอต่อความอยู่รอดในถ้วยใหญ่ของยุโรปฤดูกาลนี้
เรื่องโดย "ดามัน"
คอลัมน์ ทดเจ็บ 3 นาที นสพ.กีฬารายวันฮอตสกอร์