มาตรฐานผีแดงอยู่ตรงไหน...???

ไม่คุ้นกันสักเท่าไหร่ที่ได้เห็นเกมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาอยู่ในคืนวันพฤหัส ช่วงเวลานี้ในรอบหลายปีที่ผ่านมาต้องเห็นผีแดงโลดเล่นอยู่ในถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก มาตลอด ทว่าวันนี้ต้องทำศึกยูโรป้า ลีก หลังจากพลาดท่าให้กับบาเซิลจนต้องตกรอบแบ่งกลุ่มถ้วยใหญ่

ก่อนหน้านี้เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือผีแดงบอกเอาไว้ว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชื่อชั้นและมาตรฐานของทีมใกล้เคียงกับบาร์ซ่าและมาดริด ห่างกันไม่มากอย่างที่คิดกัน

ทุกคนคาใจและกังวลกับมาตรฐานในสนามของผีแดง หลังจากเห็นบาร์ซ่าโชว์ในถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลก่อน เริ่มจากตรงนั้นที่เฟอร์กี้บอกว่าต้องไล่ล่าระยะห่างดังกล่าวให้ได้

ช่วงเวลาที่ผ่านไป ป๋าแกบอกว่านาทีนี้ใกล้เคียงแล้ว...

ค้านอย่างแรงกับฟอร์มของผีแดงในถ้วยยุโรป ในรอบแบ่งกลุ่มคงไม่มีใครหน้าไหนที่จะคิดว่าผีแดงจะตกรอบเมื่อเห็นทีมร่วมกลุ่มอย่างบาเซิล,เบนฟิก้าและโอเตลุน กาลาติ

เบนฟิก้าอาจจะเป็นงานยากหน่อย แต่บาเซิลกับโอเตลุน กาลาติ ยังห่างชั้นกันอยู่ ไม่มีเหตุผลอะไรที่ผีแดงจะผ่านเข้าไปเล่นในรอบน็อกเอาท์ไม่ได้

เฟอร์กี้เพียงคนเดียวเท่านั้นที่รู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น และยังคงต้องปรับกันขนาดไหน และรู้ดีว่าถ้วยยุโรปปีนี้ไม่เหลืออะไรให้ภูมิใจอีกแล้ว

อย่างไรก็ตามทีถ้วยเล็กใบเล็กของยุโรปใบนี้ซึ่งตามความรู้สึกกันแล้วคงไม่แตกต่างกันสักเท่าไหร่กับถ้วยคาร์ลิ่ง คัพ ก็คงไม่ใช่ว่าเฟอร์กี้จะไม่สนใจใยดี

ถ้ามองกันในมุมของการวัดมาตรฐานตัวเองอีกครั้งอยู่ตรงไหนแน่ คงต้องเต็มที่กับถ้วยใบนี้มากทีเดียว พรีเมียร์ ลีก คือเป้าหมายหลัก นั่นไม่เถียงอยู่แล้ว แต่เป็นไปไม่ได้ที่เฟอร์กี้จะทิ้งขว้างยูโรป้าไปแบบง่ายๆ โดยไม่คิดที่จะพิสูจน์มาตรฐาน เพื่อบอกให้รู้ว่าที่ตกรอบแบ่งกลุ่มเป็นเพียงความผิดพลาดในช่วงเวลานั้นแต่มาตรฐานของทีมยังคงเด่นชัดอยู่

ในพรีเมียร์ ลีก คงไม่มีใครไปตราหน้าทีมอย่างผีแดง จะเป็นช่วงเวลาไหน ลำบากลำบนเพียงใดก็ยังคงเป็นทีมที่สามารถมองหาความสำเร็จได้ตลอดเวลา

มาตรฐานของผีแดงกับบอลภายในถือว่าแน่นอนกว่าทุกทีม คงไม่มีปีไหนที่เริ่มออกสตาร์ตด้วยการมองข้ามการเป็นทีมเต็งของผีแดงไปได้เลย

ไม่ว่าช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านเรื่องรุ่นของนักเตะในทีม ซึ่งแต่ละช่วงต่างวิจารณ์กันไปต่างๆนานา สุดท้ายแล้วผีแดงก็ยังแกร่งเหมือนเดิม

ฤดูกาลนี้ก็เช่นกัน มาถึงช่วงเปลี่ยนผลัดในหลายตำแหน่ง มีรุ่นใหม่ๆก้าวขึ้นมาหลายคน จนหลายคนคิดว่าผีแดงฤดูกาลนี้มาตรฐานของทีมต่ำกว่าในอดีตที่ผ่านมา ทว่ายังสามารถลุ้นแชมป์พรีเมียร์ ลีกได้สบายๆ

ว่ากันแบบนั้นก็ไม่ผิดครับ...

ทว่า เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คงอยู่นิ่งไม่ได้แน่นอน หากมองย้อนออกไปในยุโรป มาตรฐานของผีแดงอยู่ตรงไหนกันแน่ จะมัวแต่ขำ มัวแต่ถากถางลิเวอร์พูลที่ไม่มีถ้วยใหญ่ยุโรปให้เล่น ไม่ได้ลุ้นแชมป์พรีเมียร์มาจนลูกโตกันหมดแล้ว เพียงแค่นั้นคงไม่ได้

ถ้าจะให้ใกล้บาร์ซ่าต้องทำมากกว่าแค่ข่มหงส์แดงก็พอใจแล้ว...

ถ้ามองกันแบบกลางๆขุมกำลังของผีแดงยังแกร่งไม่พอ ไม่อย่างนั้นเฟอร์กูสัน คงไม่ไปตามพอล สโคลส์ กลับมาเล่นอีกครั้งหรือยังคงยื้อให้ไรอัน กิ๊กส์ อยู่ช่วยทีมกันไปเรื่อยๆ

เฟอร์กี้ยังคงมีปัญหาอยู่บ้างในช่วงเปลี่ยนถ่ายครั้งนี้ และเป็นปัญหาที่ต้องยอมรับว่าถ้าจะยกระดับตัวเองให้ได้นั้นมันยังคงต้องปรับกันในหลายจุดทีเดียว

ตกรอบแบ่งกลุ่ม ทุกอย่างมันฟ้องไว้หมดแล้ว ไม่ต้องแก้ตัวอะไรทั้งนั้น...

คำพูดของเฟอร์กี้ที่ว่าใกล้บาร์ซ่าและมาดริดเต็มที จึงค่อนข้างง่ายแต่จะใช่หรือไม่เครื่องหมายคำถามตามมาเพียบ อย่างน้อยก็คงได้คำตอบในระดับหนึ่งแล้วว่าทำไมผีแดงจึงต้องมาเล่นในคืนวันพฤหัส ซึ่งเป็นค่ำคืนที่ไม่เคยชินแน่นอน

ในพรีเมียร์ ลีก ชื่อของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงหลอกหลอนกันอยู่ และต้องห้ำหั่นกันยาวๆแน่นอน การจะกลับไปยิ่งใหญ่จับจองอะไรได้ง่ายๆคงต้องวางรากฐานของทีมกันใหม่ ก่อนที่เฟอร์กี้จะวางมือจากตรงนี้ไปในอีก 3 ปีข้างหน้า ?

ดาวิด เด เกอา,ฟิล โจนส์,ทอม เคลฟเวอร์ลีย์,นานี่,เวย์น รูนีย์ พวกนี้คือกระดูกสันหลังของทีมในอนาคตอันใกล้อย่างไรก็ตามทีการลงทุนยังคงจำเป็นที่จะต้องมีอยู่เช่นเดิม เพื่อให้มาตรฐานของทีมมั่นคงและอยู่ในระดับที่ต้องการจริงๆ

อย่างที่บอกเอาไว้ ต้องไปตามพอล สโคลส์ กลับมาช่วยทีมมันบอกถึงปัญหาที่มีผลกระทบต่อทีมในตอนนี้ ตั้งแต่ซื้ออันแดร์สันเข้ามาเตรียมการไว้ จนพอล สโคลส์ เลิกเล่นไปแล้วอันแดร์สันก็ยังไม่สามารถทดแทนได้

ในตำแหน่งแบ็กซ้ายของทีมก็เช่นกัน เดาใจเฟอร์กี้เอาไว้ได้เลย มองหาใครเป็นตัวแทนเอาไว้แล้ว เพราะปาทริซ เอฟร่า จะมีเพียงขาลงเพียงอย่างเดียวให้เห็น นับแต่นาทีนี้เป็นต้นไป

เวลายังคงมีให้แก้ไขกันไป แต่ถ้าจะบอกว่าใกล้เคียงแล้วกับมาตรฐานของ 2 ทีมใหญ่จากแดนกระทิงคงไม่ใช่แน่นอน

ความสำเร็จในถ้วยไหนก็ได้อาจจะเป็นกำลังใจที่ดีได้ และถ้าจะมองให้ง่ายก็คงเป็นยูโรป้า ลีก พรีเมียร์ ลีก นั้นไม่ใช่ว่าผีแดงยังแล้งโอกาส แต่เรือใบมันจะไม่แผ่วให้เห็นนี่สิปัญหา

การจริงจังในถ้วยยุโรปป้า จึงอาจจะเป็นไปได้สำหรับเฟอร์กี้ นอกจากจะเป็นเป้าหมายที่สามารถหยิบฉวยได้ เพราะถ้วยเล็กๆถ้วยอื่นไม่มีให้เลือกแล้ว ยังมีเหตุให้พิสูจน์แบบจริงจังไปเลยว่าที่ตกรอบแบ่งกลุ่มมาเพราะว่ามาตรฐานของทีมตกลงไปจริงหรือเปล่า

ความสำเร็จในถ้วยใหญ่ของยุโรป ยังคงคาใจอเล็กซ์ เฟอร์กูสัน มาตลอด ทำไมถึงคว้าแชมป์มากกว่านี้ไม่ได้ ทั้งที่ในรอบหลายปีที่ผ่านมาโอกาสก็มีเยอะ

ยูโรป้า ลีก ก็ไม่เลวนะ ถ้าจะเริ่มต้นด้วยกับเก็บเล็กผสมน้อยไปตอนนี้เลย

เพราะฉะนั้นถ้าใครจะคิดกันไปว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดและเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะทิ้งขว้างถ้วยยูโรป้า ไปง่ายๆ อาจจะต้องคิดกันใหม่อีกครั้ง

การเริ่มต้นที่แท้จริงของผีแดงอาจจะอยู่ที่ตรงนี้ก็เป็นได้

เรื่องโดย "ดามัน"