My Liverpool:ควันหลงหงส์ฟัดไก่
ผลการแข่งขันเกมพรีเมียร์ลีกนัดมันเดย์ไนต์ที่ผ่านมาระหว่าง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กับ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ จบลงด้วยการเสมอกันไป 0-0 ในเกมที่เกือบจะต้องถูกยกเลิกอันเนื่องจากมีหมอกปกคลุมจัด
การคัมแบ็กของ หลุยส์ ซัวเรซ หลังจากพ้นโทษแบนแบบลืมญาติ และการไม่สามารถคุมทีมข้างสนามได้ของ แฮร์รี่ เรดแนปป์ อันเนื่องมาจากสภาพอากาศอันเป็นอุปสรรค
ลิเวอร์พูล มีโปรแกรมลงเล่นในพรีเมียร์ลีกเกมล่าสุดในเกมนัดมันเดย์ไนต์ โดยเปิดรัง แอนฟิลด์ ของตัวเองรับการมาเยือนของ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ทีมที่อยู่ในกลุ่มลุ้นแชมป์
โดย เคนนี่ ดัลกลิช และลูกทีมก็หวังที่จะเก็บชัยชนะในเกมนี้ให้ได้แช่นกัน เพราะพวกเขาต้องการที่จะทำคะแนนขึ้นไปเบียดกับทีมอย่าง เชลซี, อาร์เซนอล รวมถึง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด สำหรับการลุ้นพื้นที่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า
ข่าวดีของ ลิเวอร์พูล ในเกมนี้คือพวกเขาสามารถจะกลับมาใช้งานดาวยิงชาวอุรุกวัยก็คือ หลุยส์ ซัวเรซ ได้อีกครั้ง หลังจากที่เขาพ้นโทษแบน 8 นัดจากกรณีไปเหยียดผิว ปาทริซ เอฟร่า ในเกมลีกเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน เรียบร้อย
แต่ทว่า เคนนี่ ดัลกลิช เลือกที่จะให้ ซัวเรซ นั่งเป็นตัวสำรองดูเพื่อนเล่นไปก่อน เพราะอดีตดาวซัลโวลีกดัตช์รายนี้เรื้อสนามไปนาน โดยไม่ได้ลงเล่นเลยนับตั้งแต่เดือนธันวาคมปีก่อน
แนวรุกที่ คิง เคนนี่ เลือกใช้ในเกมนี้ถือว่าเป็นชุดที่สมบูรณ์ และ พร้อมอย่างยิ่งทีเดียวนำทีมโดย แอนดี้ คาร์โรลล์, เคร็ก เบลลามี่ และ เดิร์ก เคาท์
และเป็น ลิเวอร์พูล ที่เปิดฉากลุยเข้าใส่ทันทีตั้งแต่เริ่มเกม จากการปั้นเกมของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีประตูเกิดขึ้น ขณะที่เกมรุกของ สเปอร์ส ที่เคยเฉียบขาดกลับดูเงียบๆไปในเกมนี้ แทบจะทิ้งให้ เปเป้ เรน่า ยืนดูเกมแบบสบายใจตลอด 45 นาทีแรก ผิดกับอดีตเด็กเก่าของ ลิเวอร์พูล อย่าง แบร็ด ฟรีเดล ที่มีช็อตให้แสดงฝีมือเป็นระยะๆ
กลับมาลุยกันต่อครึ่งเวลาหลัง รูปเกมยังดำเนินไปในแบบเดียวกันกับครึ่งเวลาแรก โดย ดัลกลิช เลือกจะส่ง หลุยส์ ซัวเรซ ลงมาสัมผัสเกมเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 เดือนในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้าย
แค่ไม่กี่วินาทีที่ได้ลงมาอยู่ในสนาม ซัวเรซ ก็เรียกเสียงฮือฮาจากบรรดาเดอะ ค็อป ได้ทันทีเมื่อเข้าไปแย่งบอลมาจาก เบอนัวต์ อัสซู-เอก็อตโต้ ก่อนจะเปิดต่อทันทีให้กับ เจอร์ราร์ด ที่ได้หลุดเข้าไปยิง แม้ว่าจังหวะนี้จะไม่ได้ประตูแต่ก็ทำเอาแฟนๆได้ลุ้นไม่น้อย
สเปอร์ส ในเกมนี้ที่เด่นสุดคงหนีไม่พ้น แกเร็ธ เบล ที่หาจังหวะเข้ามาสร้างความปั่นป่วนได้เป็นระยะๆ แต่ลูกยิงไกลหลายๆครั้งของดาวเตะทีมชาติเวลล์ ก็ไม่สามารถจะเจาะตาข่ายของ เปเป้ เรน่า ได้ ก่อนที่สุดท้ายทั้ง 2 ทีมจะจำใจต้องแบ่งแต้มกันไปเมื่อจบเกม
