อันดับ 4 มีแค่ทีมเดียว...???
พรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้ด้านบนของตารางดูคึกคักในระดับหนึ่ง แม้ว่าการลุ้นแชมป์จะมีไม่มากทีม อยากจะให้ทั้ง 7 อันดับต้นตารางมีลุ้นทั้งหมด แต่ก็เป็นไปไม่ได้ ส่วนใหญ่จะลงมากองกันอยู่ที่การลุ้นพื้นที่อันดับ 4 ของตาราง เพื่ออันดับไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดศึกโดยตรงกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ ลีก สเปอร์สของแฮร์รี่ เรดแนปป์ ตามมาห่างๆ บ้างก็บอกว่ายังไงก็ไล่ไม่ทัน บ้างก็ยังให้เครดิตแอบลุ้นได้
อย่างไรก็ตามทีที่ดูไม่น่าจะมีปัญหาก็คืออย่างน้อยๆต้องรักษาอันดับ 3 ของตารางเอาไว้จนสุดเส้นทางในฤดูกาลนี้ นั่นเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสอย่างยิ่งกับ 13 นัดที่เหลืออยู่ สำหรับอาร์เซนอล, เชลซี, นิวคาสเซิล และลิเวอร์พูล ที่จะต้องแย่งตำแหน่งเดียวกันในตารางนั่นคืออันดับ 4 เพื่อเป้าหมายถ้วยใหญ่ของยุโรป
เพราะฉะนั้น ทั้ง 4 ทีมคงไม่ต้องไปรอหายนะที่จะเกิดขึ้นกับสเปอร์สให้เสียเวลา ที่เดียว ที่สุดท้ายตรงนั้นต้องหามาให้ได้ด้วยตัวเองล้วนๆ
ทีมไหนจะได้พื้นที่ตรงนี้ไปครอง ตัวโก่งแน่นอนกับการลุ้น โปรแกรมที่แต่ละทีมต้องเจอกับทีมใหญ่ๆที่อยู่อันดับต้นๆ ซึ่งถือว่าเป็นอุปสรรคและอาจจะเป็นตัวทำให้อันดับในตารางเปลี่ยนแปลงไปได้ในหลายทิศทาง
ทีมใหญ่ ชื่อชั้นรู้จักมักคุ้นกันดี ฤดูกาลนี้ต้องมีทีมที่พลาดโอกาสถ้วยใหญ่ของยุโรปที่ว่าอย่างแน่นอน และการคาดเดาตรงนี้เพื่อความรื่นเริงเท่านั้น อย่างที่บอกมีปัจจัยหลายอย่างที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงเบี่ยงเบนไปจากการคาดเดา
เชลซี...
โปรแกรมที่เหลือ : โบลตัน (หย), เวสต์บรอม (ย), สโต๊ค (หย), แมนฯ ซิตี้ (ย),สเปอร์ส (หย), วิลล่า (ย), วีแกน (หย), ฟูแล่ม (ย), นิวคาสเซิล (หย), อาร์เซนอล (ย), คิวพีอาร์ (หย), ลิเวอร์พูล (ย), แบล็คเบิร์น (หย)
ผลงาน 13 นัดที่ผ่านมา : 21 คะแนน จาก 39 คะแนน
คะแนนที่คาดจาก 13 นัดที่เหลือ : 26 คะแนน จาก 39 คะแนน
จบด้วยอันดับในตาราง : อันดับ 4 มี 69 คะแนน
ขยายความ : คงต้องพูดถึงการเล่นแบบเน้นเกมในบ้านทั้งหมดต้องพยายามเก็บ 3 แต้มให้ได้ทุกนัด นั่นอาจจะเพียงพอต่อการรั้งอันดับ 4 เอาไว้ได้ เพราะเกมที่ต้องไปเยือนมีหลายนัดเจอของหนักไม่ว่าจะเป็นการไปเยือนแมนเชสเตอร์ ซิตี้, อาร์เซนอล และลิเวอร์พูล
นอกจากนี้คำพูดของแดเนียล สเตอร์ริดจ์ ที่ว่า เชลซีไม่มีการแบ่งกันเป็นก๊กเป็นเหล่าอย่างที่เป็นข่าว ทีมยังคงเป็นครอบครัวเหมือนเดิม และพร้อมจะหนุนหลังกุนซือเต็มที่ คำพูดเหล่านี้ต้องเป็นจริง
อีกประเด็นที่ลืมไม่ได้ การลุ้นพื้นที่ตรงนี้ต้องมีปัจจัยที่ว่าอังเดร วิลลาส โบอาส ยังคงได้รับความไว้วางใจให้คุมทีมแบบตลอดรอดฝั่ง เพราะผิดไปจากนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรจะเกิดขึ้นบ้าง
อาร์เซนอล...
