My liverpool By..มาร์ค สุรเดช
ชัยชนะเหนือ แอสตัน วิลล่า 2-0 ทำให้ ลิเวอร์พูล เก็บชัยชนะนัดเยือนในลีกฤดูกาลนี้ได้เป็นเกมที่ 5 แล้ว และที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือพวกเขายังรักษาความหวังของแฟนๆที่อยากจะเห็นฤดูกาลนี้ทีมจะมีลุ้นคว้าพื้นที่เพื่อจะไปเตะฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้าไว้ได้ต่อไป
เคร็ก เบลลามี่ กองหน้ามากประสบการณ์ทีมชาติเวลส์ แสดงให้เห็นถึงผลงานที่ดี และ ความตั้งใจที่จะเล่นฟุตบอลมากกว่าการก่อเรื่องวุ่นวายเหมือนสมัยหนุ่มๆ ด้วยการยิง และ เปิดลูกเตะมุมให้ มาร์ติน สเคอร์เทล ทำประตูย้ำชัยชนะให้กับ ลิเวอร์พูล
ย้อนกลับไปก่อนหน้าการมาเยือนถิ่น วิลล่า ปาร์ค ลิเวอร์พูล เพิ่งจะแพ้แค่เกมเดียวใน 10 เกมก่อนหน้านี้ บวกกับฟอร์มที่ยังเอาแน่นอนไม่ได้ของทางฝั่ง วิลล่า ทำให้ วิลล่า ดูเป็นรองตั้งแต่ยังไม่ลงสนามแล้ว
เกมผ่านไปแค่ 11 นาที บรรดา “เดอะ ค็อป” ที่ตามไปเชียร์ในเกมนี้ถึงมิดแลนด์ก็เป็นฝ่ายได้เฮก่อน เมื่อพวกเขาได้ลูกเตะมุม และเป็น สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง เด็กเก่าของ วิลล่า ซึ่งฤดูกาลที่แล้วเป็นผู้ทำประตูชัยให้กับทีมสยบ ลิเวอร์พูล เป็นครั้งแรกจาก 13 ครั้งหลังสุดที่เจอกัน เปิดบอลมาที่หน้าประตูและเป็น จอนโจ้ เชลวี่ ที่กลับมาจากการยืมตัวสะกิดต่อให้กับ เคร็ก เบลลามี่ ชาร์จจากระยะไม่กี่หลาเป็นประตูนำให้กับทางทีมเยือนได้สำเร็จ
สถานการณ์ของ วิลล่า ยังคงไม่ดีขึ้นและเมื่อเกมมาถึงนาทีที่ 15ลิเวอร์พูล ลูกได้เตะมุมอีกครั้ง และจากการเล่นเร็ว เบลลามี่ เปิดต่อไปให้กับ มาร์ติน สเคอร์เทล เบียดเข้าถึงบอลก่อนที่ อลัน ฮัตตัน จะทำอะไรได้ โหม่งผ่านการป้องกันของ แบร๊ด กูซาน นายประตูหนุ่มเลือดอเมริกันของ วิลล่า เข้าไปเป็น 2-0 สำหรับทีมจากเมอร์ซีย์ไซด์
เกมรุกของ วิลล่า ดูไร้พิษสงไปเยอะในวันนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพวกเขาไม่มี กาเบรียล อั๊กบอนลาฮอร์ ที่ติดโทษแบนลงเล่นในเกมนี้ไม่ได้ ขณะที่ ดาร์เรน เบนท์ ชวดลงสนามอย่างน่าเสียดายเพราะดันมามีอาการบาดเจ็บก่อนลงสนาม ทำให้ ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย กลายเป็นตัวที่สร้างความปั่นป่วนให้กับแผงหลังของ ลิเวอร์พูล ได้มากที่สุด
อย่างไรก็ดีลำพังแค่ดาวเตะฝรั่งเศส ก็ไม่สามารถจะเจาะแนวรับที่ดีที่สุดในลีกของ ลิเวอร์พูล ลงได้ โดยก่อนเกมนี้ ลิเวอร์พูล เสียไปแค่ 13 ประตูเท่านั้นในลีก แถมพวกเขายังเก็บคลีนชีตในซีซั่นนี้ไปแล้วถึง 6 ครั้ง
