งานใหม่ที่รออยู่ของพ่อมดที่ชื่อมาร์ติน โอนีล
หลังจากที่รู้กันแล้วว่า สตีฟ บรู๊ซ คือกุนซือของคนแรกของพรีเมียร์ลีกที่ตกงานในฤดูกาลนี้ด้วยผลงานที่พาทีม “แมวดำ” ซันเดอร์แลนด์ ตกต่ำจนอันดับของทีมอยู่ห่างจากโซนตกชั้นเพียงแค่อันดับเดียว คืออันดับสิบเจ็ด จึงทำให้บอร์ดบริหารเรียกตัวเข้าไปพบและประกาศแยกทางกันในที่สุด
แต่เพียงไม่กี่อึดใจ สโมสรก็ได้กุนซือคนใหม่ที่จะเข้ามารับตำแหน่งเผือกร้อนชิ้นนี้ นั่นคือพ่อมดแห่งวงการฟุตบอลอย่าง มาร์ติน โอนีล ที่ถือว่าเป็นยอดฝีมืออีกคนหนึ่งในวงการฟุตบอลของสหราชอาณาจักร
ถ้าดูจากชื่อเสียงเกียรติประวัติที่ผ่านมา มาร์ติน โอนีล ก็ถือว่าเป็นคนในวงการฟุตบอลตั้งแต่สมัยเป็นนักเตะ แม้ว่าจะเป็นคนสาธารณรัฐไอร์แลนด์เหนือก็ตาม แต่ก็เคยเล่นให้กับทีมดังในอังกฤษหลายทีมทั้งน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์, นอริช ซิตี้, แมนฯซิตี้, น็อตต์ส เคาน์ตี้ เชสเตอร์ฟิลด์ ก่อนที่จะไปแขวนสตั๊ดกับสโมสรฟูแล่ม
โดยเฉพาะสมัยเล่นอยู่กับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ภายใต้การคุมทีมของยอดกุนซือไบรอัน คลัฟ ถือว่าเป็นจุดสูงสุดของอาชีพนักเตะเลยทีเดียว เพราะตั้งแต่ได้แชมป์ยุโรป แชมป์ฟุตบอลลีก รวมทั้งแชมป์บอลถ้วยอย่างลีกคัพ จะขาดก็แต่ฟุตบอลเอฟเอคัพ เพียงรายการเดียว นอกจากนั้นการเป็นนักฟุตบอลทีมชาติก็ลงเล่นไปมากถึงหกสิบสี่นัด ยิงไปแปดประตู ในตำแหน่งมิดฟิลด์
อย่างไรก็ตาม ประวัติการคุมทีมในอดีตของพ่อมดลูกหนังคนนี้นับว่าไม่ธรรมดา เพราะส่วนใหญ่ทีมที่เคยคุมล้วนประสบความสำเร็จทั้งสิ้นตั้งแต่คุมวีคอมบ์ก็ได้แชมป์ฟุตบอลคอนเฟอเรนซ์ระดับลีกล่าง และพาทีมขึ้นมาเล่นเพลย์ออฟในดิวิชั่นสาม ได้ ต่อมาพอมาอยู่กับ เลสเตอร์ ซิตี้ ก็พาทีมชนะเพลย์ออฟฟุตบอลดิวิชั่นหนึ่ง รวมทั้งพาทีมได้แชมป์ลีกคัพถึงสองสมัย และรองแชมป์อีกหนึ่งสมัย
ก่อนที่จะไปอยู่กับยอดทีมจากสกอตแลนด์ เซลติก ที่ไปประสบความสำเร็จด้วยการเป็นแชมป์สกอตติช พรีเมียร์ลีกถึงสามสมัย รวมทั้งแชมป์บอลถ้วยต่างๆ ในสกอตแลนด์ก็กวาดมาหมดแล้ว แต่น่าเสียดายที่พาทีมเข้าชิงฟุตบอลยุโรปอย่างยูฟ่า คัพ หรือเรียกว่า ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ในปัจจุบันก็เป็นเพียงแค่รองแชมป์แบบน่าเสียดาย
