Premier League Preview by มาร์ค สุรเดช
ฤดูกาล 2011-12 ของพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ยังมีคุณค่าและความน่าสนใจเหมือนกับในทุกๆฤดูกาลที่ผ่านมา เพราะหลังการสะดุดแพ้เป็นครั้งแรกในลีกฤดูกาลนี้ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดูเหมือนจะปลุกความหวังให้กับบรรดาทีมในกลุ่มตามให้กลับมาแอบตั้งความหวังที่จะกระชากแชมป์แย่งกับทีมมหาเศรษฐีของท่านชีค มานซูร์ กันอีกครั้ง
ความพ่ายแพ้เมื่อสัปดาห์ก่อนของ ซิตี้ ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ส่งผลกระทบกับหลายๆทีม ไล่ตั้งแต่ความห่างระหว่าง ซิตี้ กับ แชมป์เก่าและคู่ปรับร่วมเมืองอย่าง ยูไนเต็ด ที่นับถึงตรงนี้ช่องห่างของทั้ง 2 ทีม ถูกบีบเหลือเพียงแค่ 2 คะแนนแล้ว ในแง่ของประสบการณ์การลุ้นแชมป์นั้น หากเทียบระหว่าง ซิตี้ กับ ยูไนเต็ด ฝ่ายหลังออกจะได้เปรียบมากกว่าด้วยซ้ำ เพราะความสำเร็จตลอดช่วง 2 ทศวรรษเศษๆที่ผ่านมาของพวกเขานั่นเอง ยูไนเต็ด มีความคุ้นเคยกับการเบียดแย่งแชมป์มาตลอด
ผิดกับ ซิตี้ ที่ฤดูกาลนี้พูดได้เต็มปากว่ามีลุ้นแชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบหลายสิบปีแบบเต็มตัว อย่างไรก็ดีบททดสอบยังมีอยู่อีกมากมายตราบใดที่ฤดูกาลยังเตะกันไม่ครบ 38 เกม ก็คงยังยากที่จะชี้ชัด หรือ ฟันธงกันแบบจะๆว่าทีมใดจะคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้ไปครอง
ความพ่ายแพ้ของ ซิตี้ ยังส่งผลไปถึง เชลซี อีกด้วย เพราะนอกจากจะลดความกดดันที่เล่นงาน อังเดร วิลลาส โบอาส ในช่วงหลายสัปดาห์ก่อนนี้มาตลอดแล้ว มันยังทำให้ เชลซี กลับมาอยู่ในกลุ่มลุ้นแชมป์ได้อีกครั้งด้วย เพราะความห่าง 9 แต้มระหว่างทั้ง 2 ทีม ไม่ได้ถือว่าทิ้งกันจนขาด หรือ หมดสิทธิ์จะไล่ทันแล้ว
ฟุตบอลของ เชลซี กลับมามีประสิทธิภาพ และ น่ากลัวอีกครั้ง หลังจาก โบอาส ตัดสินใจกล้าผ่าทีม อาทิ การดร็อป ตอร์เรส และให้ ดร็อกบา ลงมาเป็นหน้าเป้า โดยมี ดาเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ลงมาประสานงานในเกมรุกอย่างเต็มตัว หลังจากเป็นได้แค่พระรอง บทบาทส่วนใหญ่เป็นเพียงแค่ตัวสำรองชั้นเยี่ยม มาตอนนี้ สเตอร์ริดจ์ กำลังเร่งทำผลงานให้เข้าตาของ ฟาบิโอ คาเปลโล่ ด้วยความหวังว่าจะมีโอกาสติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ไปทำศึกยูโร 2012 รอบสุดท้ายในช่วงกลางปีหน้านั่นเอง
ขณะที่อนาคตของ เฟร์นันโด ตอร์เรส กองหน้าดีกรีแชมป์โลก นั้น โบอาส ประกาศลั่นชัดเจนแล้วว่าเขาจะไม่ปล่อย ตอร์เรส ไปให้กับทีมใดอย่างแน่นอนไม่ว่าจะได้ราคา หรือ ข้อเสนอที่น่าสนใจมากขนาดไหนก็ตาม
