กรมพละเร่งเคลียร์จุฬาฯ เรื่องค่าเช่าสัปดาห์นี้
ความคืบหน้าของเรื่องที่ทางจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย จะให้ทางกรมพลศึกษาคืนที่ดิน 11ไร่ พร้อมทั้งขึ้นค่าเช่าที่ดินปีละ 153-157 ล้านบาทนั้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 ก.พ. นางแสงจันทร์ วรสุมันต์ อธิบดีกรมพลศึกษา เผยว่า ตอนนี้ทางกรมพลศึกษาพยายามติดต่อจุฬาฯ และสำนักงานทรัพย์สินฯ เพื่อหารือถึงเรื่องนี้ จริงๆ แล้วการขอคืนพื่นที่ 11 ไร่ นั้น เป็นไปไม่ได้ เพราะพื้นที่ภายในสนามกีฬาแห่งชาติ ทุกตารางนิ้ว เราใช้งานเพื่อพัฒนาวงการกีฬาเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นสนามศุภชลาศัยหรือแม้แต่อาคารจันทนยิ่งยง ซึ่งในช่วง 3 เดือนต่อจากนี้จะมีโครงการ"ร้อนนี้เพื่อลูกรัก" อบรมกีฬา ถึง 16 ชนิดกีฬา ไม่ว่าแม้แต่จะให้เอกชนเช่าพื้นที่ด้วยซ้ำ ประกอบกับยังมีการจัดการแข่งขันอีกหลายรายการต่อจากนี้อีกด้วย
"ถ้ามีการแข่งขัน เราก็ต้องใช้สนามเหล่านี้จัดการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็น อาคารนิมิบุตร, อาคารจันทนยิ่งยง รวมทั้ง สนามเทพหัสดิน, สนามศุภชลาศัย ซึ่งในส่วนของค่าเช่าพื้นที่นั้น คงต้องคุยกับทางสำนักงานงบประมาณฯ เพราะก่อนที่ทางกรมพลศึกษาจะใช้จ่ายงบบประมาณนั้น ต้องคุยกับทางสำนักงบประมาณฯ ว่าจะจ่ายได้เท่าไหร่ แต่จะให้จ่ายถึง 153-157 ล้านบาทแทบจะเป็นไปไม่ได้ เพราะเรามีมาตรฐานการจ่ายค่าเช่าตามที่ได้กำหนดไว้เราคงต้องขอความเห็นใจจากทางจุฬาฯ ด้วย เพราะฉะนั้นคงต้องคุยกันระหว่างสำนักงบประมาณและอธิการบดีของจุฬาฯ ว่าจะตกลงค่าเช่าสัญญาใหม่อย่างไร ต้องพูดคุยกันภายในสัปดาห์นี้"
อธิบดีกรมพละเผยอีกว่า ขณะนี้ได้มีการคุยกับอธิการบดีของจุฬาฯ ในระดับหนึ่งเท่านั้น ปัญหาคือตอนนี้ทางจุฬาฯ ขอดูแผนในการใช้พื้นที่ แต่กรมพละเห็นว่ามันเป็นเรื่องภายในและกะทันหัน ทำให้ยังหาข้อยุตินี้ไม่ได้ อย่างไรก็ตามจะต้องรีบเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้คงต้องพูดคุยกันว่าผลสรุปค่าเช่าจะออกมาเท่าไหร่กันแน่"