สัตว์ปีกราคาดี...???
คืนวันพุธที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาของและหงส์ได้ตีปีกพร้อมๆกัน ดูมีราคามีคุณค่าขึ้นมาอีกเยอะ การเอาชนะเอฟเวอร์ตันของสเปอร์สทำให้แต้มขยับขึ้นมาคู่คี่ดู๋ดี๋กับผีแดงเรียบร้อยแล้ว
นั่นหมายความว่าเส้นทางแห่งการลุ้นแชมป์สำหรับไก่ตัวนี้ยังคงเดินหน้าได้ต่อไป ในขณะที่ลิเวอร์พูลหลังจากโดนเรือใบไล่อัดในสัปดาห์ก่อนโน้น มาเยือนถิ่นอิติฮัด สเตเดี้ยม อีกครั้งด้วยความหวังเข้าชิงถ้วยคาร์ลิ่ง คัพ ในฤดูกาลนี้ เพราะถ้าหากว่าทุกอย่างไม่เป็นไปตามเป้า นี่คือถ้วยปลอบใจชั้นดีนั่นเอง
เอติฮัด สเตเดี้ยม...
ค่อนข้างบางตาลงไปเยอะสำหรับแฟนบอลที่เข้ามาในสนามอิติฮัด แม้ว่าทีมเยือนจะเป็นลิเวอร์พูลก็ตาม นั่นคงบ่งบอกได้ว่าถ้วยนี้ไม่มีคุณค่าในสายตาของแฟนบอลเรือใบแม้แต่น้อย ปกติแฟนบอลจะเข้ามาเชียร์กันในสนามแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นถ้วยไหนทีมเล็กหรือทีมใหญ่ก็ตามประมาณ 46,000 คน
ยกเว้นถ้วยคาร์ลิ่ง คัพนี่แหละ รอบ 3 เตะกับเบอร์มิงแฮม มีแฟนบอลเข้าสนามแค่ 25,000 คน ในขณะที่คืนวันพุธที่ผ่านมารับการมาเยือนของลิเวอร์พูลในรอบรองชนะเลิศนัดแรก แฟนบอลฝ่าสายฝนและอากาศหนาวเข้าสนามเพียง 36,000 คนเท่านั้น แฟนบอลที่นี่ไม่คิดเรื่องเล็กๆอีกต่อไปแล้ว
เคนนี่ ดัลกลิช...
ปกติแล้วกุนซือส่วนใหญ่ต้องมีความไว้ใจและเชื่อมั่นในตัวลูกทีมไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวทั้งในและนอกสนาม เคนนี่ ดัลกลิช ตอกย้ำเรื่องราวนี้อีกครั้งหลังจากหนุนหลังหลุยส์ ซัวเรซ จนแบนยาวกันไปเรียบร้อยแล้ว
นาทีนี้กุนซือหงส์แดงก็ยังคงเป็นเช่นนั้นหลังจากมีเรื่องราวนอกสนามของสจ๊วร์ต ดาวนิ่งที่โดนตำรวจรวบไปสอบสวน ในขณะที่แอนดี้ คาร์โรลล์ มีข่าวก่อนเกมว่าจะย้ายกลับไปนิวคาสเซิลด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์ เพื่อจบเรื่องราวแห่งความผิดหวังในถิ่นแอนฟิลด์เสียที
ดัลกลิชไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรมากมายกับเรื่องราวดังกล่าว พร้อมกับการส่งทั้ง 2 คนลงสนามเป็นตัวจริงนั่นคือสิ่งที่กุนซือไว้ใจและเชื่อมั่นในนักเตะนั่นเอง
ฟูลแบ็ก...
เกล็น จอห์นสัน โยกจากแบ็กขวาซึ่งเป็นตำแหน่งประจำมาเล่นเป็นแบ็กซ้ายทำให้มีโอกาสดวลกับไมคาห์ ริชาร์ดส์ แบ็กขวาของเรือใบที่ต้องแย่งตำแหน่งกันในทีมชาติอังกฤษ
ริชาร์ดส์ยังคงแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง ความดุดันได้มากกว่าอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเกมรับหรือเกมรุก การกระชากผ่านจอห์นสันที่พยายามกระแทกแล้วแต่เอาไม่อยู่ก่อนจะเปิดให้เจมส์ มิลเนอร์ยิงข้ามคานแบบน่าเจ็บใจ บอกได้ชัดเจนว่าริชาร์ดส์ยังคงเหนือกว่าจอห์นสันในหลายประเด็น
เปเป้ เรน่า...
ผิดแล้วแก้ไข เจ็บแล้วต้องจำ เกมในพรีเมียร์ ลีก ที่โดนเรือใบจัดการราบคาบ เปป เรน่า มีส่วนกับความผิดพลาดค่อนข้างชัดเจน
ทว่าเรน่าก็จัดการตัวเองให้กลับมาเป็นคนเฝ้าเสาที่มีประสิทธิภาพดังเดิมได้ ถือว่ารอดตัวไปไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก
สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด...
ก่อนหน้านี้หลายคนกังวลและตั้งคำถามเอาไว้เมื่อเจอร์ราร์ดหายจากบาดเจ็บแบบยาวๆกลับมาจะเหมือนเดิมหรือใกล้เคียงของเดิมได้แค่ไหน เริ่มได้คำตอบชัดเจนขึ้น
ทั้งการผ่านบอล การวิ่งสู้ฟัดและการเข้าบอลที่รุนแรงมีให้เห็นกันแล้ว รวมทั้งการยิงจุดโทษได้เด็ดขาด 2 นัดติดต่อกัน การประคบประหงมของดัลกลิชที่ไม่รีบเร่งให้เล่นแบบเต็มแมตช์เร็วเกินไปได้ผลทีเดียว
ซามีร์ นาสรี่...
คงไม่มีใครเถียงว่าตั้งแต่ย้ายออกมาจากทีมปืนโต ซามีร์ นาสรี่เป็นบัวใต้น้ำมาตลอด ฟอร์มเหี่ยวไปอย่างน่าใจหาย มีเพียงช่วงต้นของการออกสตาร์ตเท่านั้นเองที่ทำได้ดี
นาทีนี้ไม่มีเรื่องราวเดิมๆให้เห็น สตาร์ตจากข้างสนามคงตอกย้ำได้เป็นอย่างดีถึงฟอร์มของนาสรี่ในตอนนี้ แม้แต่ทีมชาติก็ยังออกมากระตุ้น ถ้าคิดจะมีชื่อในทีมชาติฝรั่งเศสกันต่อไปต้องเค้นฟอร์มออกมาให้ได้มากกว่าที่เป็นอยู่
หัวใจไม่ทำงาน...
แว็งซ็องต์ กอมปานี,ยาย่า ตูเร่,และดาวิด ซิลบา คือหัวใจสำคัญของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่มีคนใดคนหนึ่งในสนามก้หนักหนาเพียงพอแล้ว ทว่าช่วงเวลาที่ทั้ง 3 คนหายหน้าหายตาไปพร้อมกัน
มันทำให้เกมของเรือใบกลายเป็นเกมธรรมดาๆทีมหนึ่งเท่านั้น เกมรับสับสนอลหม่าน เกมรุกไม่มีอะไรหวือหวาหรือว่ากดดันคู่แข่งได้ชัดเจน ไม่มีตัวสร้างสรรค์ผลิกสถานการณ์ให้กับทีม
ดาวิด ซิลบาไม่เต็มร้อยแต่จะกลับมาได้เร็วๆนี้ ในขณะที่กอมปานีมีโทษแบนอีก 3 นัด ส่วนยาย่า ตูเร่ ถ้าไอวอรี่ โคสต์ เข้ารอบลึกเท่าไหร่ในศึกแอฟริกันเนชั่นส์ คัพ จะยิ่งทำให้ช่วงเวลาที่ขาดหายไปจากทีมเรือใบยิ่งยาวนานขึ้น
ไวท์ ฮาร์ท เลน...