ดูจากสถานการณ์เวลานี้ เชลซี ยังน่ากลัว และแฟนๆของพวกเขา คงยังไม่หมดหวังกับการลุ้นแชมป์อีกทีม เพียงแต่พวกเขาจะต้องทำผลงานให้สม่ำเสมอมากกว่านี้
สุดสัปดาห์นี้ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ ยังมีคิวเตะ 10 คู่ตามปกติ โดยมีบางทีมอย่าง สโต๊ค, ฟูแล่ม และ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ที่ไปกรำศึกในถ้วยยูโรป้า ลีก มา ซึ่งอาจจะส่งผลต่อผลงาน และ ความสดของนักเตะของทีมนั้นๆไม่มากก็น้อย
ส่องกล้องจากโปรแกรมเตะทั้งหมดแล้ว เกมคู่บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์นี้ คงหนีไม่พ้นเกมที่สนาม เอติฮัด สเตเดี้ยม ในวันอาทิตย์ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จะเฝ้าบ้านรอซดเกือกกับ “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ทีมที่ฟอร์มมาแรงที่สุดในเวลานี้ และกำลังทำอันดับไต่ขึ้นมาเรื่อยๆในตารางคะแนน
แม้ว่าจะแพ้ไปแล้วแต่ไม่ได้หมายความว่า ซิตี้ จะฟอร์มตก พวกเขาอาจจะโชคดีรอดพ้นความพ่ายแพ้ในบางเกมเช่นที่ แอนฟิลด์ แต่เกมที่ เดอะ บริดจ์ พวกเขาดูจะไม่ค่อยมีดวงเข้าข้างนัก เกมนี้กลับมาเล่นในบ้านที่พวกเขามีผลงานอันยอดเยี่ยมชนะรวดมาตั้งแต่เปิดฤดูกาล
ในส่วนของสภาพทีม ซิตี้ สำหรับเกมนี้ โรแบร์โต้ มันชินี่ คงจำเป็นต้องโยกเอา พาโบล ซาบาเลต้า มาประจำการในตำแหน่งแบ็กซ้ายอีกครั้งหลังจากแบ็กซ้ายตัวหลักของทีมโดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน และ ติดโทษแบน หากไม่ใช้ ซาบาเลต้า เล่น มันชินี่อาจจะจับ โจลีออน เลสค็อตต์ ลงเล่นในตำแหน่งนี้ได้เช่นกัน แม้ว่าผลงานนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ในแถบอีสต์แลนด์ของดาวเตะทีมชาติอังกฤษรายนี้จะยังไม่ถึงกับน่าพอใจมากนักก็ตาม
ด้าน “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล นั้น อาร์แซน เวนเกอร์ ต้องปวดหัวทีเดียวในการแก้ปัญหาเรื่องตัวผู้เล่นมีอาการบาดเจ็บโดยเฉพาะบรรดาแนวรับ เกมที่แล้วต้องใช้ผู้เล่นเซ็นเตอร์อาชีพมายืนเป็นแบ็ก นอกนั้นแดนกลาง และ หน้า ถือว่าลงตัวดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่ขาดอีกแค่ประตูเดียวจะทำลายสถิติ 34 ประตูในปี 2004 ที่ดาวยิงรุ่นพี่อย่าง “ติตี้” เธียร์รี่ อองรี ทำไว้
สถิติที่น่าสนใจก่อนเกม:
- ซิตี้ ชนะรวด 7 เกมในลีกที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม โดยยิงคู่แข่งกระจุยกระจายถึง 24 ประตู
- ซิตี้ ชนะ อาร์เซน่อล ในบ้านตัวเอง 3 ใน 4 ฤดูกาลหลังสุด
- อาร์เซน่อล เป็นฝ่ายบุกมาชนะที่บ้านของ ซิตี้ ในฤดูกาลก่อน โดยเอาชนะด้วยสกอร์ 3-0
- โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ทำไปแล้ว 15 ประตูในลีกพร้อมกับนำดาวซัลโว