เมื่ออิ่มกับความสำเร็จร่วมกับเซลติกแล้ว อีกทั้งต้องทำหน้าที่สามีที่ดีออกไปดูแลภรรยาที่ป่วยเป็นมะเร็งจึงต้องสละเก้าอี้ลาออกไป ว่างงานจากตำแหน่งกุนซือ ก่อนที่จะกลับมาคุมทีมในพรีเมียร์ลีกอย่าง แอสตัน วิลล่า แต่ผลงานก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะความสำเร็จที่เข้าใกล้มากที่สุดก็คือ การเป็นรองแชมป์ฟุตบอลลีกคัพเพียงแค่ครั้งเดียว
ก่อนที่จะลาออกจากทีมแบบน่าตกใจ ก่อนพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2010-11 เปิดเพียงแค่ห้าวัน ด้วยเหตุผลเรื่องของงบประมาณการทำทีม และแผนการระยะยาวของสโมสรที่ไม่ตรงกับฝ่ายบริหาร
สาเหตุหลักที่ มาร์ติน โอนีล มารับงานคุมทีมแมวดำซันเดอร์แลนด์ก็คงหนีไม่พ้นความท้าทายในอาชีพและกลับมามีไฟอีกครั้งหลังจากพักไปนาน
อีกทั้งเจ้าตัวเองก็เป็นแฟนบอลของซันเดอร์แลนด์มาตั้งแต่สมัยเป็นเด็กซิ่ง การมาทำงานคุมสโมสรที่ตัวเองเชียร์ก็คงเป็นการเติมเต็มความฝันอีกอย่างหนึ่ง แม้ว่าซันเดอร์แลนด์จะไม่ใช่สโมสรใหญ่มีเงินถุงเงินถังเหมือนเซลติกหรือแอสตัน วิลล่า ที่เคยคุมทีมมาในอดีต
ดังนั้นก็คงต้องเอาช่วยพ่อมดแห่งวงการฟุตบอลอังกฤษที่ชื่อ มาร์ติน โอนีล ว่าจะร่ายเวทมนต์ทำให้สโมสรที่ตัวเองรักอย่างซันเดอร์แลนด์จะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้งได้หรือเปล่าเพราะดูจากสถานการณ์ตอนนี้คงต้องเรียกว่าอาการแมวป่วย รวมทั้งแฟนบอลของซันเดอร์แลนด์เองก็ตั้งความหวังไว้กับโอนีลมากเลยทีเดียว เพราะเชื่อว่าเป็นคนเก่งคนมีฝีมือแต่เป็นคนที่จังหวะไม่ค่อยดีซักเท่าไหร่ กับประสบการณ์คุมทีมครั้งที่ผ่านๆ มา
สุดท้ายนี้ งานใหม่ที่รออยู่ของ มาร์ติน โอนีล คงทำให้เจ้าตัวกลับมาสนุกกับโลกของฟุตบอลอีกครั้งแต่เป้าหมายหลักของทีมเลยคือต้องอยู่รอดปลอดภัยในพรีเมียร์ลีกให้ได้ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย จากหลายๆ ปัจจัยเช่นลีกมาตรฐานสูงขึ้น นักเตะเก่งขึ้นและการแข่งขันที่สูสีกว่าเดิมของทีมระดับล่าง ทำให้การเดิมพันเข้ามาคุมทีมรักครั้งนี้หมายถึงชื่อเสียง ฝีมือ และความสามารถที่ต้องมาพิสูจน์กันอีกครั้ง
ว่ามีเวทมนต์จริงๆ หรือที่ผ่าน มาแค่ดวงดีครับ
เรื่องโดย " หมอเมา "
คอลัมน์ หมอเมาเล่า นสพ.กีฬารายวันฮอตสกอร์