แฟนบอลยังคงเต็มสนามและยังคงเบิกบานกับผลงานของทีมอย่างต่อเนื่อง แฮร์รี่ เรดแนปป์ พาทีมขึ้นมาทาบรัศมีชองผีแดงด้วยการเก็บแต้มได้เท่ากันแล้ว พรีเมียร์ ลีก กับการแย่งแชมป์ยังคงเต็มไปด้วยสีสัน ไม่ใช่แค่เพียง 2 ทีมจากแมนเชสเตอร์ ลุ้นกันต่อไปให้ยืนระยะยาวๆได้ตลอดเพื่อความมันส์
แฮร์รี่ไม่มีปัญหา...
แมนเชสเตอร์ ซิตี้เสียยาย่า ตเร่กับโคโล ตูเร่ ที่ไปเล่นแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ในขณะที่อาร์เซนอลไม่มีแชร์วินโญ่กับชามัคห์ ทว่ากับสเปอร์สปัญหาดังกล่าวไม่เกิดขึ้นเลย
ทั้งอัสซุ เอก็อตโต้,เอ้มมานูเอล อเดบายอร์และสตีเฟ่น พีนาร์ ยังคงอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาให้แฮร์รี่ เรดแนปปืได้เลือกใช้บริการ เพราะทีมชาติของนักเตะเหล่านั้นไม่ผ่านรอบคัดเลือก
นั่นทำให้ความเป็นปึกแผ่นของสเปอร์สยังคงอยู่ครบครัน
เบลฟรี ฟิล เนวิลล์ซวย...
ฤดูกาลที่แล้วฟิล เนวิลล์ เป็นนักเตะเกมรับคนหนึ่งที่จัดการแกเร็ธ เบล ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทว่าคืนวันพุธที่ผ่านมา แฮร์รี่ เรดแนปป์ จัดกระบวนท่ากันใหม่
ให้แกเร็ธ เบล,ลูก้า โมดริช เคลื่อนไหวกันอย่างอิสระ ไปกันทั่วสนามสลับสับเปลี่ยนกัน นั่นทำให้ฟิล เนวิลล์ ต้องปวดกบาลทั้ง 90 นาที
มันเป็นเรื่องย่ากอย่างยิ่งที่จะตามประกบทั้ง 2 คนที่เคลื่อนไหวกันไปเรื่อยไม่ติดนิ่งอยู่ในตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง แม้ว่าเดวิด มอยส์ จะสั่งลูกทีมที่อยู่ใกล้นักเตะทั้ง 2 คนให้เข้าไปช่วยกันประกบไม่ใช่ตามเกาะติดเพียงคนเดียว แต่ให้ช่วยกัน 2-3 คนตลอดเวลาก็ยังมีปัญหา
อย่าว่าแต่เกมรับเลย เกมรุกของท็อฟฟี่ก็ไม่สามารถเข้าไปสร้างรอยขีดข่วนให้กับเกมรับของสเปอร์สแม้แต่น้อย มีเพียงวีแกน,คิวพีอาร์และเวสต์บรอมเท่านั้นที่ยิงประตูได้น้อยกว่าเอฟเวอร์ตัน
แบร๊ด ฟรีเดล ผู้รักษาประตู ไมเคิล ดอว์สันและยูเนส กาบูล คู่เซ็นเตอร์แบ็กของสเปอร์ส แทบจะยืนหนาวตายคาสนาม เพราะไม่มีโอกาสได้ขยับตัวให้เหงื่อซึมแม้แต่น้อย ถ้าก่อกองไฟคลายความหนาวกันได้ในสนามคงทำกันไปแล้ว
เรื่องโดย "ดามัน"
คอลัมน์ ทดเจ็บ 3 นาที นสพ.กีฬารายวันฮอตสกอร์