ความน่าจะเป็นของเกมนี้:
เป็นเกมที่น่าสนใจและน่าจะเล่นกันสนุกสะใจแฟนบอล เพราะ อาร์เซน่อล เองก็ต้องการชัยชนะเพื่อลุ้นแชมป์หรืออย่างน้อยที่สุดทำอันดับเพื่อติดท็อปโฟร์ให้ได้ อย่างไรก็ดีสถิติการยิงประตูที่บ้านของ ซิตี้ นั้นน่าสะพรึงกลัวมากๆ ลูกทีมของ มันชินี่ ไล่ยิงคู่แข่งทีมแล้วทีมเล่าไปถึง 24 ประตู
อาร์เซน่อล แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขากำลังลงตัว แต่การขาดผู้เล่นสำคัญๆในเกมรับทำให้นี่อาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ อาร์เซน่อล ไม่สมบูรณ์แบบอย่างที่เคย เจอกับเจ้าถิ่นที่จำเป็นต้องเก็บ 3 คะแนนเพื่อหนีการไล่ล่า ไม่น่าจะต้านอยู่ แม้ว่า โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ จะน่ากลัวเพียงใดก็ตาม
ผลการแข่งขันที่คาด:
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ อาร์เซน่อล 2-1
วิเคราะห์วิจารณ์เกมคู่อื่นๆที่น่าสนใจ:
นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด vs สวอนซี
นิวคาสเซิ่ล กำลังฟอร์มสะดุดแพ้ถี่ในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เก็บได้เพียงแค่แต้มเดียวจาก 12 แต้มหลังสุดเจอกับ สวอนซี ที่เล่นนอกบ้านไม่ค่อยดี เจ้าถิ่นน่าจะอาศัยเกมนี้ไว้เรียกความมั่นใจกลับมา แต่โอกาสเสมอก็ยังพอมีเช่นกัน
ผลการแข่งขันที่คาด:
นิวคาสเซิล เสมอ สวอนซี 2-2
============================
วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส vs สโต๊ค ซิตี้
วูล์ฟส์ ได้พักมาเต็มๆ แถมเล่นในบ้านดีเจอกับ สโต๊ค ที่แม้ โทนี่ พูลิส จะพักตัวหลักไว้ไม่ได้ส่งลงเล่นในยูโรป้า ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ แต่ สโต๊ค ก็มีปัญหาเวลาออกนอกบ้านยิงได้น้อย เพิ่งยิงได้แค่ 4 ประตูเท่านั้น เกมนี้ วูล์ฟส์ คงต้องหวังพึ่ง สตีเว่น เฟล็ทเชอร์ เป็นทีเด็ดในการทำประตูเหมือนเดิม
ผลการแข่งขันที่คาด:
วูล์ฟส์ ชนะ สโต๊ค 1-0
============================
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส vs เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน
เจ้าถิ่นยังไม่เคยเก็บคลีนชีตได้เลยในซีซั่นนี้ แถมยังเจอปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บอีก ด้านผู้มาเยือนก็เอาแน่เอานอนไม่ได้ แพ้คาบ้านต่อ วีแกน เมื่อสัปดาห์ก่อนก็ทำมาแล้ว เกมนี้ แบล็คเบิร์น หากเน้น และพยายามลดข้อผิดพลาดในแนวรับไม่น่าจะมือเปล่า
ผลการแข่งขันที่คาด:
แบล็คเบิร์น เสมอ เวสต์บรอมวิช 0-0
============================
ฟูแล่ม vs โบลตัน วันเดอเรอร์ส