ครึ่งแรก ลิเวอร์พูล น่าจะนำขาดถึง 4-0 หากว่าโอกาส 2 จังหวะของ หลุยส์ ซัวเรซ จะไม่แม่นเสาแม่นคานเสียก่อน โดยนี่เป็นครั้งที่ 16 และ 17 เข้าให้แล้วสำหรับ “เครื่องจักรสีแดง” ที่แม่นเกินเหตุ โดยเป็นสถิติที่สูงสุดในพรีเมียร์ลีก ณ เวลานี้ด้วย
จบเกม ลิเวอร์พูล เก็บ 3 คะแนนพร้อมกับรั้งอันดับที่ 6 ต่อไป โดยมีแต้มเท่ากับทีมอันดับ 5 อย่าง “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซนอล เพียงแต่ผลต่างประตูได้-เสีย ของ อาร์เซนอล นั้นดีกว่า ส่วนระยะห่างจากพื้นที่แชมเปี้ยนส์ ลีก นั้น พวกเขาตามหลัง เชลซี อยู่ 3 คะแนนเท่านั้น
ขณะเดียวกันนี่เป็นหนแรกด้วยที่ เคนนี่ ดัลกลิช พา ลิเวอร์พูล บุกมาชนะที่ วิลล่า ปาร์ค ในรอบ 7 เกม หลังจากตลอดช่วงระยะเวลา 2 ครั้งที่คุม ลิเวอร์พูล เขาไม่เคยพาทีมบุกมาเก็บ 3 คะแนนกลับออกไปได้สำเร็จได้เลยแม้แต่หนเดียว
===========================
อัพเดตล่าสุดอาการบาดเจ็บของ สตีวี่ จี
มีการเปิดเผยถึงความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับอาการบาดเจ็บของ “สตีวี่ จี” สตีเว่น เจอร์ราร์ด กองกลางกัปตันทีมหัวใจสำคัญของ ลิเวอร์พูล ว่า เขายังไม่พร้อมแน่นอนสำหรับเกมพรีเมียร์ลีกนัดต่อไปที่จะเปิดบ้านรับการมาเยือนของ วีแกน ในวันพุธนี้
หลังจากมีอาการติดเชื้อที่ข้อเท้าจนทำให้ต้องกลับไปพักรักษาตัวอีกครั้ง ล่าสุดมีการยืนยันโดย เคนนี่ ดัลกลิช ว่า ในเกมลีกนัดต่อไปที่ ลิเวอร์พูล จะเปิดรังแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ “เดอะ ลาติกส์” วีแกน ในวันพุธนี้นั้นทีมของเขาจะยังไม่มี สตีเว่น เจอร์ราร์ด ร่วมทีมด้วยอย่างแน่นอน โดยตอนนี้อาการเจ็บของ เจอร์ราร์ด นั้นดีขึ้นเป็นลำดับ
ดัลกลิช กล่าวถึงอาการบาดเจ็บของ เจอร์ราร์ด ระหว่างแถลงข่าวก่อนเกมที่จะพบกับ วีแกน มีใจความว่า
“ในทีมของเราตอนนี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมแต่อย่างใด นอกไปจาก แจ็ค โรบินสัน, ฟาบิโอ ออเรลิโอ และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด”
“คงจะต้องคอยดูกันต่อไปว่า เจอร์ราร์ด จะพร้อมกลับมาลงสนามได้อีกครั้งเมื่อไหร่ แต่ที่แน่ๆเขาจะยังไม่กลับมาในช่วงสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน”
ติดตามข่าวกีฬารอบโลกได้ที่นี่ http://sport.sanook.com/