บทสรุปครึ่งทาง "ไทยลีก 2017"
ผ่านไปกัน ครบ 17 นัดกันเกือบทุกทีม สำหรับการแข่งขันฟุตบอล โตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2017 สถานการณ์ลุ้นแชมป์ และการหนีโซนท้ายตาราง มีอะไรให้พูดถึงมากมาย วันนี้ก็เลยอยากเรียบเรียง เรื่องราวคร่าวๆ ในความทรงจำ ครึ่งซีซั่นแรก ของไทยลีก ฤดูกาล 2017 ในมุมมองของผม แบบเน้นๆ มาให้อ่านกันเพลินๆครับ
เริ่มกันที่กลุ่มหัวตาราง เริ่มจากทีม "จ่าฝูง" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่การันตี แชมป์ในเลคแรก ไปเรียบร้อย ฟอร์มทีม "ปราสาทสายฟ้า" ในปีนี้ ไม่หวือหวา แต่สม่ำเสมอมาก เก็บแต้มได้เป็นกอบเป็นกำ เมื่อเจอทีมในโซนกลางตาราง และท้ายตาราง โดยสองเกมที่พลาดท่าแพ้ในซีซั่นนี้ คือการเสียท่าต่อทั้ง เชียงราย ยูไนเต็ด และบางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมอันดับสามและสี่ ฟอร์มที่แน่นอน ส่งผลทำให้อันดับของทีม ค่อยๆขยับช้าๆ จากกลางตารางขึ้นมาอยู่บนสุดของตาราง อย่างน่าประทับใจ
จุดเปลี่ยนของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด น่าจะอยู่ที่การปรับเปลี่ยนระบบการเล่น จนเข้ากับสไตล์การเล่นของนักเตะในทีม การปรับจากระบบกองหลัง 3 ตัว มาเล่นแบบแบ็คโฟร์ ทำให้เกมของบุรีรัมย์นิ่ง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ประกอบกับทีเด็ดการประสานงานในเกมรุก ของ ชาช่า โคเอลโญ่ "กองหน้าคนใหม่" กับ ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต "ขวัญใจคนเดิม" ทำให้บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กลับมาทวงความยิ่งใหญ่ คืนจากคู่ปรับตลอดกาล เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด อย่างเต็มตัว
ส่วนการเริ่มต้นที่สวยงามของ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทำให้ดูเหมือนว่า โอกาสป้องกันแชมป์สดใส อีกทั้งฟอร์มการเล่นในฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ที่ยอดเยี่ยม ทำให้คาดหมายกันว่า ปีนี้จะเป็นปีทองอีกปีของทีม "กิเลนผยอง"
แต่อาจจะด้วยโปรแกรมการแข่งขันที่อัดแน่น ต้องลงสนามสองรายการพร้อมๆกัน ความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ปัญหาการบาดเจ็บของผู้เล่นตัวหลัก ส่งผลให้พวกเขาเริ่มออกอาการสะดุด และแพ้มา 6 เกมติดต่อกัน (3 เกมในลีก และ 3 เกม ในแชมเปี้ยนส์ ลีก) จนล่าสุดโดน บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำคะแนนแซงหน้าขึ้นไปเป็นจ่าฝูงแทน อย่างไรก็ตาม ทีม "แชมป์เก่า" ยังมีเกมตกค้างที่จะต้องลงสนามอีก 1 เกม แต่เป็นเกมยาก ต้องดวลกับ เชียงราย ยูไนเต็ด ทีมอันดับสามของตาราง เกมตกค้างจะมีขึ้น ในวันศุกร์ที่ 2 มิถุนายนที่จะถึงนี้
ม้ามืดหัวตารางอย่าง เชียงราย ยูไนเต็ด และ บางกอกกล๊าส เอฟซี ก็เป็นอีก 2 ทีม ที่จะมองข้ามไปไม่ได้เช่นกัน เริ่มจากทีม "กว่างโซ้ง" เชียงราย ยูไนเต็ด ปีนี้มาดีเหลือหลาย การลงทุนเสริมทัพก้อนโตเริ่มส่งผล หลายคนอาจจะเป็นห่วงเชียงรายในเรื่องการยืนระยะ แต่ผลงานที่น่าประทับใจของ เชียงราย ในครึ่งซีซั่นแรก คือการเอาชนะทั้ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และบางกอกกล๊าส ทีมในระดับท๊อปโฟร์มาทั้งสองทีม และทีมกำลังจะพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง ในการออกไปเยือน เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ในศึกชิงตำแหน่ง "รองจ่าฝูง"
สำหรับ บางกอกกล๊าส เอฟซี ทีมอันดับที่สี่ของตาราง เป็นอีกทีมที่ทำผลงานได้แน่นอน และสม่ำเสมอขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เล่นเกมในบ้านดุดัน ขณะที่เกมนอกบ้าน หลายๆเกมก็สามารถดึงแต้มกลับบ้านได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งถ้าหากมีการเสริมทีมที่ถูกจุด ในเลคที่สอง อาจกลายเป็นจุดเปลี่ยนให้ทีมดังจากปทุมธานี ทำผลงานในลีกได้ดีที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา
ส่วนในกลุ่มโซนท้ายตาราง ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นคือทีม ซูเปอร์พาวเวอร์ หรือทีม โอสถสภา เดิม ซึ่งแฟนบอลคงต้องทำใจล่วงหน้า สำหรับการอำลาลีกสูงสุด พวกเขามีปัญหาใหญ่นอกสนาม ส่งผลกระทบมาถึงฟอร์มการเล่นและผลงานในสนามอย่างชัดเจน แต่สิ่งที่อยากชื่นชมและให้กำลังใจ คือการยังคงต้องการมีส่วนร่วมกับการแข่งขันต่อไป
ส่วนอีกสองทีม ที่อาจจะต้องหนีโซนตกชั้นกันอย่างสุดชีวิต ไล่ขึ้นไปตั้งแต่ สุโขทัย ไทยฮอนด้า ศรีสะเกษ พัทยา รวมถึง ราชนาวี ที่ต้องสู้กันสุดเหยียด เพื่อหนีอีก 2 โควตาที่ไม่มีใครต้องการ
ส่วนประเด็นที่ว่า ใครเป็นนักเตะยอดเยี่ยมใน 17 เกมแรก ของไทยลีก ก็คงต้องเลือกจากทีมที่ได้มีโอกาสบรรยาย และเห็นฟอร์มมากหน่อย ตัวต่างชาติ คงต้องเป็นชาช่า โคเอลโญ่ ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เข้ามาเติมเต็มเกมรุกที่ขาดหายไปของทีมได้อย่างลงตัว ทั้งการยิงประตู และจ่ายบอลให้เพื่อนเข้าทำ
ส่วนผู้เล่นไทยที่ ส่วนตัว ชื่นชอบเป็นพิเศษ อยากยกให้ "เจ้าเบิร์ด" วิชาญ นันทะศรี ปีกจอมขยัน จอมทุ่มเท ของ บีอีซี เทโร ที่ล่าสุดได้รับบาดเจ็บหนัก ในเกมปิดเลกที่เจอกับ ชลบุรี เอฟซี ซึ่งฟอร์มก่อนหน้าได้รับบาดเจ็บ วิชาญ ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ ในทุกเกมที่ได้ลงสนาม มีประตูสุดสวยจากผลงานของเขาหลายต่อหลายประตู ซึ่งสุดท้ายนี้ก็ขออวยพรให้หายไวๆนะครับ แล้วกลับมาเจอกันใหม่ในเลกที่สอง
เอาละครับ ก่อนจากกันไปวันนี้ ก็ฝากติดตามผลงานของทีมชาติไทยยุคใหม่ ภายใต้การทำทีมของ มิโลวาน ราเยวัช กุนซือชาวเซิร์บ โดยในวันที่ 6 ทีมชาติไทยมีเกมอุ่นเครื่องไปเยือน อุซเบกิสถาน เวลา 17.00 ต่อด้วยกลับมาเล่นในบ้านพบ ทีมชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก รอบ 12 ทีมสุดท้าย ในวันที่ 13 มิถุนายน
ถึงแม้ว่าเราจะหมดโอกาสเข้ารอบสุดท้ายอย่างแน่นอนแล้ว แต่ยังไงก็ทีมชาติไทยของเราครับ เชียร์กันเต็มที่แบบไม่ต้องมีเหตุผลก็ได้ ไทยแลนด์ ปู๊นๆ