ฟูแล่ม ล้ามาจากเกมยุโรป แต่การได้เจอกับทีมบ๊วยอย่าง โบลตัน ที่มีเกมรับย่ำแย่ที่สุดในลีก ไม่น่าจะเกินความสามารถลูกทีมของ มาร์ติน โยล
ผลการแข่งขันที่คาด:
ฟูแล่ม ชนะ โบลตัน 2-1
============================
เอฟเวอร์ตัน vs นอริช ซิตี้
แม้สถิติการทำประตูของ เอฟเวอร์ตัน ในลีกปีนี้จะน้อยกว่าน้องใหม่ นอริช ถึง 8 ประตู แต่เกมนี้ เดวิด มอยส์ คงเน้นกับลูกทีมเป็นพิเศษให้พยายามเก็บชัยชนะให้ได้เพื่อกลับมาทำอันดับให้ดีขึ้นอีกครั้ง ซื้อใจเจ้าถิ่นว่าจะมีฮึดเป็นพิเศษ
ผลการแข่งขันที่คาด:
เอฟเวอร์ตัน ชนะ นอริช 1-0
============================
วีแกน แอธเลติก vs เชลซี
แม้จะบุกไปชนะ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน ได้ในสัปดาห์ก่อน แต่ วีแกน ยังต้องก้มหน้าก้มตาทำผลงานต่อไปเพื่อหนีตาย เจอกับ เชลซี ที่กำลังลงตัวชนะติดต่อกันมาสวยๆทั้งในลีก และ ยุโรป มองมุมไหน เชลซี ก็เหนือกว่าหลายขุม
ผลการแข่งขันที่คาด:
วีแกน แพ้ เชลซี 1-2
============================
ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส vs แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
คิวพีอาร์ เล่นในบ้านไม่ค่อยดี แถมยังมีสถิติยิงประตูที่แย่ที่สุดยามเล่นในบ้านอีกด้วย โดย 7 เกมในฤดูกาลนี้พวกเขายิงคู่แข่งได้แค่ 6 ประตูเท่านั้น ด้านทีมเยือนจะขาดตัวหลักๆอย่าง วีดิช, เฟล็ตเชอร์ และ ชิชาริโต้ แต่ขุนพลที่เหลือยังแข็งแกร่งเสมอ เจ้าถิ่นอาจจะต้านทานไว้ได้ในช่วงแรกๆแต่เมื่อเจอบดหนักๆก็ไม่น่าจะรอด
ผลการแข่งขันที่คาด:
คิวพีอาร์ แพ้ แมนฯยูไนเต็ด 0-1
============================
แอสตัน วิลล่า vs ลิเวอร์พูล
วิลล่า ชนะ โบลตัน ทำให้พวกเขาคึกคักขึ้นมาบ้าง เกมนี้กลับมาเล่นในบ้านแต่ก็ไม่ง่ายเพราะ ลิเวอร์พูล กลับชอบเล่นนอกบ้าน หลุยส์ ซัวเรซ เลิกฝืดแล้วและน่าจะสร้างความปั่นป่วนให้กับแผงหลังที่อืดอาดของ วิลล่า ได้พอสมควร ส่องกล้องแล้วทีมเยือนยังดูดีมีอนาคตกว่า
ผลการแข่งขันที่คาด:
แอสตัน วิลล่า แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1
============================
ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ vs ซันเดอร์แลนด์
แม้จะแพ้ในสัปดาห์ก่อน แต่ สเปอร์ส ไม่ได้เสียของเลย เกมกลางสัปดาห์อาจจะทำให้พวกเขาเหนื่อยกับการเดินทาง แต่คงไม่มีผลมากนักเพราะ แฮร์รี่ เร้ดแนปป์ พักตัวจริงไว้บางส่วน แต่การเจอกับ ซันเดอร์แลนด์ ของ มาร์ติน โอ’นีล ก็ไม่ง่าย เกมนี้น่าจะสนุก และไม่แปลกใจหาก ซันเดอร์แลนด์ ยุคปรับปรุงใหม่จะบุกมาแบ่งแต้มกลับออกไป
ผลการแข่งขันที่คาด:
สเปอร์ส เสมอ ซันเดอร์แลนด์ 0-0
เรื่องโดย " มาร์ค สุรเดช "
คอลัมน์ Premier League Preview นสพ.กีฬารายวันฮอตสกอร์
