เช็กบิลเอฟเอ คัพ...???

สรุปผลงานในศึกเอฟเอ คัพ รอบที่ 4 โดย..ดามัน

อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน...

เฟอร์กี้ยังคงมึนไม่หายที่พ่ายให้กับลิเวอร์พูล เพราะลูกทีมทำทุกอย่างในเกมได้ตามต้องการแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการคุมจังหวะเกม การเล่นที่แน่นอนกว่า แต่กลับกลายเป็นผู้ปราชัย

อย่างไรก็ตามทีการตัดสินใจของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ไม่ต้องการเล่นนัดรีเพลย์เพราะเห็นว่าเกมในสนามมันเข้าทางและผีแดงสามารถหาโอกาสปิดกล่องได้แน่นอน การเดิมพันด้วยการเติมเกมรุกอย่างฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ลงไปแทนพอล สโคลส์ ถือว่าเสี่ยงเหมือนกัน

และเป็นการเสี่ยงที่มีที่มาที่ไป ไม่อยากให้โปรแกรมที่หนักหนาสาหัสอยู่แล้วในช่วง 3-4 นัดที่รออยู่ ต้องมีเกมนัดรีเพลย์กับหงส์แดงแทรกเข้ามาเพิ่ม

เอาตัวรับออกมาแล้วใส่ตัวรุกเข้าไปจี๊ดจ๊าด โซนของเกมรับย่อมเปลี่ยนแปลงไปด้วย และนั่นทำให้เฟอร์กี้ยังไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นที่ลิเวอร์พูลปิดเกมได้สำเร็จด้วยประตูของเดิร์ค เคาท์ โดยที่เฟอร์กี้ไม่ต้องเล่นนัดรีเพลย์จริงๆ

เกมที่เฟอร์กี้ต้องเจอคือการไปเยือนเชลซีและเล่นในบ้านเจอกับลิเวอร์พูล คือ 2 เกมพรีเมียร์ ลีกที่รออยู่ ทว่าก่อนจะถึง 2 เกมนั้นคงต้องผ่านสโต๊คในคืนนี้ให้ได้เสียก่อน

ถ้ามีนัดรีเพลย์มันจะทำให้โปรแกรมเหนื่อยใจขึ้นมาอีกเพียบ เพราะยูโรป้า ลีกก็จะเข้ามาสู่สารบบอีกครั้งในกลางเดือนกุมภาพันธ์

เดวิด เด เกอา...

ผลการแข่งขันของผีแดงหลายต่อหลายนัดที่ความผิดพลาดของผู้รักษาประตูคือปัจจัยหลัก การสลับสับเปลี่ยนเรื่องของผู้รักษาประตูที่จะลงทำหน้าที่ในสนามแต่ละนัดของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คือสิ่งที่การันตีเรื่องราวได้ว่าปัญหายังคงอยู่กับทีมต่อไป

จังหวะเซ็ตพีซ เดวิด เด เกอา คือเป้าหมายของลิเวอร์พูล วางกำลังบล็อกเอาไว้ให้แน่นหนาเพื่อกันเด เกอา ออกมาตัดลูกโด่งซึ่งเป็นจุดอ่อนอยู่แล้ว จนทำให้แดเนียล แอ็กเกอร์โหม่งประตูแรกได้สำเร็จ

สำหรับประตูที่ 2 ซึ่งเด เกอา โดนเดิร์ค เคาท์ ยิงผ่านไปได้ในช่วงใกล้หมดเวลาการแข่งขัน เด เกอา เลือกที่จะล้มตัวสกัดบอลด้วยเท้าซึ่งอาจจะได้ผลมาบ่อย แต่ถ้าเลือกพุ่งขึ้นไปข้างหน้าปิดทางยิงให้แคบลงไปอีก หรือล้มตัวเซฟอาจจะได้ผลมากกว่า

ทว่า เด เกอา เลือกใช้เท้าสกัดจนตุงตาข่าย ส่งผีแดงตกรอบเอฟเอ คัพ ไปในที่สุด

เคนนี่ ดัลกลิช...

หลังจากออกปากด่าลูกทีมหลายคนที่เล่นเหมือนไม่ทุ่มเท เหมือนไม่มีใจให้กับเกมสักเท่าไหร่ จนพ่ายโบลตันแบบสร้างความเดือดดาลให้กับกุนซือและแฟนบอลได้เป็นอย่างดี

นักเตะหงส์แดงตอบสนองเรื่องราวที่แฟนบอลและกุนซือต้องการทันทีด้วยการผ่านเกมหนักทั้ง 2 นัดติดต่อกันได้ หลังจากผ่านเรือใบเข้าไปชิงคาร์ลิ่ง คัพ และส่องแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตกรอบเอฟเอ คัพ

บรรยากาศและอารมณ์ของทุกฝ่ายผ่อนคลายและเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นมาทันตาเห็น

เจอร์เมน เบ็คฟอร์ด...

2 ประตูของหัวหอกเลสเตอร์ ส่งทีมผ่านสวินดอนไปได้สำเร็จ เป็นเรื่องที่ตอกย้ำกันอีกครั้งว่า ถ้ากุนซือยังคงมั่นใจและหนุนหลังเหมือนเดิม เบ็คฟอร์ดก็จะทำผลงานได้ดีเมื่อทีมต้องการ

เร็วและแข็งแกร่ง แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่เอฟเวอร์ตัน ยังคงคิดถึงกันอยู่ที่ปล่อยตัวออกไปเพราะทีมต้องการเงินเข้าคลังของสโมสร จนทำให้มีปัญหาในเรื่องคนปิดสกอร์ให้ทีมมาจนถึงนาทีนี้

วิล บัคลีย์...

ฟอร์มสดใสดีแท้สำหรับนักเตะของไบรจ์ตันคนนี้ ช่วยทีมได้เด่นชัดอัดนิวคาสเซิลหงายท้องกันเลยทีเดียว ความเร็ว ความมุ่งมั่นคือปัจจัยหลักของบัคลีย์ในนัดนี้ ซึ่งสร้างปัญหาให้กับดาวิเด้ ซานตอน ได้ตลอดเวลา

ถือว่าเสียหายอย่างยิ่งสำหรับ อลัน พาร์ดิวและลูกทีมสาลิกา เพราะที่เหลือไม่รู้ว่าจะลุ้นอะไรได้อีก พื้นที่ในบอลถ้วยจบสิ้นกันไป ในขณะที่พื้นที่ไปเล่นถ้วยยุโรปโดยเฉพาะใบเล็กก็เป็นเรื่องยาก

เอาเป็นว่าลุยกันให้สนุกสนานก็แล้วกัน ได้เดมบา บา กลับมาเร็วกว่าที่คิด รวมทั้งปาปิส ซิสเซ่ คู่หูคนใหม่ แต่นั่นก็น่าเสียดายที่สาลิกาดันชิงตกรอบไปซะก่อน

อาร์เซนอล...

กว่าจะกลับมาเล่นได้ดั่งใจ เล่นได้ในมาตรฐานของตัวเองเล่นเอาลุ้นกันเหนื่อย อาร์เซนอลออกสตาร์ตด้วยอาการเนือยๆ ไม่หวือหวา แถมไม่เล่นในจังหวะที่ตัวเองถนัดอีกต่างหาก

โดนไปก่อน 2 ประตู ออกมาสู้ใหม่ในครึ่งหลัง นั่นจึงมีโอกาสได้เห็นเกมของอาร์เซนอลที่เร็วขึ้น เปลี่ยนจังหวะการเล่นให้เป็นของถนัดของตัวเอง แบ็กและกองหลังมีส่วนร่วมกับเกมรุกมากขึ้น ไม่รู้ว่าเพราะสถานการณ์มันบีบคั้นหรือเปล่า

กับการต้องตามล่าหาประตูให้ได้ แต่ก็ทำได้ดีอย่างที่เห็นกัน โธมัส แฟร์มาเล่น เติมเกมรุกทางด้านแบ็กซ้ายได้ตลอด ในขณะที่กอสเซียลนี่ลุยจนได้จุดโทษ

อาร์แซน เวนเกอร์...

