สุดท้ายเหมือนเดิม

สุดท้ายเหมือนเดิม

สุดท้ายเหมือนเดิม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอลโคปา เดล เรย์ รอบ 8 ทีมสุดท้ายนัดแรกผ่านไปแล้ว 3 คู่  บิลเบา ชนะ มาญอร์ก้า 2-0 ,เอสปันญ่อล ชนะ มิรานเดส 3-2 และเกมล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา เรอัล มาดริดแพ้คาบ้านให้บาร์เซโลน่าไป 1-2

ส่วนวันนี้ซึ่งท่านน่าจะทราบผลการแข่งขันแล้ว ว่าศึก ดาร์บี้ แมตช์ ระหว่างบาเลนเซียกับเลบานเต้นั้นเป็นยังไง

ซึ่งประเด็นที่อยากจะพูดถึงในวันนี้คงหนีไม่พ้นเอล กลาซิโก้ ภาคโคปา เดล เรย์ แน่นอน

เรอัล มาดริด เตรียมการทุกอย่างเพื่อล้มบาร์ซ่าให้ได้ โจเซ่ มูรินโญ่ จัดทีมชุดที่พร้อมที่สุดลงสนามในแท็กติก 4-3-3 คาซิญาสลงเฝ้าเสา เซร์คิโอ รามอสยืนแบ็กขวาแทน อัลบาโร่ อาร์เบลัวที่โดนแบน ในส่วนของ กองหลังได้ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ หายเจ็บกลับมายืนคู่กับ เปเป้ ... ในส่วนแบ็กซ้ายใช้ฟาบิโอ โคเอนเทรา แทนมาร์เซโล่ที่ได้พัก

แดนกลาง ยัด ฮามิต อัลตินท็อป ลงไปเล่นร่วมกับลาสส์ ดิยาร์ร่า และชาบี้ อลอนโซ่ ในส่วนแดนหน้าใช้ กอนซาโล่ อิกวาอิน ร่วมกับคาริม เบนเซม่า และคริสติอาโน่ โรนัลโด้

การจัดตัวของมาดริดชัดเจนว่าเน้นมากกับถ้วยใบนี้เพื่อตัดกำลังบาร์ซ่า การส่งสำรองบางตำแหน่งเพราะจำเป็นเนื่องจากตัวหลักนั้นเจ็บ และแบน

ฟากผู้มาเยือนจากคัมป์ นู ส่งโฆเซ่ ปินโต้ลงตัวหลักในถ้วยใบนี้ชัดเจนอยู่แล้ว แนวรับพวกเขากลับมาใช้ 4 คนเหมือนเดินเพื่อความเหนียวแน่นในเกมรับ ในส่วนแดนกลาง และหน้าไม่เพี้ยนไปจากที่ผมว่าไว้เมื่อวานนี้ บุสเก็ตส์ตัดเกม ชาบี้ อินิเอสต้า ลงป่วนแนวรับมาดริด และใช้อเล็กซิส ซานเชซ ,เมสซี่ และ เชส ฟาเบรกาสลงยิง

อย่างที่บอกว่าเรอัล มาดริดต้องการล้างอายบาร์ซ่าอย่างมากเนื่องจากเจอกันในปีนี้และปีก่อนพวกเขาเสียหน้าและแพ้มาตลอด อย่างไรก็ตาม เกมรอบชิงเมื่อปีที่แล้วทีมของมูรินโญ่ ชนะในช่วงต่อเวลาพิเศษมาได้

ซึ่งเกมนี้ก็เหมือนว่าจะดีเมื่อคริสติอาโน่ โรนัลโด้กระชากไปยิงให้ทีมราชันชุดขาวนำก่อน ในนาทีที่ 11 แต่นั่นคือจังหวะเดียวที่มาดริดมีโอกาสยิงและเป็นจังหวะเดียวที่แนวรับบาร์ซ่าพลาด

หลังจากนั้นทีมของกวาร์ดิโอล่าได้โอกาสหลายต่อหลายครั้งทั้งลูกโหม่งชนเสาของ อเล็กซิส หรือลูกยิงของลิโอเนล เมสซี่ แต่ไม่ผ่านมือคาซิญาส

ทว่าครึ่งหลังเกมรุกของบาร์ซ่าจบได้คมและแน่นอนมากขึ้น และมาได้ประตูตีเสมอเร็วในนาที 48 จากลูกเตะมุมและเป็นคาร์เลส ปูโยลที่พุ่งโหม่งเข้าไป

อย่างที่บอกว่าเกมนี้ทีมของกวาร์ดิโอล่าครองบอลได้มากกว่า และมีโอกาสเข้าทำได้หลายครั้ง อินิเอสต้าล้มตัวยิงไปชนคาน แต่เรอัล มาดริดก็เกือบนำจากการโหม่งของเบนเซม่าที่ไปชนเสา

สุดท้ายเรอัล มาดริดก็เอาไม่อยู่ เมื่อลิโอเนล เมสซี่ตักบอลให้ เอริก อบิดัล แบ็กซ้ายตัวเก๋าที่เพิ่งต่อสัญญาออกไปอีก 1 ปี หลุดไปดีดด้วยซ้ายเข้าไปช่วยให้บาร์เซโลน่าบุกมาชนะเรอัล มาดริด 2-1 เป็นชัยชนะ ฉลองวันเกิดให้กับโจเซ็ป กวาร์ดิโอล่าอีกด้วย

แต่เกมแบบนี้หากไม่มีเรื่องรุนแรงทะเลาะกันก็ไม่ใช่ศึก กลาซิโก้ ที่ทั้งคู่เกลียดชังกันมาแต่ชาติปางก่อนนั้นเอง

เกมนี้เป็นมาดริดที่พยายามเล่นแบบชวนทะเลาะและฟ้องกรรมการหลายดอกหลังจากก่อนเกม กวาร์ดิโอล่าเปิดประเด็นเรื่องผู้ตัดสินมาก่อน

ทว่าที่น่าเกลียดและน่าขายหน้าที่สุดก็คือ จังหวะที่เปเป้ เจตนาย่ำไปที่มือของลิโอเนล เมลซี่ ในจังหวะที่กองหน้าอาร์เจนไตน์นั่งอยู่บนพื้นนั้น มีแต่คนด่ากันทั้งโลก จังหวะดังกล่าวเมสซี่โดน กาเญฆอนสอยร่วงไป แล้ว เปเป้เดินไปเหยียบเอาดื้อๆ ซึ่งผู้ตัดสินให้เพียงใบเหลืองในเกมนี้เท่านั้น

หลังเกมไม่มีใครไม่พูดถึงเรื่องนี้ แม้แต่โจเซ่ มูรินโญ่ ที่ปกติจะเซฟลูกทีมตลอด งวดนี้ออกโรงมาสวดเปเป้ด้วยคน บอกว่าหากแนวรับโปรตุเกสเหยียบจริงก็สมควรโดนลงโทษเพราะเป็นการเหยียบคนที่ล้มลงไปแล้วนั้่นเอง

แต่งานของบาร์ซ่ายังไม่จบ เช่นเดียวกับเรอัล มาดริดที่ยังมีลุ้นเข้ารอบเช่นกัน เพราะยังมีให้ลุ้นในเลกที่ 2 วันพุธหน้า มาดริดแพ้สกอร์เดียวต้องบุกไปชนะบาร์ซ่าที่ 2 ประตูขึ้นไป เช่นเดียวกับเงื่อนไขของบาร์ซ่านั้น ง่ายกว่าเยอะแค่เสมอ หรือ แพ้ 0-1 ก็ลอยลำแล้ว

ไม่มีอะไรง่าย และยากสำหรับทั้งสองทีม และเลกหน้าที่คัมป์ นู

จะเป็นแมตช์ที่ดุเดือดอย่างแน่นอน

เรื่องโดย "เอล มาทาดอร์ "

<< เรอัล มาดริด 1-2 บาร์เซโลน่า >>

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ ของ สุดท้ายเหมือนเดิม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook