"เซาะกราว" โกอินเตอร์ โดย ดาร์ค ไนท์
ฟุตบอล: ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เอาชนะ เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด 2-0 คว้าแชมป์ถ้วยพระราชทาน ก ได้เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
จากนั้น แข้ง "เซาะกราว" มีคิวต้องบินไป เมือง เซนได ประเทศญี่ปุ่น เพื่อลงแข่งขันกับ เวกัลตะ เซนได รองแชมป์เจลีก ในศึก "เอซีแอล" เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก วันนี้ (26/02/56)
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฝากผลงานอันยอดเยี่ยมในถ้วยใหญ่เอเชียปีก่อน ด้วยการเปิดบ้านชนะ คาชิว่า เรย์โซล จาก ญี่ปุ่น 3-2 และ บุกทุบ กว่างโจว เอฟเวอร์แกรนด์ ถึงเมืองจีน 2-1
แต่หลังจากนั้นก็ไม่อาจต้านทานความแข่งแกร่งของเพื่อนร่วมกลุ่มพ่ายอีก 4 นัดรวดตกรอบตามระเบียบ
ปีนี้ ทีม ปราสาทสายฟ้า ที่ชนะ บริสเบน รอร์ ยอดทีมจากออสเตรเรีย ในรอบเพลย์ออฟ ผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มเป็นปีที่สอง ติดต่อกันได้สำเร็จ
มีการเสริมทัพมากมาย ทั้ง ชาริล ชับปุยส์ กองกลางลูกครึ่งไทย-สวิตเซอร์แลนด์, สุรีย์ สุขะ แบ็กซ้ายทีมชาติไทย และ อนาวิน จูจีน กองกลางหน้าหยก จาก บางกอกกล๊าส เอฟซี
ประสานกำลังกับนักเตะหลักได้แก่ สุเชาว์ นุชนุ่ม กองกลางกัปตันทีม, โกรัน เยอร์โควิช ศูนย์หน้าฟอร์มแรงชาวฝรั่งเศส, ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายช้างศึก และ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน นายทวารจอมหนึบ ที่ช่วยให้ทีมผ่านเข้ามาถึงรอบนี้
สำหรับเป้าหมายหลักของ ท่าน เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็คงอยากจะ ปราสาทสายฟ้า ผ่านเข้าสู่รอบ 2 ให้สำเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ปีนี้ แชมป์ เอฟเอ คัพ จะอยู่ร่วมกลุ่ม อี กับ เอฟซี โซล แชมป์เคลีก จาก เกาหลีใต้ , เวกัลตะ เซนได รองแชมป์เจลีก จาก ญี่ปุ่น และ เชียงจู เฉินตี้ รองแชมป์ลีกจีน
1. เอฟซี โซล (เหย้า 12/03/56, เยือน 1/05/56)
เอฟซี โซล โคตรทีมแชมป์เคลีกจากเกาหลีใต้ เป็นคู่แข่งที่หนักที่สุดของ บุรีรัมย์ ก็ว่าได้ โดยมีจุดเด่นที่เกมรุกอันรวดเร็วและเกมรับอันยอดเยี่ยม
โดยทีมดังแดนกิมจิ มีฝีเท้าดีร่วมทัพ ได้แก่ ฮา แด ซุง กองกองกัปตันทีมดีดรีทีมชาติโสมขาว และ เดยัน ดามจาโนวิค กองหน้าทีมชาติ มอนเตเนโกร
อีกทั้ง เอฟซี โซล เป็นอดีตทีมของ "เดอะตุ๊ก" ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ตำนานกองหน้าทีมชาติไทยอีกด้วย
2.เวกัลตะ เซนได (เยือน 26/02/56, เหย้า 24/04/56)
เวกัลตะ เซนได ยอดทีมเจลีก ได้โอกาสเล่น แชมเปี้ยนส์ลีกครั้งแรก ในประวัติศาตร์ นำทัพโดย เรียง ยง-คี กองกองเจ้าถล่มประตูทีมชาติเกาหลีเหนือ และ ชินโกะ อากะมิเนะ กองหน้าแดนซามูไร
ถือได้ว่าเป็นคู่แข่งที่สูสีที่สุดของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ปีก่อนทั้งสองทีมมีโอกาสเจอกันใน ศึกโตโยต้า ซูเปอร์คัพ ที่ไทย ซึ่งครั้งนั้น เซาะกราว เป็นฝ่ายทำได้ดีกว่าชนะจุดโทษคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ
3.เชียงจู เฉินตี้ (เยือน 2/04/56, เหย้า 10/04/56)
รองแชมป์ซูเปอร์ลีก ถือว่าเป็นม้ามีดที่ได้ผ่านเข้ามาเล่นใน เอซีแอล ครั้งแรกอย่างแท้จริง มีผู้เล่นตัวหลักอย่าง ลู โบเฟ่ย มิดฟิลด์ กัปตันทีม และ คริสเตียน ดานาลาเช่ ศูนย์หน้าโรมาเนีย
เรียกได้ว่าเป็นทีมที่ บุรีรัมย์ มีโอกาสชนะได้มากที่สุด แต่ก็ไม่สามารถ ประมาทได้
ถ้าให้วิเคราะห์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก กลุ่ม อี แล้ว บอกได้ว่า ปราสาทสายฟ้า มีโอกาสสูงมากที่จะผ่านเข้าไปรอบต่อไป เพราะทุกทีมล้วนสูสีกันทั้งนั้น
ดังนั้น เซาะกราว คงต้องเน้นเกมในบ้าน เก็บชัยชนะได้ทุกนัด โดยเฉพาะเกมกับทีม เชียงจู เฉินตี้ ที่ประสบการณ์ระดับเอเชียน้อยที่สุดในกลุ่มนี้
เชื่อเหลือเกินว่า ถ้าทีมดังจากภาคอีสาน สามารถคว้าแชมป์เอเชีย ได้สำเร็จ
ก็จะ "สร้างรอยยิ้มให้คนไทยทั้งประเทศ" ได้แน่นอน
เรื่องโดย ดาร์ค ไนท์
CREDIT ภาพ: FB Buriram UTD.