ก่อนหน้านี้มีปัญหากับการตัดสินใจของผู้ตัดสินและผู้ช่วยผู้ตัดสิน ที่ไม่ค่อยจะตัดสินใจให้จุดโทษหรือลงโทษคู่แข่งของทีมปืนโตสักเท่าไหร่ นอกจากทีมจะชนะแล้ว สิ่งที่เวนเกอร์สบายใจและนอนตายตาหลับได้เสียทีก็คือผู้ตัดสินตัดสินได้ถูกใจด้วยจุดโทษ 2 ครั้งของอาร์เซนอล

อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน...

หลังจากที่อาร์แซน เวนเกอร์ ยอมรับว่าเปลี่ยนตัวผิดพลาดในนัดพ่ายให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เกมเอฟเอ คัพ เวนเกอร์จึงใส่อเล็กซ์ อ็อกซ์เลดเป็นตัวจริงอีกครั้งและปล่อยให้เล่นยาวๆจนเกือบหมดเวลาการแข่งขัน

แข็งแกร่งและมีจินตนาการ นั่นคือแชมเบอร์เลน จนมีการพูดกันหนาหูมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับพื้นที่ในทีมชาติกับศึกยูโร 2012 ช่วงซัมเมอร์ที่จะถึงนี้ สำหรับตัวอ็อกซ์เลดและสโมสรถือว่าเป็นเรื่องดีที่มีสิ่งนั้นเข้ามา

ทว่าต้องรับมือกันให้ถูกต้องอย่ากลายเป็นเหลิงอย่างเด็ดขาดและอาจจะหลงลืมตัวกันได้ง่าย นอกจากนี้ยังต้องพิสูจน์ในระดับสโมสรด้วยการลงเล่นอย่างต่อเนื่องให้ได้เสียก่อน

เธียร์รี่ อองรี...

ไม่มีอะไรมากกับการลงสนามมาในนาทีสุดท้ายของการแข่งขัน แต่สิ่งที่อองรีสร้างให้กับทีมได้เป็นอย่างดีในนัดนี้ก็คือการเป็นเชียร์ลีดเดอร์ ออกไปวอร์มอัพ จะได้รับเสียงเชียร์ตลอดเวลา เรียกเสียงฮือฮาเรียกสีสันให้กับแฟนบอล แม้ว่าคนที่เป็นความคาดหวังสูงสุดและยังคงแบกรับภาระของทีมเอาไว้เต็มๆคือ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ก็ตาม

ริชาร์ด ดันน์ & ดาร์เรน เบนท์...

เวรกรรมของแท้พังประตูให้กับทีมได้ทั้ง 2 คน ช่วยให้แอสตัน วิลล่า นำปืนใหญ่ไปก่อนถึง 2 ประตู ทว่าดันเป็นคนทำฟาวล์จนเสียจุดโทษให้กับอาร์เซนอล 2 ครั้ง จนทีมพ่ายในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ริชาร์ด ดันน์ ยังโชคดีอยู่บ้างที่ยังอยู่ในสนามได้ไม่โดนผู้ตัดสินชักเหลืองที่ 2 ให้ในจังหวะเสียบอารอน แรมซีย์ หลังจากก่อนหน้านั้นได้ใบเหลืองมาแล้วจากการทำฟาวล์ โธมัส โรซิคกี้

จอห์น เทอร์รี่...

โดนแฟนบอลคิวพีอาร์ตะโกนด่าให้ระคายหูตลอดทั้งบ่าย ต้องมีจิตใจที่แข็งแกร่งจริงๆ ถึงจะผ่านช่วงเวลาที่ว่าไปได้ด้วยดี ต้องเก็บงำอารมณ์อย่างเต็มที่ เจทีมืออาชีพจริงๆ แม้ว่าเอฟเอ จะรับข้อเสนอรับการร้องขอของทั้ง 2 ทีมที่ไม่ต้องมีการจับมือก่อนแข่ง

ทว่าเมื่อเกมจบก็อย่าหวังว่าเทอร์รี่จะได้จับมือกับนักเตะคิวพีอาร์ง่ายๆ ต้องมองหาโจอี้ บาร์ตัน เป็นการใหญ่ในฐานะเป็นกัปตันทีมเช่นกัน อย่างไรก็ตามถ้าผิดจริง จอห์น เทอร์รี่ ก็ต้องรับโทษแต่โดยดีเหมือนกัน

เรื่องโดย "ดามัน"