โปรแกรมที่เหลือ : สเปอร์ส (หย), ลิเวอร์พูล (ย), นิวคาสเซิล (หย), เอฟเวอร์ตัน (ย), วิลล่า (หย), คิวพีอาร์ (ย), แมนฯ ซิตี้ (หย), วูล์ฟส์ (ย), วีแกน (หย), เชลซี (หย), สโต๊ค (ย),นอริช (หย), เวสต์บรอม (ย)
ผลงาน 13 นัดที่ผ่านมา : 21 คะแนน จาก 39 คะแนน
คะแนนที่คาดจาก 13 นัดที่เหลือ : 25 คะแนน จาก 39 คะแนน
จบด้วยอันดับในตาราง : อันดับ 5 มี 68 คะแนน
ขยายความ : การตกรอบหมดทุกถ้วยเรียบร้อยไปแล้ว แม้ว่าจะเหลือเลก 2 ของแชมเปี้ยนส์ ลีก ให้ลุ้น แต่ก็เป็นเรื่องที่ยากเกินจริง นี่อาจจะเป็นตัวกระตุ้นหลักให้กับอาร์เซนอลที่เหลือเป้าหมายเดียวต้องคว้าอันดับ 4 ไปเล่นแชมเปี้ยนส์ ลีก อีกครั้งในฤดูกาลหน้าให้ได้
ทว่าปัจจัยดังกล่าวดูเหมือนมีปัญหาไม่น้อยเช่นกัน กับความเชื่อมั่นในตัวกุนซือ ความแน่นอนและการตอบสนองของนักเตะตัวหลักของทีม และที่สำคัญเช่นกันนั่นคือเรื่องของการบาดเจ็บ
เรื่องราวเหล่านี้เป็นเหตุการณ์ที่เราอาจจะได้เห็นกัน และนั่นส่งผลทำให้อาร์เซนอลต้องหลุดพื้นที่อันดับ 4 ไปแบบฉิวเฉียด
ลิเวอร์พูล...