ผลเสมอในเกมนี้ทำให้ล่าสุด ลิเวอร์พูล ยังมีแต้มห่างจากทีมอันดับ 4 ในตารางอย่าง เชลซี อยู่ 4 คะแนน โดยทีมอันดับ 1-4 เท่านั้นที่จะได้สิทธิไปเล่นในถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้าจากโควตาของอันดับในลีก
===============================================
เคนนี่เชื่อมั่นแนวรุกจะค่อยๆดีขึ้นแน่
“คิง เคนนี่” เคนนี่ ดัลกลิช บอสใหญ่ของ ลิเวอร์พูล ออกมากล่าวให้สัมภาษณ์ด้วยความมั่นใจว่าการทำประตูของทีมที่ทำประตูได้น้อยในฤดูกาลนี้จะค่อยๆดีขึ้นอย่างแน่นอน หลังจากในเกมล่าสุดที่ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเสมอกับ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ด้วยสกอร์ 0-0 และทีมของเขามีโอกาสหลายครั้งที่น่าจะทำประตูเก็บ 3 คะแนนได้
ลิเวอร์พูล ตั้งเป้าที่จะจบด้วยการติดอยู่ใน 4 อันดับแรกเพื่อคว้าสิทธิผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า อย่างไรก็ดีผลเสมอในเกมลีกล่าสุดที่พบกับ สเปอร์ส ในแอนฟิลด์ของตัวเอง ทำให้สถานการณ์ของพวกเขาในตารางคะแนนเวลานี้อยู่ห่างจากทีมอันดับที่ 4 อย่าง เชลซี อยู่ 4 คะแนน
แม้การไม่เสียประตูในเกมนี้จะทำให้จำนวนคลีนชีตของ เปเป้ เรน่า พุ่งขึ้นไปเป็น 10 เกมในฤดูกาลนี้ ซึ่งถือเป็นสถิติที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกก็ตาม แต่ปัญหาที่พวกเขายังแก้ไม่ตกยังเป็นเรื่องของการทำประตูเหมือนเดิม
“จริงอยู่ที่มันเป็นสิ่งที่น่าพอใจมากที่ทีมไม่เสียประตู แต่การทำประตูให้ได้ก็สำคัญไม่แพ้กัน”
“เราสร้างโอกาสในการทำประตูหลายครั้งทีเดียวในเกมนี้ แต่เรายังต้องทำงานให้หนักขึ้นกว่านี้ในการแก้ไขการทำประตูให้ได้จากโอกาสที่มี ผมรู้ว่าเราต้องดีขึ้นกว่านี้แน่ เหมือนอย่างที่ แกรี่ เพลเยอร์ เคยกล่าวว่า ยิ่งคุณฝึกฝนหนักมากขึ้นเท่าใด โชคของคุณก็จะดีมากขึ้นเท่านั้นด้วย”
“ผมและลูกทีมจะพยายามกันให้หนักมากขึ้น เพื่อให้เรายิงประตูมากขึ้นให้ได้”
“หากถามถึงภาพรวมในเกม น่าพอใจมั้ยหรือ ผมคงตอบว่าไม่สำหรับผลการแข่งขัน มันน่าเสียดายอยู่เหมือนกันที่เราเก็บได้คะแนนเดียวในเกมนี้ แต่การจะมานั่งวิพากษ์วิจารณ์ลูกทีมโดยที่พวกเขาได้ทุ่มเทลงไปอย่างเต็มที่แล้วก็คงไม่ใช่เรื่องที่ดีเท่าไหร่”
“หากเรามีโชคติดปลายสตั๊ดของเราอีกสักนิด เราคงเดินออกจากสนามหลังจบเกมนี้พร้อมกับ 3 คะแนนอย่างแน่นอน”
เมื่อถูกถามถึงการที่จับเอา หลุยส์ ซัวเรซ สตาร์ตด้วยการให้เป็นตัวสำรองแทนที่จะให้ลงเล่นเป็นตัวจริงในทันทีนั้น คิง เคนนี่ ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า
“เขาไม่ได้ลงสนามเลยตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นมา ดังนั้นมันอาจจะไม่ค่อยแฟร์นักต่อเขาหากเราส่งเขาลงสนามไปตั้งแต่ต้นเกม การได้ลงเล่นในครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของเกมสำหรับเขาถือเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้ว”
“และอย่างที่ทุกคนได้เห็น ทุกครั้งที่ หลุยส์ ได้ครองบอลมันเหมือนกับว่าเขาสามารถจะสร้างสิ่งที่เซอร์ไพรส์ให้เกิดขึ้นได้เสมอ เราทุกคนในทีมต่างดีใจที่ได้เห็นเขากลับมาอยู่ในสนามอีกครั้ง”
===============================================
วอดเดิ้ล ให้เครดิต ลิเวอร์พูล มีลุ้นพื้นที่ชปล.
