บอลไทย...ไม่ต้องอาย?
กลับสู่โลกความจริงของวงการบอลไทย ณ ยุคนี้ พ.ศ.นี้ ที่ไม่เคยมี “มาตรฐาน” และสร้างความ “เชื่อมั่น” ให้กับแฟนลูกหนัง
สถิติตกรอบแรกซีเกมส์ 2 สมัยซ้อน มีเพียงแค่การน้อมคารวะรับผิดชอบเหมือนให้มันผ่านเลยไป แต่ไม่เคยมีการสร้างหลักประกันที่มั่นใจในอีก 2 ปีข้างหน้า
ประกาศกันมาให้ชัดๆ
เพราะหากทำ “แฮตทริก” ตกรอบชนิดนกกระจอกยังไม่ทันกินน้ำที่เมียนมาร์ ถามว่าจะมีใครกล้าออกมาแสดงสปิริต (เงียบกริบ)
ผลงานอัน “ล้มเหลว” อย่างสิ้นเชิงในศึก “ซีเกมส์” 2 ครั้งติด ถือเป็นการบั่นทอน “ศรัทธา” ของแฟนบอลชาวไทยอย่างหนักหน่วงและรุนแรงยิ่ง
หาก ผู้บริหารบอลไทย ยังเอาแต่อยู่ในโลกของ “ความฝัน” ไม่ตื่นมายอมรับความจริงว่า “ความสำเร็จ” ไม่อาจซื้อหาได้ด้วย “เงิน”
บอลไทยในอนาคตคงจะตกต่ำดำดิ่งไปยิ่งกว่าอันดับ 132 ของโลก ณ ปัจจุบัน
แม้ว่าทีม “ช้างศึก” ชุดใหญ่ จะยังมีลมหายใจ แต่หากไม่หลอกตัวเองคงต้องยอมรับว่า ณ เวลานี้ได้กลายเป็น “ช้างนิทรา” ไปแล้ว
“เงิน” อาจจะซื้ออะไรได้ในหลายๆ สิ่ง แต่กับ “ความฝัน” นั้นคง “ไม่มีวัน”
การประกาศอัดฉีดเพื่อเป้าหมายสู่ความสำเร็จแบบนัดต่อนัด เห็นกันชัดแล้วว่า “ไร้ผล”
ความฝัน “บอลไทยไปบอลโลก” คงไม่มีวันเป็นจริง หากไม่เริ่มสร้างกันให้เป็นระบบแบบแผนระยะยาว เฉกเช่น “ญี่ปุ่น” ที่เคยฝันยาวไกลจนไปถึงฝั่งได้ ณ วันนี้ และยังมีแพลนถึง “แชมป์โลก” ในอีก 40 กว่าปีข้างหน้า
อาจจะไกลจนลืมเลือนเมื่อถึงวันนั้น แต่ยังดีที่ได้เริ่มต้นสร้างฝัน
“บอลไทย...ไม่ต้องอาย?” หากจะโคลนนิ่งหรือลอกเลียนแบบสิ่งดีๆ
อย่างทีม 19 ปี ที่สร้างผลงานชิ้นโบแดง ล้ม เกาหลีใต้ และยันเสมอ ญี่ปุ่น จนคว้าแชมป์กลุ่มเข้าสู่รอบสุดท้ายชิงแชมป์เอเชียในปีหน้า หากผู้บริหารบอลไทยกล้าๆ สร้างทีมระยะยาว ความสำเร็จอาจจะวิ่งตามมาในอนาคต
แต่หากยังกล้าๆ กลัวๆ มัวแต่คอยรอ “แก้ตัว” ไม่ยอมเริ่มต้น “แก้ไข”
“ศรัทธา” ของแฟนบอลชาวไทย คงจะค่อยๆ หมดไปในไม่ช้า
เรื่องโดย " มร.เอ็ม 79"
คอลัมน์ จัดหนัก นสพ.กีฬารายวันฮอตสกอร์