โปรแกรมที่เหลือ : เอฟเวอร์ตัน (หย) รอกำหนดวันแข่งใหม่ เพราะลิเวอร์พูลติดคิวนัดชิงคาร์ลิ่ง คัพ, อาร์เซนอล (หย), ซันเดอร์แลนด์ (ย), คิวพีอาร์ (ย) รอกำหนดวันแข่งใหม่ ลิเวอร์พูลติดคิวเอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีมสุดท้าย, วีแกน (หย), นิวคาสเซิล (ย), วิลล่า (หย), แบล็คเบิร์น (ย), ฟูแล่ม (หย), เวสต์บรอม (หย), นอริช (ย), เชลซี (หย), สวอนซี (ย)
ผลงาน 13 นัดที่ผ่านมา : 17 คะแนน จาก 39 คะแนน
คะแนนที่คาดจาก 13 นัดที่เหลือ : 25 คะแนน จาก 39 คะแนน
จบด้วยอันดับในตาราง : อันดับ 6 มี 64 คะแนน
ขยายความ : ภายใต้การคุมทีมของเคนนี่ ดัลกลิช ลิเวอร์พูล ดูมีทิศทางที่ดีมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าผลงานในพรีเมียร์ ลีก ของหงส์แดงแย่กว่าที่คิดเอาไว้เมื่อเทียบกับฟุตบอลถ้วยที่ยังคงลื่นไหลไปเรื่อย
ทั้งคาร์ลิ่ง คัพ ที่รอชิงชนะเลิศวันอาทิตย์นี้ อีกทั้งยังคงอยู่ในเส้นทางของถ้วยเอฟเอ คัพ ซึ่งทีมใหญ่หลายทีมไม่ว่าจะเป็นแมนเชสเตอร์ ซิตี้, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรืออาร์เซนอล ต่างชิงหล่นกันไปหมดแล้ว
การมีคิวบอลถ้วยเหลืออยู่ตรงนี้ มีผลกระทบต่อทีมมากทีเดียว ยิ่งต้องมีแมตช์รีเพลย์ จะยิ่งทำให้คิวชุกชุมมากยิ่งขึ้น โปรแกรมพรีเมียร์ ลีก ที่ต้องเลื่อนออกไป จะกระจุกอยู่ในช่วงท้ายนั่นทำให้เหนื่อยหัวใจกันเลยทีเดียว
แมตช์ที่จะเจอกับอาร์เซนอล มันเหมือนไฟต์บังคับ ต้องขยับ 3 แต้มให้ได้ก่อนจะไม่มีเวลาหายใจเพราะโดนทิ้งห่างถ้าเกิดแพ้ขึ้นมา 3 แต้มที่ว่าสำคัญแค่ไหนเดี๋ยวก็รู้ และที่แน่ๆลิเวอร์พูลมีคิวที่จะต้องเจอกับเชลซีในแอนฟิลด์เช่นกัน นั่นคือโอกาสทองสำหรับความหวังที่วางเอาไว้
อย่างไรก็ตามที ผลงานในบ้านที่แต้มหล่นมากมายจากการเสมอ อาจจะเป็นเรื่องที่หงส์แดงหนีไม่ออก
นิวคาสเซิล...
โปรแกรมที่เหลือ : วูล์ฟส์ (หย), ซันเดอร์แลนด์ (หย), อาร์เซนอล (ย), นอริช (หย),เวสต์บรอม (ย), ลิเวอร์พูล (หย), สวอนซี (ย), โบลตัน (หย), เชลซี (ย), สโต๊ค (หย), วีแกน (ย),แมนฯ ซิตี้ (หย), เอฟเวอร์ตัน (ย)
ผลงาน 13 นัดที่ผ่านมา : 17 คะแนน จาก 39 คะแนน
คะแนนที่คาดจาก 13 นัดที่เหลือ : 22 คะแนน จาก 39 คะแนน
จบด้วยอันดับในตาราง : อันดับ 7 มี 62 คะแนน
ขยายความ : แมตช์ที่ต้องเดินทางไปเยือนสวอนซี, อาร์เซนอล, เชลซี และเอฟเวอร์ตัน รวมทั้งแมตช์ในบ้านที่จะต้องรับมือกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และคู่แข่งแย่งพื้นที่โดยตรงอย่างลิเวอร์พูล ดูเหมือนจะหนักหนาสาหัสสำหรับนิวคาสเซิลอย่างยิ่ง
ที่ผ่านมาถือว่าสร้างเซอร์ไพรส์เอาไว้มากมาย จนถึงนาทีนี้ก็ยังคงมีอยู่ ยังคงลุ้นพื้นที่ยุโรปได้อย่างเหนียวแน่น ทว่าถ้าจะเทียบกับเชลซี, อาร์เซนอล และลิเวอร์พูล อาจจะยังคงไม่ใช่วันของนิวคาสเซิลสำหรับพื้นที่อันดับ 4 ในฤดูกาลนี้
เรื่องโดย "ดามัน"