อดีตตำนานปีกจอมพลิ้วของ สเปอร์ส และทีมชาติอังกฤษนาม คริส วอดเดิ้ล เชื่อว่า ลิเวอร์พูล ยังเป็นทีมที่ไม่น่ามองข้ามและมีลุ้นที่จะทำอันดับไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า
โดยกล่าวชื่นชมถึงแนวทางในการทำทีมของ เคนนี่ ดัลกลิช ที่พาทีมกลับมาได้อย่างรวดเร็วหลังจากที่ไปพ่ายต่อ โบลตัน เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน
ในช่วงระยะเวลาห่างกันประมาณ 10 วันหลังจากที่ไปพ่ายต่อ โบลตัน วันเดอเรอร์ส 1-3 คา รีบ็อค สเตเดี้ยม แต่หลังจากความพ่ายแพ้ในเกมนั้น ลิเวอร์พูล ก็ฟื้นคืนชีพกลับมาอย่างเหลือเชื่อเริ่มด้วยการหักด่าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของฟุตบอลถ้วย คาร์ลิ่ง คัพ ได้สำเร็จ
ตามด้วยการเอาชนะคู่ปรับตลอดกาลอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในรอบ 4 ของฟุตบอลเอฟเอ คัพ และการบุกไปขย้ำ วูล์ฟส์ ถึงโมลินิวซ์ กราวนด์ ด้วยสกอร์ ถึง 3-0
ซึ่งจากผลงานเหล่านี้เองที่ทำให้ คริส วอดเดิ้ล อดีตดาวดังของ สเปอร์ส และ อังกฤษ ต้องออกมากล่าวชม ลิเวอร์พูล ก่อนหน้าเกมมันเดย์ไนต์จะเริ่มต้นขึ้น
“ลิเวอร์พูล กำลังอยู่ในฟอร์มการเล่นที่ดี ณ ตอนนี้พวกเขามีความมั่นใจอยู่เต็มเปี่ยม.”
“ผมนั่งดูเกมอยู่ในสนามด้วยในวันที่พวกเขาไปแพ้ที่ โบลตัน ซึ่งอาจจะเป็นผลงานที่แย่ที่สุดของพวกเขาในฤดูกาลนี้เลยก็ว่าได้ แต่หลังจากผ่านเกมนั้น ดูเหมือนพวกเขาจะเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้สำเร็จ ไล่ตั้งแต่ปราบ ซิตี้, ยูไนเต็ด ตามด้วย วูล์ฟส์”
“เกมกับ สเปอร์ส จะเป็นเกมที่สนุกแน่นอน และผมเชื่อว่า ลิเวอร์พูล จะได้ลุ้นอันดับ 4 ในลีกปีนี้ไม่น้อยไปกว่า อาร์เซนอล และ เชลซี”
วอดเดิ้ล ยังได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับผลงานของ แอนดี้ คาร์โรลล์ กองหน้าลิเวอร์พูล ที่เคยเล่นให้กับ นิวคาสเซิล ทีมที่ วอดเดิ้ล เคยลงเล่นให้เป็นเวลามาถึง 5 ฤดูกาลเช่นกันไว้ด้วยว่า
“สิ่งหนึ่งที่ผมชื่นชมในตัว แอนดี้ มากๆก็คือ เขาไม่เคยท้อถอย หรือ ยอมแพ้ง่ายๆ ในทุกเกมที่ผมได้ดูเขาเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล เขาพยายามจะสู้เพื่อให้ได้บอลมาครองอยู่เสมอ”
“มันดูเหมือนว่าเมื่อเขาทำประตูไม่ได้ เขาดูลดความน่าเกรงขามลงไป แต่ผมหวังว่าจากฟอร์ม และ ประตูที่เขาทำได้ในเกมกับ วูล์ฟส์ จะเป็นการเริ่มต้นนับหนึ่งที่แท้จริงในฤดูกาลนี้สำหรับเขา”
เรื่องโดย "มาร์ค สุรเดช"