ราฟาชมบามั่นเข้าขาตอร์/แลมพ์ยิงจี้แทมบลิ้ง

ราฟาชมบามั่นเข้าขาตอร์/แลมพ์ยิงจี้แทมบลิ้ง

ราฟาชมบามั่นเข้าขาตอร์/แลมพ์ยิงจี้แทมบลิ้ง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีมเชลซี ชื่นชม เดมบ้า บา ดาวยิงคนใหม่หลังซัดเบิ้ลประเดิมต้นสังกัดใหม่ช่วยบุกถล่มเซาธ์แฮมป์ตัน 5-1

พร้อมมั่นใจจะผนึกกำลังและเล่นเข้าขากันกับ เฟอร์นานโด ตอร์เรส ด้าน แฟร้งค์ แลมพาร์ด ขยับขึ้นมารั้งตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลอันดับ 2 ของสโมสรตามอันดับ 1 อย่าง บ็อบบี้ แทมบลิ้ง อยู่เพียงแค่ 9 ลูก

ศึกลูกหนังเอฟเอ คัพ 2012-2013 รอบ 3 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา "สิงห์บลูส์"เชลซี บุกไปถล่ม "นักบุญ"เซาธ์แฮมป์ตัน ถึงสนามเซนต์ แมรี่ส์ ขาดลอย 5-1

โดย เดมบ้า บา กองหน้าตัวใหม่ที่เซ็นคว้าตัวมาจาก"สาลิกาดง"นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ยิงประตูประเดิมให้กับต้นสังกัดใหม่ซัดไปสองตุง

ภายหลังจบเกมการแข่งขัน ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีมเชลซี ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า "มันเป็นเรื่องที่สำคัญเสมอสำหรับกองหน้าที่จะต้องทำประตูให้ได้"

"แต่นอกเหนือจากการทำประตูได้แล้วนั้น เขา(บา)ยังมีส่วนช่วยทีมในด้านอื่นๆได้เยอะอีกด้วย การเคลื่อนที่และความเข้าใจถึงสิ่งที่เราต้องการให้เขาทำคือสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากๆ เขาเป็นนักเตะที่ฉลาดสุดๆ และสามารถเข้าใจถึงการเคลื่อนที่ของนักเตะได้ดีเลยทีเดียว เขาเข้าใจดีถึงสิ่งที่เราต้องการ เขาเป็นคนที่ฉลาดมาก เขาทำทุกอย่างบนสนามได้ดีมากๆ ซึ่งผมอยากมีปัญหาในการจัดทีมแบบนี้มากกว่าการมีกองหน้าแค่คนเดียวเสียอีก มันเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีนักเตะที่ดีๆ หลายคน"

"และมีตัวเลือกที่แตกต่างกัน ซึ่ง บา กับ เฟอร์นานโด ตอร์เรส สามารถขิงตำแหน่งกันหรือสามารถเล่นร่วมกันได้ด้วย มันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทีมที่เราต้องมีตัวเลือกหลายๆตัวเลือก และทั้ง บา กับ ตอร์เรส ต่างเป็นนักเตะที่ดี พวกเขาสามารถเล่นร่วมกันได้ บา เองเล่นคู่กับ ปาปิสส์ ซิสเซ่ เมื่อเดือนที่แล้ว ผมคิดว่าเขาสามารถเล่นด้วยกันได้ เพราะ บา เป็นนักเตะที่ฉลาด แต่ขณะเดียวกันก็ต้องขึ้นอยู่กับนักเตะที่อยู่รอบข้างเขาด้วย"

"ครึ่งแรกเราทำงานกันหนักมากแต่หลังจากนั้นรวมถึงครึ่งหลังก็ดีขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป ถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับกองหน้าในการทำประตู แต่เหนือสิ่งอื่นใดประตูที่เกิดขึ้นต้องยกเครดิตให้นักเตะทุกคนด้วย เอแด็น ฮาซาร์ด, ฆวน มาต้า และ วิคเตอร์ โมเซส ผมพอใจมากๆ เพราะ โมเซส นั้นต้องไปเล่นในศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ (ให้กับทีมชาติไนจีเรีย) แต่เขาได้รับอนุญาตให้อยู่กับทีมต่อในวันนี้ และเขาก็ทำประตูได้"กุนซือชาวสแปนิชในวัย 52 ปีร่ายยาว

ด้าน แฟร้งค์ แลมพาร์ด มิดฟิลด์สายเลือดผู้ดีมากประสบการณ์ที่ลงมาเป็นตัวสำรองและยิงได้หนึ่งลูกจากการสังหารจุดโทษรวมทำประตูไปแล้ว 193 ตุง ทำให้แข้งวัย 34 ปีขยับขึ้นมารั้งตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลอันดับ 2 ของสโมสรตามอันดับ 1 อย่าง บ็อบบี้ แทมบลิ้ง อยู่เพียงแค่ 9 ลูก

โดยตำนานหัวหอกของสโมสรเชลซี ทำเอาไว้อยู่ที่ 202 ประตู และถือเป็นประตูที่ 7 ของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ในฤดูกาล 2012-2013

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook