‘หมาไล่เนื้อ’ตัวใหม่?

‘หมาไล่เนื้อ’ตัวใหม่?

‘หมาไล่เนื้อ’ตัวใหม่?
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่นักกีฬาไทยซักคนจะคว้าเหรียญในโอลิมปิกเกมส์ได้ถึง 2 ครั้งติดต่อกันหากไม่ใช่ "ฝีมือ" และ "วาสนา"  มาเคียงคู่กัน ข่าวการ "ตัดหาง" หรือ ให้ "มนัส บุญจำนงค์" อดีตฮีโร่โอลิมปิกเกมส์เก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋ากลับบ้าน

หมดอนาคตทีมชาติสร้างประวัติศาสตร์ให้กับตัวเอง หลายคนทำใจเผื่อใจเรียบร้อยแล้ว

เพราะสภาพร่างกายในการกลับมาแล้วพ่ายมวยมาเลเซียในซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ที่ เมืองปาเลมบังของอินโดนีเซีย ต่อเนื่องข่าวการเบี้ยวไปแข่งขันปรีโอลิมปิกเกมส์ที่กรุงลอนดอน

ประกอบกับห้วงเวลาที่เหลือ 2-3 เดือนก่อนคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์โซนเอเชีย ที่ประเทศคาซัคสถาน ไม่น่าพอที่จะกลับมาแกร่งแล้วชนะใครต่อใครได้อีก

สภาพสังขารเป็นปัจจัยสำคัญ แต่ไม่สำคัญเท่ากับ "ใจ" หรือ "ความมุ่งมั่น" ที่เป็นไฟในตัว "มนัส" ซึ่งมอดสนิท

เมื่อได้โอกาสตั้งแต่ช่วงก่อนซีเกมส์ "มนัส" กลับปล่อยหลุดมือ จะหวังแก้ตัวซ้ำๆ เหมือน "เสธ.อ้าย" พลเอกบุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ นายกสมาคม เคยให้ไว้เหมือน "อ่อนนอกแข็งใน" เพราะได้ประกาศเป็นเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

การกลับมาของ "ไอ้เติ้ล" ที่แม้จะมีลูกพี่ "สมรักษ์ คำสิงห์" คุ้มหัวจึงตีบตัน และมืดมิดเหมือนอยู่กลางถ้่ำ

เหลือช่องขอประลองคัดเลือกกับนักมวยไทย ความน่าสนใจ คือ สมาคมมวยสากลสมัครเล่นฯ ยุคนี้จะหาทางออกแบบไม่โหดร้ายเกินไป

เชื่อได้ว่าเวลาของ "มนัส" หมดไปอย่างน่าเสียดาย แม้จะไฟเขียวให้ซ้อมเองแล้วมาประลองเพื่อคัดเลือก

เหลือทิ้งไว้กับเรื่องราวฮีโร่ และเส้นทางที่พูดคุยกับอนาคตที่มืดมนนับจากนี้ เพราะใช้เงินเหมือนกระดาษในช่วงเฟื่องฟู และหมดลงอย่างรวดเร็ว

เมื่อเทียบกับ "สมรักษ์" ในฐานะลูกพี่ น่าจะไม่แตกต่างกันมากนักในการใช้เงิน แต่สิ่งที่ไม่เหมือน คือ "เจ้าบาส" สามารถหาเงินได้หลากหลาย ทั้งการแสดงหนังจอแก้ว และอื่นๆ

โดยเฉพาะเงินเดือนจากข้าราชการทหารเรือ และเงินเดือนจากโอลิมปิกไทยที่น่าจะได้ร่วมแล้วเกือบครึ่งแสนบาท

ผิดกับ "เจ้าเติ้ล" ที่ไร้ยศตำแหน่งราชการทหาร ขณะที่เรื่องความกว้างขวาง และช่างจำนรรจาก็แตกต่างกันลิบ จึงน่าห่วงกับชีวิตความเป็นอยู่นับจากนี้

ชีวิตนักมวยว่ากันว่าเหมือน "หมาไล่เนื้อ" ได้แต่ภาวนาว่า "ไอ้เติ้ล" จะไม่ตกอับจนเป็นข่าวเชิงลบในอนาคต

พร้อมกับเป็นอุทาหรณ์สอนใจ เป็นกระจกสะท้อนใบใหญ่ถึงความรุ่งโรจน์ และร่วงโรย ที่มาอย่างรวดเร็ว ในห้วงเวลาไม่ถึง 10 ปี

ขอบคุณกับความสุขที่มอบให้คนไทยในช่วงโอลิมปิกเกมส์ ฝากดูแลตัวเองก็แล้วกันนะ เรื่องตกค้างกันนั้น "หลี่หมิง" อโหสิกรรมให้

แต่อย่า "รีเทิร์น" มาหานะ บ๊ายบาย ปู๊นๆ ฉึกฉักๆๆๆๆ

เรื่องโดย "หลี่หมิง"

<< คลิป มนัส คว้าเหรียญทองที่ เอเธนส์เกมส์ ปี 2004 >>

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook