วินนี่ประกาศขอเปลี่ยนสกอร์นัด 2 พาไทยพลิกเป็นแชมป์ซูซูกิคัพ
ฟุตบอล : วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทยยังทำใจดีสู้เสือประกาศก้องขอพาไทยพลิกกลับมาชนะสิงคโปร์ และเป็นแชมป์ซูซูกิคัพ 2012 ในวันเสาร์ที่ 22 ธ.ค.นี้ให้ได้ แม้จะแพ้มาในเกมแรก 1-3 ก็ก่อนตาม
ส่วน ราดอจโก้ กุนซือลอดช่องเผยสุดเซอร์ไพรส์กับผลแข่งขัน เชื่อเกมสองเป็นงานง่ายและจะคว้าแชมป์สมัย 4 ได้สำเร็จ
หลังจบเกมที่ไทยบุกไปพ่ายให้กับสิงคโปร์ 1-3 ในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2012 รอบชิงชนะเลิศนัดแรก ที่สนามจาลัน เบซาร์ เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (19 ธ.ค.) ด้าน วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือทีมชาติไทย ออกมาเผยว่า
"ก่อนเกมตนได้กำชับลูกทีมแล้วว่าให้ระวังเกมหนักของเจ้าถิ่นในช่วง 15 นาทีแรก และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ จุดเปลี่ยนคือการเสียประตูแรกที่ถือเป็นความผิดพลาดของเราเองที่ไปเสียจุดโทษตั้งแต่ต้นเกม บวกกับมาเสีย ภานุพงษ์ วงศ์ษา ปราการหลังกัปตันทีมที่มาเจ็บอีก แต่ ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ ที่ลงไปแทนก็ถือว่าทำหน้าที่ได้
ยอมรับว่าวันนี้เราแพ้สิงคโปร์ แต่ถึงอย่างไรตนยังเชื่อและมั่นใจว่าเกมนัดที่ 2 ที่เราจะกลับไปเล่นในบ้านของเราจะสามารถเปลี่ยนสกอร์มาเป็นผู้ชนะและพาทีมชาติไทยคว้าแชมป์ได้สำเร็จ ขอเพียงแค่ให้แฟนบอลเข้ามาให้กำลังใจกันให้เต็มสนามก็พอ"
พร้อมกันนี้กุนซือทีมชาติไทยยังได้กล่าวถึงผู้ตัดสินในวันนี้ด้วยว่าทำหน้าที่อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งตนนั้นชมจริงๆ ไม่ได้พูดเล่นแต่อย่างใด ในขณะที่นักเตะที่ได้รับบาดเจ็บในเกมนี้อย่าง อดุล หละโสะ ที่ใต้ตาข้างซ้ายแตก ดัสกร ทองเหลาที่มาเจ็บเพิ่ม รวมถึง ภานุพงษ์ วงษศ์ษา เราคงต้องเช็กอาการกันอีกครั้ง และน่าจะรู้ว่าลงในสนามได้หรือไม่ก็ต่อเมื่อถึงเช้าวันเสาร์ที่ 22 ธ.ค.นี้
และตนขอย้ำอีกครั้งว่าตนยังมั่นใจในลูกทีมของตนว่าจะพลิกกัลมาเอาชนะสิงคโปร์ในเกมนัดที่สองได้อย่างแน่นอน
บังยีเชื่อนัด 2 กลับมาได้
ในขณะที่ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลฯ ซึ่งได้เดินทางไปชมเกมที่ข้างสนาม บอกกับผู้สื่อข่าวที่ตามไปทำข่าวที่สิงคโปร์ว่า
"ทั้ง 3 ลูกที่เราเสีย เป็นความผิดพลาดของเราเองแทบทั้งสิ้น ซึ่งถือว่าไม่น่าจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะลูกที่ 3 ที่ไม่มีใครเคลียบอลออกจากเสาประตู ตอนแรก เสมอ 1-1 คิดว่าเราน่าจะไม่เหนื่อย และกลับมาสู่เกมได้ แต่สุดท้าย เราก็พลาด ถึงตอนนี้ ผมกับวินนี่ได้คุยกันแล้ว เราจะเริ่มต้นของการเดินหน้าสู้ และผมเชื่อว่า เด็กทำได้แน่ เพราะสนามที่เราคุ้นเคยน่าจะช่วยได้ไม่น้อย"
ราดอจโก้เซอร์ไพรส์ยิงเกินเป้า
ส่วนทางด้าน ราดอจโก้ อัฟราโมวิช กุนซือเจ้าถิ่น เผยว่า "ถือเป็นสกอร์ที่เซอร์ไพรส์มากที่เราชนะไทยได้ถึง 3-1 ก่อนเกมจะเริ่มเรารู้ดีว่าเป็นรองไทยเยอะ แต่เมื่อเอาชนะได้ก็ถือว่าเป็นผลงานอันสุดวิเศษ และจากชัยชนะที่ตุนไว้ถึง 3-1 เชื่อว่าจะทำให้เกมนัดที่ 2 เราเล่นได้ง่ายขึ้น และมั่นใจว่าเราจะเป็นแชมป์สมัยที่ 4 ได้อย่างแน่นอน"
สำหรับเกมนัดที่ 2 จะกลับไปเล่นที่สนามศุภชลาศัย ในวันเสาร์ที่ 22 ธ.ค.นี้ เวลา 19.00 น.ส่วนทีมชาติไทยจะเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้น (20 ธ.ค.) ทันที ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบิน TG414 ออกจากสนามบินชางฮี ประเทศสิงคโปร์ เวลา 15.55 น.ตามเวลาท้องถิ่น โดยจะถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย เวลา 17.15 น. ตามเวลาบ้านเรา